“ภูมิธรรม” อ่วม หลายฝ่ายรุมจวกเจรจาอ่อนเชิง ได้กลับมาแค่ข้อตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข ทำไทยเสียเปรียบกัมพูชา แจงเพราะอยากให้จบ ไปพูดคุยต่อผ่านกลไก RBC และ GBC ปะทะอารมณ์สื่อบี้ถามโยนภาระให้ทหาร ใช้เงื่อนไขภาษี “ทรัมป์” มัดคอกองทัพ “แพทองธาร” หน้าเครียด ไม่แปลกใจกัมพูชาไม่เป็นสุภาพบุรุษ ละเมิดข้อตกลงหยุดยิง “ลุงป้อม” ชง 4 แนวทางแก้ปัญหาเร่งด่วน เฉ่งรัฐบาลบริหารสถานการณ์ชายแดนไม่ชัดเจน ปชน.จ่อถกญัตติด่วนภาษีสหรัฐฯ สว.หวดรัฐบาลต้องแข็งกร้าวกว่านี้ จี้ยกเลิกเอ็มโอยู 2543-2544 จัดทำฉบับใหม่หลังจากนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี นำคณะไปเจรจากับกัมพูชา ที่ประเทศมาเลเซียได้ข้อตกลงหยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข จนถูกหลายฝ่าย ตำหนิว่าเป็นการเจรจาที่อ่อนด้อย ทำให้ประเทศไทยเสียเปรียบฝั่งกัมพูชา ที่ยังคงท้าทายละเมิดข้อตกลงหยุดยิง“ภูมิธรรม” แจงปมหยุดยิงไม่มีเงื่อนไขเมื่อเวลา 09.00 น. วันที่ 29 ก.ค. ที่ทำเนียบ รัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.มหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีไทย-กัมพูชาเจรจาหยุดยิงตั้งแต่ เวลาเที่ยงคืน วันที่ 28 ก.ค. แต่จนช่วงเช้าวันที่ 29 ก.ค. ยังมีการปะทะเป็นระยะว่า ยอมรับยังมีอะไรที่ยังสื่อสารกันไม่ได้ทั้งหมด กองทัพไทยค่อนข้างมีวินัย แต่ฝั่งกัมพูชาถ้าไม่มีความตั้งใจ เป็นเพราะทหารไม่มีวินัย การหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไขเพราะอยากให้จบ รายละเอียดต้องพูดคุยกันอีกผ่านกลไก RBC และ GBC ให้ได้ข้อสรุป การพูดคุยได้นำข้อเสนอของ กองทัพบกเข้าหารือด้วย ต้องรอดูผลที่ออกมาจะเป็น ลักษณะอย่างไร เราเป็นฝ่ายยึดมั่นในข้อตกลง สิ่งที่ เกิดขึ้นบางจุด เพราะทหารกัมพูชาไม่มีวินัย เราตอบโต้ บนพื้นฐานที่เกินเลย ยิงปืนเล็กมา เราก็ยิงปืนเล็กกลับ แต่ขณะนี้ถือว่าสถานการณ์สงบอยู่ ไม่ได้มีการยกระดับ มีการมอบอำนาจชัดเจนให้แม่ทัพภาคผู้ปฏิบัติหน้าที่ตอนหน้าเป็นผู้หารือ แต่เราประสานงานกันตลอด และเมื่อสักครู่ รมว.กลาโหมกัมพูชา โทรศัพท์หาตน จะประสานให้โทร.กลับไปคุยสื่อบี้ รบ.เจรจาอ่อนข้อเสียเปรียบเมื่อถามว่า ก่อนไปเจรจานายภูมิธรรมเคยให้ สัมภาษณ์ไว้ว่าการจะหยุดยิงต้องให้กัมพูชาแสดงความจริงใจ ปรับกำลังและอาวุธหนักออกจากพื้นที่ แต่นายฮุน มาเนต นายกฯ กัมพูชาบอกว่าการหยุดยิง ต้องไม่มีเงื่อนไข ไปเจรจาอย่างไรถึงออกมาเช่นนี้ นายภูมิธรรมกล่าวว่า สื่อคงเข้าใจผิด สิ่งที่เราพูดเรื่อง การหยุดยิงคือการให้ยุติดำเนินการ ไม่ได้หมายความว่า ทุกอย่างจบ การหยุดยิงแบบไม่มีเงื่อนไข คือให้ทั้ง 2 ฝ่าย ตกลงกันว่าจะหยุดยิงเมื่อไหร่ ส่วนการเจรจาหลังจากนั้น ให้เจรจาตามกลไกที่กองทัพจะเจรจา เมื่อถามอีกว่า หมายความว่า ยังไม่หยุดยิงอย่างแท้จริง ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า เป็นไปตามขั้นตอน ถามแบบนี้จะกลายเป็นทำให้ระหองระแหงกัน ขณะนี้ ต้องทำให้นานาประเทศและประชาคมโลกเข้ามาดู และสังเกตการณ์ การหยุดยิงเป็นมาตรฐานของเรา ที่อยากให้พูดคุยกันทั้งหมด ไม่อยากให้กระทบ กระเทือนถึงปัญหาระหว่างประเทศ เรายังยึดมั่นรักษา อธิปไตยของประเทศได้ปะทะอารมณ์สื่อ–ปัดโยนภาระให้ทหารเมื่อถามว่า ฝ่ายการเมืองโยนงานให้ทหารหน้างานหรือไม่ นายภูมิธรรมเอียงศีรษะก่อนกล่าวว่า พูดแบบนี้เหมือนจะให้ฝ่ายการเมืองทะเลาะกับทหาร ทุกอย่างที่เกิดขึ้นพูดคุยมาตลอด ก่อนจะไปพูดคุยกัน ไม่ใช่การโยน แต่กองทัพอยากใช้เงื่อนไข ดังนั้นจะให้กองทัพเป็นคนตัดสินใจและประสานกับเรา ยืนยันไม่ใช่การโยนภาระ ยืนยันทำงานร่วมกันอย่างเป็นเอกภาพ ทั้งกระทรวงกลาโหมและ 4 เหล่าทัพ รวมถึงรัฐบาลเป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน เมื่อถามว่า หลักการทั่วไปของการเจรจาหยุดยิง เราต้องให้เขาถอนอาวุธหรือยื่นเงื่อนไขในการเจรจา แต่มีการตั้งข้อสังเกตว่า นายภูมิธรรมไปรับเงื่อนไขเขามา นายภูมิธรรมย้อนถามว่า ถามแบบนี้เหมือนไม่เข้าใจ เรายืนยันว่า หากเราไปคุยเงื่อนไขทั้งหมดไม่จบ แต่ขณะที่ยิงกันเกิดความเสียหายกับชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ก่อนอื่นต้องหยุดยิงเพื่อระงับความเสียหายที่จะเกิดขึ้น อยากให้เข้าใจ สิ่งที่ทำทั้งหมดไม่ได้สนองความสะใจ ของใคร แต่ต้องระมัดระวังและยุติความเสียหาย หากเจรจากันไม่ได้ก็ไปเริ่มต้นใหม่ การตั้งคำถาม แบบนี้ไม่ถูก คนเสียหายเวลานี้คือประชาชนและกำลังทหาร อยากให้ใช้สติพิจารณาว่าทำเช่นนี้น่าจะ ยุติความเสียหายและเงื่อนไขต่างๆที่เราคุยกันไม่ตอบใช้เกมภาษีผูกคอกองทัพเมื่อถามว่า จะฟ้องร้องกัมพูชาในฐานะอาชญากร สงครามหรือไม่ นายภูมิธรรมกล่าวว่า อันนั้นเป็นเงื่อนไข การหยุดยิงไม่ได้หมายความว่าจะมีเงื่อนไขเป็นคดี แต่ยุติไม่ให้เสียหายและมาคุยกัน เป็นกลไกทวิภาคี หลังจากนี้จะพูดคุยกันโดยไม่มีเสียงปืนทำร้ายกัน ถ้าจะคุยกันขณะที่มีการยิงกันอยู่ ที่ไหนก็ไม่มีใครทำได้ ส่วนจะเดินหน้าเอาผิดกัมพูชาในฐานละเมิดหรือไม่ เดี๋ยวรอพูดคุยกัน ใครทำอะไรไว้ ต้องรับผลตรงนั้น เงื่อนไขในการหารือคือเงื่อนไขของกองทัพบก 6 ข้อ ขอให้ไปถามดู ขอให้นึกถึงประเทศชาติ เงื่อนไขที่กองทัพบกเสนอมานั้น เรารับได้ และนำมาเจรจาต่อ ที่ประชุมยอมรับ เมื่อถามย้ำว่ารัฐบาลเอาเรื่องภาษีสหรัฐฯมากดดันผูกคอกองทัพหรือไม่ นายภูมิธรรมย้อนถามว่า ท่านถามเพราะอยากได้ข้อความคำตอบหรือท่านเอาความเชื่อมั่นมาถามแล้วมากดดัน ตนไม่ขอตอบแล้ว จากนั้นนายภูมิธรรมได้เดินออกจากวงสัมภาษณ์และขึ้นตึกบัญชาการไปทันที“อิ๊งค์” ไม่แปลกใจเขมรไม่สุภาพบุรุษต่อมาเวลา 10.00 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส. แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ และ รมว.วัฒนธรรม เดินทางเข้าร่วมประชุม ครม. ที่มีนายภูมิธรรม รักษาราชการแทนนายกฯ เป็นประธานการประชุม ด้วย สีหน้าเคร่งเครียด ผู้สื่อข่าวสอบถามว่า ได้ติดตามสถานการณ์หรือไม่ หลังกัมพูชาไม่ปฏิบัติตามคำพูด ที่ตกลง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า เมื่อสักครู่ได้อัปเดตกับทีมงาน ได้พูดคุยกันว่าจะมีแจ้งให้ประเทศที่เป็นพยานทราบด้วยว่า เกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้น ทางเรา ไม่ได้แปลกใจกับความไม่เป็นสุภาพบุรุษอยู่แล้ว เมื่อถามว่า รัฐบาลต้องออกแถลงการณ์เป็นทางการอีกครั้งหรือไม่ เพราะเขายังไม่ยุติการหยุดยิง น.ส. แพทองธารกล่าวว่า เดี๋ยวเรื่องนี้จะไปถามนายภูมิธรรมจากนั้นเวลา 12.30 น. หลังการประชุม ครม. ผู้สื่อข่าวถาม น.ส.แพทองธารรู้สึกอย่างไรกับเหตุการณ์ปะทะชายแดน หลังเจรจาหยุดยิงแล้ว นายกฯตอบว่า ไม่มีค่ะ เดี๋ยวรักษาการนายกฯจะแถลงข่าว เมื่อถามต่อว่า หวังว่าสถานการณ์จะคลี่คลาย เป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น หรือไม่ น.ส.แพทองธารพยักหน้ารับตอบแค่ว่า “ค่ะๆ”แบนเขมรขึ้นอยู่กับสมาชิกซีเกมส์ด้านนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึงการจัดการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ที่ไทยเป็นเจ้าภาพช่วงเดือน ธ.ค. จะบอยคอตกัมพูชาหรือไม่ว่า ได้พูดคุยกับนายชัยภักดิ์ ศิริวัฒน์ รองประธานคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทย ประธานมนตรีซีเกมส์ คงจะพูดคุยเรื่องนี้ในที่ประชุมวันที่ 21 ก.ค. เมื่อถามว่าบอยคอตได้ใช่หรือไม่ นายสรวงศ์ ตอบว่าโดยตัวอำนาจประธานมนตรีซีเกมส์ทำไม่ได้ ทุกอย่างมีขั้นตอน เราไม่มีอำนาจไปห้าม แต่ต้องเป็นมติของชาติสมาชิก เหมือนกรณีคณะกรรมการโอลิมปิกสากลแบนรัสเซีย ต้องรอการหารือของชาติสมาชิก ต้องพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมการซีเกมส์พม.พักหนี้ผู้พิการ 3 เดือน ชดเชย 14 รายนายวราวุธ ศิลปอาชา รมว.การพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (รมว.พม.) เปิดเผยว่า กรมส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ (พก.) เตรียมเสนอมาตรการช่วยเหลือลูกหนี้ที่ขอกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ ในพื้นที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความไม่สงบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา 7 จังหวัด คือ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ อุบลราชธานี จันทบุรี ตราด และ สระแก้ว เพื่อให้คณะอนุกรรมการบริหารกองทุนฯเห็นชอบ เพื่อช่วยเหลือ “คนพิการ” หรือ “ผู้ดูแลคนพิการ” ที่กู้ยืมเงินกองทุนฯในพื้นที่ 7 จังหวัดนี้ เกือบ 33,000 ราย ให้ได้รับผ่อนผันพักชำระหนี้ 3 เดือน ตั้งแต่ ก.ค.-ก.ย.68 สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ศูนย์บริการคนพิการจังหวัด สำนักพัฒนาสังคมฯจังหวัด ทั้งนี้ พม.ส่งเรื่องให้จังหวัดดำเนินการจ่ายชดเชยผู้เสียชีวิต 14 รายต่อไป“ป้อม” ชง 4 ข้อแก้เร่งด่วนไทย–กัมพูชาเมื่อเวลา 14.00 น. ที่พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) พล.ต.ท.ปิยะ ต๊ะวิชัย โฆษกพรรค พปชร.แถลงการณ์ประชุมพรรคที่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ สส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคเป็นประธาน ถึงจุดยืนพรรคต่อสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า พล.อ.ประวิตรเสนอแนวทางเร่งด่วน 4 ข้อ ได้แก่ 1.ยืนยันอธิปไตยของไทยในทุกตารางนิ้ว เรียกร้องให้รัฐบาลตอบโต้ทางการทูตและความมั่นคงอย่างทันทีและเฉียบขาด 2.เรียกร้องให้นายกฯและรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้องแถลงต่อสภาและประชาชนโดยตรง เพื่อสร้างความเชื่อมั่นและชี้แจงแผนรับมือสถานการณ์อย่างโปร่งใส 3.เสนอจัดตั้งคณะกรรมการวิสามัญเพื่อตรวจสอบและติดตามสถานการณ์ชายแดนอย่างต่อเนื่อง พร้อมตรวจสอบบทบาทนักการเมืองที่อาจขัดขวางการปฏิบัติหน้าที่ของฝ่ายความมั่นคง และ 4.สร้างกำแพงคอนกรีตตามแนวชายแดนในจุดที่เกิดเหตุบ่อย เพื่อยกระดับการป้องกันอย่างถาวร แผ่นดินไทยไม่ใช่พื้นที่ให้ใครเข้ามารุกล้ำแล้วจากไปโดยไม่รับผิดชอบ และชีวิตทหารไทยไม่ควรถูกเพิกเฉยจากฝ่ายการเมืองซัด รบ.บริหารชายแดนไม่ชัดเจนต่อมา 14.20 น. พล.อ.