การบุกรุกที่ดินรัฐ ที่ดินสาธารณะของผู้มีอำนาจ ข้าราชการระดับสูง นายทุน มีมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะนักการเมือง นอกจากกรณีที่ดินการรถไฟฯเขากระโดง จ.บุรีรัมย์ ที่มีครอบครัวเครือญาตินักการเมืองเข้าไปครอบครองโดยไม่ถูกต้อง และต้องถูกเพิกถอนตามคำสั่งศาล แต่กลายเป็นปัญหาที่ถูกมองว่าเกี่ยวโยงการเมืองและยังมีปัญหาในลักษณะเดียวกันอีกหลายกรณี ที่เป็นข่าวเกี่ยวข้องกับนักการเมืองในรัฐบาลและฝ่ายค้าน ไม่ว่าจะเป็นสนามกอล์ฟ บ้านจัดสรร สร้างบนที่ดินธรณีสงฆ์ที่อยู่ในกระบวนการเพิกถอน สิทธิ กรณีการบุกรุกที่ดิน ส.ป.ก. ที่ดินของนิคมสร้างตนเอง ก่อสร้างสนามกอล์ฟ รีสอร์ต โรงแรมหรูที่เขาใหญ่ และใน จ.สระบุรีเห็นได้ว่าหลายเรื่องแก้ปัญหากันไม่จบ เป็นข่าวมาต่อเนื่องยาวนานหลายปี สวนทางกับอีกด้าน ประชาชนไทยโดยส่วนใหญ่ยังมีปัญหาไม่มีที่ดินเป็นของตัวเอง ทั้งอยู่อาศัย ประกอบอาชีพ ทำการเกษตร มิหนำซ้ำมีหลายครั้ง ชาวบ้านถูกจับกุม ไล่ออกจากพื้นที่ กรณีบุกรุกพื้นที่ป่า พื้นที่สาธารณะ เพื่อทำการเพาะปลูกเลี้ยงชีพยิ่งถ้าหยิบยกการถือครองที่ดินของผู้มีอำนาจ ข้าราชการ นายทุน เศรษฐีที่เป็นข่าวถือครองทรัพย์สิน โดยเฉพาะที่ดินนับร้อย นับพัน นับหมื่นไร่ นำมาเปรียบเทียบกับคนส่วนใหญ่ของประเทศ สะท้อนว่าประเทศไทยกำลังมีปัญหาการกระจายทรัพยากรที่ไม่เท่าเทียมและเป็นธรรม มีความเหลื่อมล้ำสูงแบบมือใครยาวสาวได้สาวเอาล่าสุดสะท้อนชัดจากผลการประชุมระดมความเห็นของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) กับหน่วยงานรัฐที่ดูแลด้านที่ดิน และสถาบันการศึกษาต่างๆ มีผลการศึกษาในเรื่องนี้พบว่า ในประเทศไทยมีกลุ่มคนเพียง 1% ถือครองโฉนดที่ดิน คิดเป็นสัดส่วน ถึง 16.78% ของที่ดินทั้งหมดในประเทศหากพิจารณาจากมูลค่าในการถือครองที่ดิน มีสัดส่วนการถือครองสูงถึง 34.91% ของมูลค่าโฉนดที่ดินทั้งหมด และโดยเฉลี่ยแล้วคนในกลุ่มนี้ถือครองโฉนดที่ดินคนละ 81 ไร่ คิดเป็นมูลค่าเฉลี่ย 35 ล้านบาทต่อคน เป็นเรื่องที่ สศช.เสนอแนะให้ภาครัฐเพิ่มโอกาสการถือครองที่ดินของผู้มีรายได้น้อย เพื่อลดปัญหาความเหลื่อมล้ำที่ประชุมได้มีข้อเสนอแนวทางแก้ปัญหา เช่น รัฐต้องใช้มาตรการทางภาษีมาแก้ปัญหา อาทิ ภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ภาษีมรดก การปรับกฎเกณฑ์เพิ่มโอกาสในการเข้าถึง และใช้ประโยชน์ในที่ดินรัฐสำหรับประชาชนส่วนใหญ่ ทั้งหมดเพื่อช่วยบรรเทาความเหลื่อมล้ำ ลดภาวะรวยกระจุกจนกระจายที่กำลังรุนแรงอยู่ในสังคมไทย.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม