แม่ทัพภาคที่ 2 ลั่นใครรุกล้ำอธิปไตยไทยเรายิง หลังพบกองกำลัง BHQ กัมพูชาแอบซุ่มดูทหารไทยลาดตระเวน ส่วนการประชุม RBC ที่ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 27 ส.ค. ยืนยันข้อเสนอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมเก็บกู้วัตถุระเบิดกับไทยต้องครอบคลุมพื้นที่ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ขณะที่ชายแดนไทยบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อลวดหนามกั้นเขตแดน ส่งเสียงเอะอะโวยวายเปิดเพลงปลุกใจดังสนั่น ก่อกวนปาสิ่งของใส่ทหารไทย ผบ.ทบ. น้อมสำนึก “ในหลวง” พระราชทานขาเทียมให้กำลังพล 5 ราย รัฐบาลเปิดทำเนียบฯต้อนรับ สส.สหรัฐฯพร้อมชี้แจงข้อเท็จจริงสถานการณ์ไทย-กัมพูชา ย้ำจุดยืนไทยแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธีและจริงใจนำเสนอข้อเท็จจริงไทยยังเฝ้าระวังความเจ้าเล่ห์ของกัมพูชาที่มักจะพลิกแพลงพูดไม่ตรงข้อตกลงและสร้างเฟกนิวส์ไปทั่วโลก ขณะที่ชายแดนด้าน จ.สระแก้วตึงเครียด ชาวกัมพูชาบุกรื้อรั้วลวดหนามและปาของใส่ทหารไทยจนบาดเจ็บ 1 นายมทภ.2 ย้ำต้องกู้ทุ่นระเบิดทั้งแนวที่กองบัญชาการกองทัพบก เวลา 10.00 น. วันที่ 25 ส.ค. พล.ท.บุญสิน พลาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวถึงการประชุมคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคไทย-กัมพูชา สมัยวิสามัญ หรือ RBC บริเวณจุดผ่านแดนถาวรช่องสะงำ ต.ไพรพัฒนา อ.ภูสิงห์ จ.ศรีสะเกษ วันที่ 27 ส.ค.ว่า ข้อเสนอการหารือไม่ต่างกับพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 และกองทัพเรือ ทั้งการเก็บกู้ทุ่นระเบิด การรักษาอธิปไตย อยู่บนพื้นฐานปกติ ยืนยันว่าข้อเสนอเรียกร้องให้กัมพูชาร่วมเก็บกู้วัตถุระเบิดกับไทย ต้องครอบคลุมพื้นที่ทั้งหมด ตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ไม่ใช่เฉพาะพื้นที่ที่มีการปักปันเขตแดนที่ชัดเจนแล้ว แต่ยังไม่ทราบว่ากัมพูชาจะรับเงื่อนไขนี้หรือไม่ สุดท้าย แล้วขึ้นอยู่กับนโยบายของระดับผู้นำกัมพูชามากกว่า หากข้อใดได้ข้อยุติจะนำไปหารือในระดับอื่นต่อไป กรณีฝ่ายกัมพูชายื่นข้อเสนอให้ไทยรื้อรั้วลวดหนาม แลกกับการเก็บกู้ทุ่นระเบิด เป็นคนละประเด็นกัน เราไม่รับข้อเสนอนี้อยู่แล้ว รั้วลวดหนามคือแนวตั้งกำลังของฝ่ายไทยลั่นถ้ารุกล้ำอธิปไตยไทยเรายิงพล.ท.บุญสิน ยังกล่าวถึงกรณีกองกำลัง BHQ กัมพูชา แอบซุ่มดูการลาดตระเวนของทหารไทย ฝั่งทหารไทยได้ทำการตอบโต้ หากรุกล้ำอธิปไตยของไทยเราก็ยิง เขามาในลักษณะเคลื่อนที่เร็ว ได้ให้แนวทางกับกำลังพลไปแล้ว หากพบเจอให้ตอบโต้ทันที รวมถึงการลอบวางทุ่นระเบิดด้วย ฝ่ายกัมพูชายังละเมิดการหยุดยิงด้วยการวางทุ่นระเบิด เนื่องจากเป็นนโยบายของระดับผู้บังคับบัญชาของเขา แต่เรามีมาตรการประท้วงตอบโต้อยู่ตลอด พร้อมระบุไปว่า อย่าทำอีก เนื่องจากเป็นการรุกล้ำอธิปไตยของไทย เมื่อถามว่าข้อตกลงในเวทีทวิภาคีจะสามารถนำไปสู่การปฏิบัติได้จริงหรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า เป็นไปตามที่เราเข้าใจ เมื่อถามว่ามีโอกาสที่จะได้เห็นกองกำลังทั้ง 2 ฝ่ายปรับลดกำลัง นำอาวุธหนักออกจากพื้นที่หรือไม่ แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าวว่า ขึ้นอยู่กับรัฐบาลของ 2 ประเทศ หน่วยปฏิบัติงานในพื้นที่ไม่สามารถตัดสินใจได้ ส่วนเวลาราชการที่เหลือเพียงหนึ่งเดือน ไม่กังวลอะไรป้องอธิปไตยไม่เกี่ยวชี้ชะตาคดีนายกฯเมื่อถามว่าสมเด็จฮุน เซน ที่นั่งรักษาการประมุขแห่งรัฐของกัมพูชา จะส่งผลต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาหรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับนโยบายของสมเด็จฮุน เซน ไม่ว่าจะออกมาแนวทางไหนเราพร้อมรับมือ ในส่วนของไทยขึ้นอยู่กับรัฐบาลเช่นกัน เมื่อถามว่าวันที่ 29 ส.ค. จะมีการตัดสินคดีคลิปสนทนาของนายกฯกับสมเด็จฮุน เซน จะส่งผลต่อสถานการณ์หรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า เป็นเรื่องของการเมือง เรื่องชายแดนเราก็ทำหน้าที่ปกป้องอธิปไตย คงไม่เกี่ยวกัน เมื่อถามว่ามีความพยายามดิสเครดิตกองทัพหรือไม่ เช่นการปล่อยคลิปเก่านายทหารทำร้ายกำลังพล หรือการทำโพลสำรวจความคิดเห็นว่าสนับสนุนให้ทหารเป็นนายกฯหรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า มีส่วน แต่กองทัพมีความมุ่งมั่นอยู่แล้ว ปฏิบัติตามกรอบและหน้าที่ที่ถูกต้อง ใช้ความจริงใจทำงานเพื่อประเทศชาติบ้านเมือง เชื่อว่าประชาชนจะเข้าใจรับรู้ได้เลี่ยงตอบหากผลเป็นลบกระทบชายแดนเมื่อถามย้ำว่าหากผลวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญออกมาเป็นลบ อาจทำให้รัฐบาลเกิดสุญญากาศจะส่งผลต่อพื้นที่ชายแดนหรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า ต้องดูสภาพแวดล้อมทั่วไป ต้องวิเคราะห์หลายอย่างร่วมกัน ยืนยันว่าเราไม่ได้เป็นฝ่ายเริ่มก่อน เรามุ่งมั่นยึดถือในเส้นเขตแดน เมื่อถามต่อว่าหากผลเป็นลบจะกระทบต่อการหารือ การประชุมคณะกรรมการชายแดน ทั่วไป หรือ GBC ที่จะเกิดขึ้นในช่วงต้นเดือน ก.ย.นี้ หรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า ข้าราชการประจำก็ต้องทำงานอยู่ ไม่น่าจะเกี่ยวข้องหรือส่งผลอะไร การเมืองก็ว่ากันไป ทั้งนี้ ในที่ประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) วันนี้ (25 ส.ค.) ผบ.ทบ.กล่าวขอบคุณกำลังพลทุกนายที่ปฏิบัติหน้าที่ด้วยความทุ่มเทและเสียสละ เพื่อปกป้องอธิปไตยของประเทศ ท่านระบุว่าพร้อมสนับสนุนในทุกด้านร่วมสนทนาพิเศษเรื่องจริงจากชายแดนช่วงบ่าย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ไปร่วมการสนทนาพิเศษ “เรื่องจริงจากชายแดน” ที่ห้องประชุมสุธรรม อารีย์กุล มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และกล่าวตอนหนึ่งว่า แม้ใกล้เกษียณจากตำแหน่งแม่ทัพ แต่ไม่ได้เกษียณจากความเป็นคนไทย จะอยู่กับพี่น้องคนไทยจนกว่าจะสิ้นลม ขอย้ำว่าไม่เล่นการเมืองอยู่ตรงไหนก็ได้ที่ไม่มีผลประโยชน์ คำพูดนี้คงจะสื่อไปถึงหลายท่าน ที่ชักชวนเล่นการเมือง ตนไม่ถนัด แต่ถนัดปกป้องแผ่นดินเพื่อประเทศชาติ พระมหากษัตริย์เป็นหลักชัยให้ประเทศชาติ ท่านเป็นกลางทุกอย่าง ท่านไม่ยุ่งเรื่องการเมืองทั้งสิ้น ท่านเป็นจอมทัพไทยที่ดูแลเสาหลักให้กับประเทศชาติ ผู้ที่ใกล้ชิดท่าน ทำงานเข้าเวรจะต้องไม่เกี่ยวกับการเมือง รัชกาลที่ 9 พัฒนาทุกอย่างจนเสด็จพระราชดำเนินไม่ไหว ส่วนรัชกาลที่ 10 ท่านเป็นหลักชัยให้กับประเทศ ชาติต้องคงไว้ อดีตไม่รู้ว่ามีเท่าไหร่ ปัจจุบันมีเท่านี้ ในฐานะแม่ทัพภาคที่ 2 ต้องดูแลแผ่นดินนี้ให้ดีที่สุด ถ้ารุกเข้ามาในห้วงที่ผมอยู่ไม่ได้เด็ดขาด ไม่ว่าคุณจะเป็นใครยิ่งใหญ่มาจากไหน เมื่อถามว่าชายแดนไทย-กัมพูชา เสี่ยงปะทะอีกรอบหรือไม่ หากปะทะจะสามารถยึดปราสาทตาควายได้หรือไม่ พล.ท.บุญสินกล่าวว่า ขึ้นอยู่กับผู้นำกัมพูชาและท่าทีของทหารกัมพูชาก้าวร้าวหรือไม่ กวนเราหรือไม่ หรือเริ่มก่อนหรือไม่ หากเป็นเช่นนั้นเรามีสิทธิ์ตอบโต้ เราจะทำให้ดีที่สุดมีเวลาไปจนถึงวันที่ 30 ก.ย. จนบางครั้งก็ลืมไปว่า เหลืออีกไม่กี่วันแล้วจะเกษียณผบ.ทบ.น้อมสำนึก “ในหลวง–ราชินี”วันเดียวกัน พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก แถลงผลการประชุมหน่วยขึ้นตรงกองทัพบก (นขต.ทบ.) ครั้งที่ 11/2568 ที่มี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผบ.ทบ. เป็นประธาน วาระการประชุม กรมแพทย์ทหารบกรายงานแนวทางการบริการทางการแพทย์ให้กับกำลังพลที่ปฏิบัติงานในพื้นที่ชายแดน ตลอดระยะเวลาตั้งแต่เกิดเหตุ มีการจัดนายทหารเสนารักษ์ ลงพื้นที่ดูแลสุขภาพกำลังพลในทุกมิติ ล่าสุดจัดทีม M-MCATT เข้าประเมินและคัดกรองสภาพจิตใจของกำลังพล ในส่วนกำลังพลที่บาดเจ็บและสูญเสียอวัยวะจากการสู้รบ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานขาเทียมให้กำลังพลทั้ง 5 ราย กองทัพบกจะเร่งดำเนินการ เพื่อให้กำลังพลกลับมาดำเนินชีวิตตามปกติได้โดยเร็ว ผบ.ทบ.ยังย้ำในที่ประชุมว่า ในนามข้าราชการกองทัพบกขอน้อมสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี และพระบรม วงศานุวงศ์ทุกพระองค์ ที่พระราชทานความช่วยเหลือ ให้ทหารที่ปฏิบัติหน้าที่ปกป้องอธิปไตยชาติ รวมถึงประชาชนที่เดือดร้อนในพื้นที่ชายแดน นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอันหาที่สุดมิได้ ที่สถาบันพระมหากษัตริย์ทรงมีความห่วงใยและเมตตาต่อพสกนิกรไทยทุกภาคส่วนหนักใจกัมพูชาพูดไม่ตรงข้อตกลงที่ทำเนียบรัฐบาล เวลา 09.10 น. นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงการประชุมอาร์บีซี วันที่ 25 ส.ค. ระดับเจ้าหน้าที่ว่า เป็นประเด็นต่อจากการประชุมจีบีซีครั้งที่ผ่านมา แต่อาจแตกต่างกันบ้างจากสภาพพื้นที่และสภาพปัญหา โดยพื้นฐานเป็นเรื่องต่อจากจีบีซีครั้งที่แล้วและเป็นเรื่องระดับแม่ทัพไปคุยกัน ส่วนใหญ่เป็นเรื่องเส้นแดน ทำอย่างไรให้ได้ข้อสรุปตรงกันมากที่สุด เมื่อถามว่าแนวโน้มน่าจะเป็นสัญญาณที่ดีใช่หรือไม่ มีเรื่องของรั้วลวดหนามที่แตกต่างจากกองทัพภาคที่ 1 นายภูมิธรรมกล่าวว่า เรื่องรั้วลวดหนามอาจไม่ตรงกับสิ่งที่ได้คุยกันมา เพราะเราไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้เลย เข้าใจว่าผู้ช่วยทูตทหารไทยที่ประจำอยู่กัมพูชา ยื่นหนังสือประท้วงไปแล้ว แต่สิ่งที่เป็นปัญหาที่หนักใจอยู่ คือเวลาพูดตกลงกัน โฆษกฝั่งเขาชี้แจงอีกแบบ เป็นแบบนี้ตั้งแต่สมัยตนเป็น รมว.กลาโหม ได้สั่งการตลอดว่าหากมีอะไรเกิดขึ้นให้เก็บหลักฐาน รายละเอียด ขณะนี้ รมว.ต่างประเทศเดินทางไปเจนีวา สวิตเซอร์แลนด์ พบคณะกรรมการเกี่ยวกับอนุสัญญาออตตาวา เอาหลักฐานทั้งหมดไปคุย เราสู้ในทิศทางของเราคือ ใจเย็น รักสันติ แต่ไม่ยอมให้ใครรุกล้ำอธิปไตย ขณะนี้เสียงตอบรับต่างประเทศค่อนข้างดี รู้สึกว่าสิ่งที่เรา พูดมีความชัดเจน ความจริงคือความจริงรับคุยเจรจาเขตแดนจบไม่ง่ายเมื่อถามว่าในกัมพูชามีการชุมนุมเรียกร้อง ให้นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เข้ามาแทรกแซง จะส่งผลต่อการพูดคุยระดับทวิภาคีของไทย-กัมพูชาที่ดำเนินการอยู่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นสิทธิของเขา เราไม่ก้าวล่วง เมื่อถามว่าครบรอบ 1 เดือนสถานการณ์ไทย-กัมพูชา มีแนวโน้มทิศทางที่ดีขึ้นมากน้อยแค่ไหน นายภูมิธรรมกล่าวว่า อยู่ระหว่างการดำเนินการ ถ้าไปดูประวัติศาสตร์โลก ไม่ใช่ประวัติศาสตร์ไทย การเจรจาเรื่องเขตแดนไม่เคยจบได้ง่ายๆ บางประเทศเป็นเวลาหลายๆสิบปี หรือบางประเทศเป็นร้อยปีก็มี ฉะนั้นตอนนี้เพิ่งเริ่มต้นในรอบใหม่ จริงๆเรามีปัญหามาตลอด แต่จบได้เป็นช่วงๆ อยู่ที่ว่าแต่ละช่วงสถานการณ์เป็นอย่างไร อย่าไปกังวลใจ ถ้าเรายังอยู่จุดที่เห็นควรว่าไม่ควรทำให้เกิดสงคราม ถ้าไม่จำเป็นและยังยืนยันที่จะรักษาผลประโยชน์ อธิปไตยของประเทศ เจรจาจบหรือไม่จบมันยังอยู่แค่ตรงนี้ ไม่รุกล้ำไปไหนอย่ากังวลถ้ามีโฉนดหลักฐานจบนายภูมิธรรมยังกล่าวถึงกรณีนายปริญญา โพธิสัตย์ ผวจ.สระแก้ว กล่าวต่อหน้าคณะผู้สังเกตการณ์ชั่วคราวอาเซียน (ไอโอที) ว่าบ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ไม่มีเอกสารสิทธิ อ้างเป็นพื้นที่ป่า จนทำให้ฝ่ายกัมพูชานำคำพูดดังกล่าวไปแอบอ้างว่า เรื่องนี้ผวจ.สระแก้วชี้แจงแล้วว่าเป็นการสื่อสารที่ผิด ความจริงแล้วพื้นที่ดังกล่าวมีหนังสือ สค.1 ซึ่ง ผวจ.อาจหมายถึงโฉนด เรื่องนี้ความจริงคือความจริง ไม่ว่าจะไปอ้างอย่างไรถ้าเรามีโฉนด มี สค.1 มีหลักฐานไม่ใช่อยู่ๆมาสร้างตอนนี้ได้ ขออย่าเป็นกังวลกับคำพูด หรือการเคลื่อนไหวทางโซเชียล เมื่อถามว่าเป็นการพูดต่อหน้าคณะไอโอที จะเป็นหลักฐานได้หรือไม่ว่า อาจเป็นการให้ข้อมูลบิดเบือนจากไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า เมื่อมีหลักฐานมายืนยัน บอกว่าพูดผิดมันก็จบคณะ สส.มะกันไปอุบลฯดูพื้นที่ขัดแย้งจากนั้นเวลา 10.00 น. นายภูมิธรรมให้การต้อนรับคณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐอเมริกา มี พล.อ.ณัฐพล นาคพาณิชย์ รมช.กลาโหม นายฉัตรชัย บางชวด เลขา สมช. เข้าร่วม นายภูมิธรรมให้สัมภาษณ์อีกครั้งว่า ได้พบสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯทั้งหมด 4 คน 2 คนจากพรรครีพับลิกัน อีก 2 คนจากพรรคเดโมแครต มาเยี่ยมติดตามสถานการณ์ทั้งหมด มีการพูดถึงความสัมพันธ์ระหว่างไทย-สหรัฐฯ และอีกหลายเรื่อง รวมถึงปัญหากับกัมพูชา ตลอดจนเรื่องเศรษฐกิจ โดยเฉพาะเรื่องการลงทุน ได้นัดหมายให้คณะพบนายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกฯ และ รมว.คลัง พูดคุยเรื่องเศรษฐกิจและความมั่นคง ส่วนวันที่ 26 ส.ค.คณะดังกล่าวเดินทางไป จ.อุบลราชธานี ดูพื้นที่ความขัดแย้งของ 2 ประเทศ มีกระทรวงการต่างประเทศเป็นผู้นำไป เราต้องสู้ด้วยความจริงไม่ใช่สงครามข่าวสาร ซึ่งคณะสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ มีกำหนดการจะเดินทางไปประเทศกัมพูชาต่อตอนนี้ไทยเป็นต่อปมทุ่นระเบิดผู้สื่อข่าวถามว่าคณะที่มาพบมีความคิดเห็นอย่างไรต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายภูมิธรรมกล่าวว่า เขาเป็นห่วง เข้ามาในบทบาทผู้สังเกตการณ์ชั่วคราว ประธานาธิบดีสหรัฐฯยื่นมือมาตั้งแต่แรก เรายอมรับบทบาทผู้สังเกตการณ์ทั้งสหรัฐฯและจีน รวมถึงทูตทหารในประเทศไทยและอาเซียน ยืนยันว่าทุกอย่างกำลังเดินหน้าไปในทิศทางที่ดีขึ้น แม้มีความไม่เข้าใจกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่ทั้งหมดจะจบและไปเริ่มต้นกันในวันที่ 10 ก.ย. ที่ต้องมีการไปพูดคุยกันต่อ เขาเข้าใจดีว่าการแก้ไขปัญหาชายแดนในโลกนี้ไม่ได้จบโดยง่าย แต่เราอยากเห็นการตกลงกันด้วยสันติภาพ คำนึงถึงชีวิตประชาชนที่ได้รับผลกระทบ สำคัญคือต้องใช้ความจริง ไม่ใช้สงครามข่าวสารปลุกระดมคนสองประเทศที่เกลียดชังกัน เมื่อถามว่าได้บอกคณะที่มาหรือไม่ว่า กัมพูชาเป็นผู้ฝังระเบิดในไทย นายภูมิธรรมกล่าวว่า พูดไปทั้งหมด เมื่อถามถึงกรณีขณะนี้มีการพูดถึงการยกเลิกเอ็มโอยู 2543-2544 นายภูมิธรรมกล่าวว่า ตอนนี้เรื่องที่กัมพูชาลอบวางทุ่นระเบิดในประเทศไทย และเรื่องรั้วลวดหนามเป็นประโยชน์กับเรา อยากให้โฟกัส 2 เรื่องนี้ก่อน ไม่อยากให้แตกไปหลายประเด็นเผยคลิปเก่านายทหารทำร้ายกำลังพลวันเดียวกัน พ.อ.ริชฌา สุขสุวานนท์ รองโฆษก กองทัพบก กล่าวว่า ตามที่ปรากฏคลิปวิดีโอเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ ระบุว่า มีเหตุการณ์กำลังพลนายสิบถูกนายทหารทำร้ายร่างกายที่แนวชายแดนปราสาทตาควาย เมื่อวันที่ 21 ส.ค.68 ที่มีการซ้อม Rock rehearsal (การซ้อมปฏิบัติการตามแผนการรบในภูมิประเทศจำลอง) ที่ฐาน 225 รวมทั้งมีการแสดงความคิดเห็นเพิ่มเติมว่า นายทหารคนดังกล่าว สังกัดกรมทหารราบที่ 31 รักษาพระองค์ มีประวัติเคยทำร้ายนายสิบและพลทหารคนนั้น กองทัพบกตรวจสอบข้อเท็จจริงไปยังผู้บังคับหน่วยทหารในพื้นที่ ขอชี้แจงว่า คลิปดังกล่าวเป็นคลิปเก่าเมื่อปี 2558 นายทหารในคลิปกระทำพฤติกรรมไม่เหมาะสมจริงและถูกลงทัณฑ์ตามระเบียบที่กำหนดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว 2.