ประวิตรให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชาว่า มาถามอะไรตน ต้องไปถามรัฐบาลว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไงก่อน สะท้อนความไม่ชัดเจนของรัฐบาลต่อการบริหารสถานการณ์ความมั่นคงในพื้นที่ชายแดน เมื่อถามว่าจะมีทางออกอย่างไร พล.อ.ประวิตรตอบว่า ต้องเจรจาอย่างเดียวเท่านั้น ส่วนจุดยืนพรรค พปชร.ให้ความสำคัญกับการหาทางออกอย่างสันติ ภายใต้หลักเจรจาและรักษาอธิปไตยของไทยทุกตารางนิ้ว ไม่ว่ารัฐบาลใดจะบริหารประเทศ ต้องยึดประโยชน์สูงสุดของประชาชน และเสถียรภาพของชาติเป็นที่ตั้งสว.ชงใช้กฎอัยการศึก 7 จว.ชายแดนเมื่อเวลา 09.00 น. ที่รัฐสภา มีการประชุมวุฒิสภา มี พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา เป็นประธานช่วงหารือ พล.ท.สุกิจ ทั่งทอง สว.ให้ข้อเสนอแนะสถานการณ์แนวชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า ควรประกาศกฎอัยการศึกพื้นที่ 7 จังหวัดชายแดนตั้งแต่ จ.อุบลราชธานี ศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ สระแก้ว จันทบุรี และตราด มอบอำนาจเต็มแก่ค่ายทหารภายใต้หลักการ CI31 ปกป้องอธิปไตยชาติอย่างมีเอกภาพ แก้ไขเพิ่มเติมเอ็มโอยู 2544-2543 และเจซี 44 ที่ไทยเสียเปรียบให้ชัดเจน ปิดด่านทางบกทุกช่อง ปิดน่านน้ำ น่านฟ้าจนกว่าจะปักปันเขต เขตแดนยุติ ตัดระบบสาธารณูปโภคทุกชนิดที่เชื่อมกับกัมพูชา ทั้งไฟฟ้า น้ำ อินเตอร์เน็ต โทรศัพท์ จนกว่าสถานการณ์ชายแดนจะยุติ ยกเลิกส่งออกพลังงาน น้ำมันดิบ น้ำมันสำเร็จรูป ก๊าซธรรมชาติ ไปกัมพูชาเด็ดขาด ผู้ใดฝ่าฝืนถือว่าผิดกฎอัยการศึกต้องขึ้นศาลทันที ผลักดันแรงงานต่างด้าวกัมพูชาออกนอกประเทศ ยกเลิกบัตรผ่านแดนกัมพูชาทั่วราชอาณาจักรไทย และควรตัดความสัมพันธ์ทางการทูตกัมพูชาจนกว่าการปักปันเขตแดนจะแล้วเสร็จ กั้นรั้วถาวรชายแดน จากนั้น สว.ยืนไว้อาลัยให้ทหาร ตำรวจ ที่เสียชีวิตและบาดเจ็บจากการสู้รบ 1 นาทีแซะรัฐบาลอย่าส่งพื้นที่คืนเขมรที่รัฐสภา พล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภาเปิดเผยว่า มั่นใจในกองทัพบก กองทัพเรือ กองทัพอากาศที่ปฏิบัติการแนวชายแดนจะยึดพื้นที่ของไทยเอาไว้ ทั้งภูมะเขือ ปราสาทตาควาย เพราะเป็นภูมิประเทศจุดสูงข่ม ต้องยึดไว้ เพื่อความได้เปรียบในปฏิบัติการทางทหาร ให้การเจรจาพูดคุยง่ายขึ้น ส่วนที่สหรัฐฯและมาเลเซียร่วมเป็นคนกลาง อยู่ที่รัฐบาลจะเจรจารักษาผลประโยชน์ชาติได้มากน้อยแค่ไหน การเจรจาไทยต้องได้เปรียบ ต้องใช้แผนที่อัตราส่วน 1 ต่อ 50,000 ที่สากลใช้เจรจา เมื่อยึดพื้นที่คืนได้แล้ว ไม่น่าจะส่งคืน