ผ่านประสบการณ์มากมาย โลดแล่นมาแล้วหลายบทบาท ในวงการบันเทิง แต่สาว เลดี้ปราง (LADIIPRANG) หรือ “ปราง–กัญญ์ณรัณ วงศ์ขจรไกล” ขอเป็น “น้องใหม่” ที่พร้อมเดินหน้าพัฒนาไม่หยุด ในฐานะ “ศิลปิน” อีกความฝันหนึ่งที่ “ปราง” ตั้งใจพิสูจน์ตัวเอง ล่าสุดไม่นานนี้กับการเปิดตัวในฐานะศิลปินภายใต้สังกัด LOVEiS ENTERTAINMENT พร้อมปล่อยซิงเกิลแรก “อยู่จนกว่าจะทนไม่ไหว (stay)” เผยการพัฒนาขึ้นไปอีกขั้น ทั้งเสียงร้องที่ชัดเจนไพเราะและถ่ายทอดอารมณ์เศร้าบาดลึก เลือกเล่าเพลงจากชีวิตจริง! เพลง “อยู่จนกว่าจะทนไม่ไหว (stay)” เพลงนี้ “เลดี้ปราง” เขียนขึ้นจากเรื่องราวในชีวิตจริงของตัวเอง ช่วงเวลาที่สับสนในความสัมพันธ์ ไม่มีความสุขแต่ก็ไม่กล้าพอที่จะเดินออกมา แต่วันนี้ปรางข้ามผ่านตรงนั้นมาได้แล้วและหวังว่าเพลงนี้จะเป็นเพื่อนใจของใครอีกหลายคน “ดีใจค่ะ เพลงนี้ ภูมิใจ เพราะตั้งใจกับมันมาก เราก็พยายามพัฒนาตัวเองมาตลอดและก็ภูมิใจแทนคนที่เขาตั้งใจทำทุกอย่างให้เรา เราไม่ได้ต้องการให้เพลงนี้ออกมาเพื่อคนไปขุดคุ้ยอดีตหรือว่าเอาไปทำร้ายใคร เป็นมุมที่บอกว่าฉันเคยอ่อนแอเหมือนกับผู้หญิงทุกคน แต่วันหนึ่งคุณก็สามารถกลับมาเข้มแข็งได้” พาร์ตดนตรีเป็นเพลงจังหวะช้าฟังง่ายแต่เต็มไปด้วยอารมณ์เศร้า โดดเด่นด้วยเสียงกลอง กีตาร์ที่ได้ ตูน–พีรพล เอี่ยมจำรัส หรือ ตูน Three Man Down เรียบเรียงดนตรี ในส่วนของเนื้อเพลงก็ได้ แพท–รัณนภันต์ ยั่งยืนพูนชัย หรือ แพท KLEAR มาช่วยเติมเต็มให้ถ่ายทอดความรู้สึกได้ลึกซึ้งและเข้าถึงใจผู้ฟัง “ปราง” เผยแพชชันการเป็นศิลปิน ณ วันนี้ ถ้าถามว่าอะไรของ ความเป็น LOVEiS ที่เหมาะกับความเป็นเลดี้ปราง สำหรับตัวเองรู้สึกว่าการทำงานของคนเราในทุกๆชิ้นมันต้องมีการพัฒนา คนที่รอเสพผลงานเรา เขาก็คงรอดูอะไรใหม่ๆจากเรา เป็นช่วงที่หยุดมองหาแล้วก็คุยกับตัวเองอยู่เหมือนกันว่าจะไปต่อในเส้นทางนี้ไหม ถ้าเราเลือกที่จะไปต่อ คิดว่าเราต้องก้าวกระโดดไปอีกหนึ่งขั้น ได้คุยกับหลายๆที่ แต่พอได้คุยกับทางเลิฟอิส เรารู้สึกว่าเรามีเป้าหมายเดียวกัน เขาอยากพัฒนาเรามากกว่านี้ และเราเองก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันต้องทำยังไงบ้าง เขาอยากทำให้เราเป็น Professional Singer มากขึ้น มองเห็นในจุดเดียวกัน เลยแมตช์กัน เราอยู่ในวงการนี้มานานจริงๆแต่ว่าในฐานะนักร้องอาจจะยังไม่ได้อยู่ในจุดที่คนยอมรับมากหรือมีฐานแฟนเพลงเยอะขนาดนั้น ตรงนี้เราเลยอยากลองไปลึกกว่านั้น เรายอมรับในศักยภาพตัวเองแล้วยินดีที่จะก้าวเข้ามาตรงนี้เหมือนเป็นน้องใหม่ คือเราก็ต้องเปิดรับกันทั้งคู่ สิ่งที่เราทำได้ดีที่สุดคงทำอะไรไม่ได้นอกจากการพัฒนาตัวเองต่อไป แล้วก็ทำในสิ่งที่ตัวเองคิดว่ามันดีที่สุด ส่วนทิศทางของการเป็นศิลปิน ของ “เลดี้ปราง” เป็นการบอกเล่าความรู้สึกที่ค่อนข้างจริงใจ อย่างเพลงแรกเราก็เปิดความรู้สึกหมดแล้วว่าเราสามารถเล่าได้ทุกเรื่อง อยากให้เป็นผู้หญิงที่สามารถถ่าย ทอดอารมณ์ไม่จำเป็นต้องเป็นเรื่องของตัวเอง ชีวิตตอนนี้อยู่ในจุดที่ดีทั้ง “งาน” และ “ความรัก” กับหนุ่ม โอบ–โอบนิธิ ด้วยการเดินทางของจังหวะชีวิตมาถึงจุดที่ลงล็อก “จะพูดแบบนั้นก็ได้ค่ะ เราก็ไม่รู้หรอกว่าสุดท้ายแล้วมันจะเป็นยังไง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องงานเพลงเราก็ไม่รู้ว่าจะไปได้ไกลแค่ไหน ส่วนความรักก็เหมือนกันแต่ถามว่าปัจจุบันดีมากๆไหม มันดีมากๆ เป็นเรื่องที่ตื่นมาทุกวันแล้วมีความสุข หนูไม่ได้มองระยะยาวขนาดนั้นแต่ว่าหนูมองว่าทุกวันตื่นมา หนูได้มาทำสิ่งที่เรารัก มาร้องเพลง ตื่นมารู้ว่ามีคนรักที่ดีความสัมพันธ์ที่ดี มาคุยเรื่องดีๆกับเรา มันแค่นั้นแหละค่ะ” เป็นคู่คลั่งรักที่ชอบ “บอกรัก” กันบ่อยๆ ใครพูดบ่อยกว่า? “เราก็พูดกับเขาบ่อยมากๆในทุกๆวันแบบพูดมากกว่า 1 ครั้ง ถ้ามันพูดแล้วมันเป็นสิ่งดีๆ แล้วมันออกมาจากใจเราจริงๆคนฟังจะสัมผัสได้ ถามว่าใครบอกรักเยอะกว่า หนูอยู่แล้วค่ะ หนูเป็นคนสอนให้เขาเป็นคนโรแมนติก เพราะเขารู้ว่าเราชอบอะไรแบบนี้ หมายถึงว่าเป็นวิธีที่ทำให้เรามีความสุข เขาก็เลยทำให้ สิ่งที่ทำให้ความสัมพันธ์ครั้งนี้มันดีเป็นเพราะว่าเราชัดเจนในสิ่งที่เราอยากได้ หมายถึงว่าสิ่งนี้ทำให้ฉันมีความสุขนะ เป็นการบอกกล่าวกัน ไม่งั้นมันก็ไม่รู้ว่าเราชอบ ไม่ชอบอะไร ชัดเจนในทุกๆเรื่อง แล้วถ้าเขาสามารถซัพพอร์ตในสิ่งที่เราชอบหรือไม่ชอบด้วยได้ ตรงนั้นมันก็ทำให้เราไปกันต่อได้ รวมถึงเราเองเราก็แคร์ความรู้สึกเขาเหมือนกัน โดยที่เราก็ต้องดูด้วยว่าเขาชอบอะไร ไม่ชอบอะไร หรือว่าในสิ่งที่เราชอบ เขาสามารถก้าวเข้ามาหาเราได้มากแค่ไหน อย่างที่บอกว่าหนูเป็นคนโรแมนติกมาก เลยอยากให้เขาบอกรักเรา อยากให้เขากอดเรา ซึ่งเขาเป็นคนแบบเขินๆแต่เดี๋ยวนี้เขาก็เริ่มธรรมชาติขึ้น” แล้วมีอะไรที่เราไม่เคยทำแล้วเขาชอบให้เราทำ? “ไม่ค่อยมีเลย คือตอนแรกที่คุยกัน เราเป็นตัวของตัวเองมากๆ เราอยากให้เขาเห็นตัวตนของเราก่อนเลย มันเลยโชคดีที่เขาบอกว่า ชอบปรางที่เป็นแบบนี้อยู่แล้ว”.อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” เพิ่มเติม