กรณีที่มีผู้แสดงความคิดเห็นระบุถึงนายทหารรายนี้ว่า กระทำพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมกับลูกน้องผู้เป็นเพื่อนร่วมงาน พร้อมระบุว่าเป็นเหตุการณ์เมื่อเร็วๆนี้ หน่วยต้นสังกัด กำลังสอบสวนข้อเท็จจริง หากพบว่ากระทำผิดจริงจะลงโทษทางวินัยตามระเบียบอย่างเหมาะสมในทันทีไทย–กัมพูชา ลงนามยกระดับจัดตั้ง RBCอีกด้าน พล.ร.ต.ปารัช รัตนไชยพันธ์ รองโฆษกกองทัพเรือ กล่าวว่า กองบัญชาป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด ร่วมกับภูมิภาคทหารที่ 5 กองทัพบกกัมพูชา จัดให้มีการประชุมความร่วมมือส่วนภูมิภาคสมัยวิสามัญ ที่ด่านชายแดนถาวรบ้านผักกาด อ.โป่งน้ำร้อน จ.จันทบุรี มี พล.ร.ท.อภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการป้องกันชายแดนจันทบุรีและตราด และ พล.ท.เอก ซ็อมโอน รองผู้บัญชาการทหารบกกัมพูชา/ผู้บัญชาการภูมิภาคทหารที่ 5 ตลอดจนคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาคของทั้งสองฝ่าย เข้าร่วมพิธีลงนามในบันทึกข้อตกลง เตรียมยกระดับไปสู่การจัดตั้งคณะกรรมการชายแดนส่วนภูมิภาค (RBC) ทั้งสองฝ่ายต่อไป นอกจากนี้มีประเด็นที่ต้องติดตามต่อ คือ การเสนอเรื่องความร่วมมือในการเก็บกู้ทุ่นระเบิด และการปราบปรามสแกมเมอร์ ในการประชุม GBC ครั้งต่อไปติดตามเก็บกู้ทุ่นระเบิด–ปราบสแกมเมอร์รองโฆษกกองทัพเรือกล่าวอีกว่า การเก็บกู้ทุ่นระเบิดเพื่อมนุษยธรรมและการปราบปรามเครือข่าย สแกมเมอร์ เป็นการผลักดันจากฝ่ายไทย เชื่อว่านานาชาติจะสนับสนุนท่าทีของไทยครั้งนี้ ทั้งในเรื่องการกำจัดทุ่นระเบิดบุคคลให้หมดไป ตามอนุสัญญาออตตาวาและการปราบปรามเครือข่ายสแกมเมอร์ ที่สร้างความเสียหายมากมายไปทั่วโลก ในส่วนการปราบปรามสแกมเมอร์ เป็นที่ทราบกันดีว่า พื้นที่ตามแนวชายแดนของไทยเป็นฐานใหญ่ของอุตสาหกรรมคอลเซ็นเตอร์หลอกลวง ขนาดใหญ่สร้างความเสียหายราว 12.5-19 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯต่อปี มีการกระทำความผิดในการค้ามนุษย์ บังคับใช้แรงงานหลอกลวงออนไลน์ ที่มีเหยื่อที่เป็นเด็กและเสียชีวิตจากการถูกทารุณ ฝ่ายไทยยังหวัง ว่าฝ่ายกัมพูชาจะแสดงความจริงใจร่วมกันผลักดัน 2 ภารกิจนี้ศูนย์ฯทุ่นระเบิดแห่งชาติประณามกัมพูชาพ.อ.ศิวะ หว่างอากาศ โฆษกศูนย์ปฏิบัติการทุ่นระเบิดแห่งชาติ กล่าวถึงกรณีทหารไทยพบทหารกัมพูชา 2-3 นาย ปฏิบัติการดักซุ่มตรวจการณ์ฝ่ายไทยบริเวณเนิน 350 ต.บักได อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ล้ำเข้ามาในเขตไทย เมื่อวันที่ 22 ส.