ไม่รู้ประเทศไทย ใครจะส่งคืนให้กัมพูชาอีกหรือไม่ การเจรจาของรัฐบาลต้องรอบคอบรัดกุมเพื่อผลประโยชน์ชาติ ไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ส่วนบุคคล การสูญเสียกำลังทหาร ตำรวจ ประชาชน ต้องไม่เสียเปล่า และย้ำในฐานะทหารจะต้องปฏิบัติตามแผนป้องกันการรุกรานจากอริราชศัตรู ที่เกิดความสูญเสียจึงต้องปฏิบัติตามแผนให้ได้จี้เลิกเอ็มโอยู 43–44 ทำฉบับใหม่นพ.วีระพันธ์ สุวรรณามัย สว.แถลงว่า การเจรจาของรัฐบาลใช้ไม่ได้ ท่าทีไทยควรแข็งกร้าวมากกว่านี้ เราเป็นสุภาพบุรุษและใจดีไป ควรทำในสิ่งที่ถูกต้อง ไม่ให้ไทยเสียเปรียบ เสนอให้ยกเลิกเอ็มโอยูปี 2543, 2544 และจัดทำเอ็มโอยูใหม่ฉบับปี 68 บนหลักความถูกต้องและหลักมนุษยธรรม ผู้นำที่ไปประชุมแสดงออกถึงความสูญเสียน้อยเกินไป น่าเศร้าใจ ไทยเป็นฝ่ายถูกกระทำแต่ตัวแทนไทยกลับแสดงท่าทีเป็นมิตร ขอใช้เวทีวุฒิสภาประชุมลับเรื่องนี้ แถลงให้ชาวโลกรู้ว่าไทยเป็นฝ่ายถูกกระทำก่อน โดยพุ่งเป้าที่ รพ. ร.ร. และชุมชนหมู่บ้านที่เป็นพลเรือน วันที่ 24 ก.ค. กองทัพกัมพูชายิงใส่ไทย ร.ร.ฝั่งไทยยังเปิดสอนปกติ แต่ ร.ร.ฝั่งกัมพูชาสั่งปิดจำนวนมาก เจตนามาตั้งแต่ต้นเป็นอาชญากรรมสงคราม ทั้งนี้ รัฐบาลควรตั้งวอร์รูมสื่อสารชี้แจงข่าวสารต่อประชาชนได้แล้ว หากไม่สื่อสาร ข่าวปลอม เฟกนิวส์จะเกิดมากยิ่งขึ้นกกต.เลื่อน ลต.ซ่อม สส.ศรีสะเกษเขต 5เมื่อเวลา 17.10 น. สำนักงาน กกต.เผยแพร่เอกสารข่าวว่า ตามที่มี พ.ร.ฎ.ให้มีการเลือกตั้ง สส. จ.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 แทนตำแหน่งที่ว่างและ กกต.ประกาศให้มีการเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 (อำเภอขุนหาญ และอำเภอภูสิงห์) ในวันที่ 10 ส.ค. สำนักงาน กกต.ได้เสนอให้ กกต.พิจารณาสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา ที่อาจมีผลกระทบต่อการจัดการเลือกตั้ง เพื่อความปลอดภัยของประชาชน ผู้มีสิทธิเลือกตั้งและบุคลากรที่ปฏิบัติหน้าที่การเลือกตั้ง รวมทั้งการส่งผลกระทบต่อแผนการบริหารจัดการเลือกตั้ง จึงเห็นควรงดการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง สส.ดังกล่าว กกต.ได้ปรึกษาหารือแล้วเห็นควรงดการออกเสียงลงคะแนนเลือกตั้ง สส.ศรีสะเกษ เขตเลือกตั้งที่ 5 ตามที่สำนักงาน กกต.แจ้งความเห็น ให้ กกต.ประจำเขตเลือกตั้งที่ 5 ศรีสะเกษ เพื่อประกอบการพิจารณาตามมาตรา 102 แห่ง พ.ร.บ.ประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง สส. พ.ศ.2561 และที่แก้ไขเพิ่มเติม และรายงานให้ กกต.โดยเร็ว