ค.ว่า ศูนย์ฯขอประณามการกระทำดังกล่าวของฝ่ายกัมพูชาว่า เป็นการละเมิดข้อตกลงหยุดยิงจากผลการประชุม GBC ที่ผ่านมาอย่างชัดเจนในหลายประเด็น อีกทั้งเป็นการยั่วยุและเป็นการรุกล้ำดินแดน แสดงให้เห็นว่ากัมพูชาบิดเบือนและนำเสนอข้อมูลต่อประชาคมโลก ล้วนเป็นความเท็จและยังบ่งบอกถึงความไม่จริงใจในการแก้ปัญหาความขัดแย้งระหว่าง 2 ประเทศ ที่จะนำไปสู่การสร้างสันติภาพอย่างเป็นรูปธรรมและยั่งยืนชายแดนเดือดเขมรบุกรื้อลวดหนามส่วนสถานการณ์ที่ชายแดนไทย—กัมพูชา บ้าน หนองจาน ต.โนนหมากมุ่น อ.โคกสูง จ.สระแก้ว เกิดความตึงเครียดอย่างต่อเนื่องเมื่อวันที่ 25 ส.ค. หลังจากฝ่ายกัมพูชาได้ประกาศเสียงตามสาย ระดมชาวบ้านให้ออกมารวมตัวกันที่บริเวณจุดพิพาทติดแนวชายแดน เมื่อชาวบ้านจำนวนหนึ่งเดินทางมาถึงได้เกิดเหตุจลาจลเล็กน้อย เนื่องจากกลุ่มชาวกัมพูชาบางส่วนบุกเข้ามารื้อรั้วลวดหนามที่ฝ่ายไทยขึงกั้นไว้เพื่อป้องกันการรุกล้ำและยังขว้างปาสิ่งของใส่เจ้าหน้าที่ฝั่งไทยอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ทหารไทยบาดเจ็บ 1 นาย ขณะควบคุมสถานการณ์ ทั้งนี้ ชาวกัมพูชาได้ทยอยเดินทางเข้ามาสมทบเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ทำให้บรรยากาศยิ่งตึงเครียดขึ้น กองกำลังทหารไทยจึงเสริมกำลังเข้าตรึงพื้นที่ ควบคุมสถานการณ์ ป้องกันเหตุการณ์ บานปลาย ขณะที่ฝั่งกัมพูชามีการเปิดเพลงเสียงดังสนั่นคาดเป็นเพลงปลุกใจ เพื่อสร้างขวัญและกระตุ้นให้ชาวบ้านในพื้นที่มีความฮึกเหิมมากขึ้น สร้างความกดดันให้กับเจ้าหน้าที่ฝั่งไทยที่กำลังปฏิบัติหน้าที่อยู่เผยเขมรเข้าใจผิดบุกรื้อลวดหนามต่อมา พล.ต.วินธัย สุวารี โฆษก ทบ. กล่าวว่า เหตุการณ์เรื่องลวดหนามที่ชาวกัมพูชาบุกมารื้อ เป็นคนละส่วนกับแนวลวดหนามเดิม การวางแนวลวดหนามชั่วคราวในวันที่ 25 ส.ค. เพื่อเป็นแนวรักษาความปลอดภัยให้กับคณะสำรวจของ จ.สระแก้ว ในการลงสำรวจที่ดินร่วมกับประชาชนบริเวณบ้านหนองจาน แต่ชาวบ้านกัมพูชาไม่เข้าใจจึงแสดงท่าทีไม่พอใจ เมื่อเกิดเหตุกองกำลังบูรพาจึงเข้าพูดคุยทำความเข้าใจ หลังการตรวจพื้นที่เสร็จเรียบร้อย กองกำลังบูรพาจึงได้ดำเนินการปรับพื้นที่ให้เหมือนเดิม กองทัพภาคที่ 1 ยืนยันว่าเป็นความเข้าใจผิดของฝ่ายกัมพูชา ฝ่ายไทยได้พูดคุยชี้แจงการปฏิบัติด้วยความ ระมัดระวัง อยู่ภายใต้กรอบกฎหมายและความสัมพันธ์ ระหว่างประเทศป้องกันมิให้สถานการณ์บานปลายอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่