“บิ๊กต่าย” ผบ.ตร. เด้งรับคำสั่ง “ภูมิธรรม” ออกหนังสือสั่งการตำรวจทั่วประเทศ ระดมกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติด สร้างชุมชนปลอดภัย ตามนโยบายรัฐบาล NO Drugs NO Dealers แบ่งเป็น 3 ระยะพร้อมระบบตรวจสอบ คาดโทษหนัก “ผู้กำกับ”หัวหน้าโรงพักยัน“ผบก.” ถ้าใครทำดีจะได้ปูนรางวัล แต่ถ้าพื้นที่ไหนบกพร่อง ปล่อยปละละเลยต้องถูกพิจารณาโทษ ทั้งทางวินัยและปกครองตามความเหมาะสม ด้าน ป.ป.ส.สกัดจับยาเสพติดรายใหญ่ขบวนการ “ไอ ยี่ ซอ” ชาวเมียนมา รวบผู้ต้องหา 5 คนพร้อมของกลางคีตามีน 150 กก.และยาไอซ์ 5 กก.ที่โกดังในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ ขยายผลตรวจค้น 5 จุดใน จ.สมุทรปราการ และ จ.พะเยา ยึดอายัดทรัพย์เพิ่มเติมอีกหลายรายการรวมมูลค่า 3.5 ล้านบาท ส่วนตำรวจ สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี สกัดจับยาบ้า 4 ล้านเม็ด รถ 2 คัน และผู้ต้องหา 4 คน หลังตำรวจ บช.ปส. ประสานให้ช่วยสกัดที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) เมื่อเวลา 17.00 น.วันที่ 21 ก.ค. พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร.สั่งการตำรวจทุกสถานีตำรวจ ผู้บังคับการตำรวจนครบาล ผู้บังคับการตำรวจภูธรทุกจังหวัด สนองนโยบายรัฐบาล NO Drugs NO Dealers เอกซเรย์ค้นหาผู้เสพ กวาดล้างจับกุมผู้ค้ายาเสพติดในชุมชน ส่งเข้าบำบัดหรือดำเนินคดี เพื่อสร้างชุมชนปลอดภัยจากเหตุคลุ้มคลั่ง พื้นที่ใดปล่อยให้เกิดเหตุจะพิจารณาโทษหัวหน้าสถานีตำรวจและผู้บังคับการในพื้นที่ผบ.ตร.มีมาตรการดำเนินการปราบปรามยาเสพติด เพื่อบรรลุเป้าหมายให้ชุมชนต่างๆทั่วประเทศปลอดจากผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดภายใน 3 เดือน ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประกาศเจตนารมณ์มอบนโยบายการแก้ไขปัญหายาเสพติดตามนโยบายรัฐบาล และ Kick off ปฏิบัติการกวาดล้างยาเสพติด NO Drugs NO Dealers ผนึกกำลังชุมชนปลอดยาเสพติด ณ ห้องมัฆวานรังสรรค์ สโมสรทหารบก กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 17 ก.ค.สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำหนดแผนงานไว้ 3 ระยะ ห้วงเวลา 3 เดือนระยะ 1 เป็นระยะเร่งด่วน ช่วงตั้งแต่วันที่ 20 ก.ค.-1 ส.ค.ใช้กลไกศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด ระดับกองบังคับการ/ ตำรวจภูธรจังหวัด และสถานีตำรวจนครบาล/สถานีตำรวจภูธร (ศอ.ปส.บก.ภ.จ.และ สน.สภ.) เป็นศูนย์บัญชาการระดับพื้นที่ ขับเคลื่อนตามนโยบายรัฐบาล สำนักงานตำรวจแห่งชาติทำงานร่วมกับฝ่ายปกครอง และผู้นำชุมชนลงพื้นที่เอกซเรย์ชุมชน เพื่อรวบรวมข้อมูลผู้เกี่ยวข้องยาเสพติดอย่างละเอียด เช่น รายชื่อ พฤติกรรม เครือข่าย สถานที่เคลื่อนไหว พร้อมเร่งดำเนินการปิดล้อมตรวจค้นจับกุมผู้ค้ารายกลางและรายย่อย ค้นหาผู้เสพนำตัวเข้ากระบวนการบำบัดรักษาต่อมาเป็นแผนงานระยะ 2 คือระยะกลางจะเริ่มในช่วงเดือนที่ 2 บังคับใช้กฎหมายกับผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาดทุกราย ดำเนินการเอกซเรย์ซ้ำตรวจสอบพื้นที่เดิม ค้นหาผู้ค้าผู้เสพที่อาจหลุดรอดจากการค้นหาระยะแรกหรือผู้ค้า ผู้เสพที่ถูกจับกุมนำส่งบำบัดแล้วกลับมาค้ามาเสพอีก ระยะกลางจะส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน รับแจ้งเบาะแสผ่านช่องทางที่ปลอดภัยเป็นความลับ เชิญชวนผู้นำชุมชน อสม. ผู้นำศาสนา ฯลฯ จัดทำข้อตกลงร่วม หรือธรรมนูญหมู่บ้าน เพื่อป้องกันยาเสพติดเข้ามาในชุมชนช่วงเดือนสุดท้ายจะเข้าสู่ระยะที่ 3 การประเมินผล ตร.จะประเมินผลการปฏิบัติการจากความพึงพอใจของประชาชนต่อสถานการณ์ยาเสพติดในชุมชน หากชุมชนใดจัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ บรรลุเป้าหมายปลอดผู้ค้าและผู้เสพยาเสพติดจะประกาศให้เป็นชุมชนปลอดยาเสพติด ตลอดระยะเวลาการดำเนินตามแผนงานทั้ง 3 ระยะ สำนักงานตำรวจแห่งชาติจะพิจารณาผลงานสำหรับหน่วยงาน หรือเจ้าหน้าที่ตั้งใจปฏิบัติงานจนมีผลงานประสบผลสำเร็จเป็นที่ประจักษ์ จะได้รับคำชมเชย รางวัล รวมถึงพิจารณาความดีความชอบ หากหน่วยใดบกพร่องปล่อยปละละเลยต้องถูกพิจารณาโทษทั้งทางวินัยและทางปกครองตามความเหมาะสมเช่นกันที่สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.) วันเดียวกัน พล.ต.ท.ภาณุรัตน์ หลักบุญ เลขาธิการ ป.ป.ส. และนายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด ร่วมแถลงผลการจับกุมผู้ต้องหา 5 คน คีตามีน 150 กก. และยาไอซ์ 5 กก. ที่โกดังแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทร ปราการ ขยายผลตรวจค้นบ้านผู้ต้องหารวม 5 จุดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ และ จ.พะเยา ยึดอายัดทรัพย์สินประกอบด้วยรถยนต์ 5 คัน รถ จยย. 2 คัน สร้อยคอทองคำ เงินในบัญชีธนาคาร และเงินสดรวมมูลค่าประมาณ 3,350,000 บาทพล.ต.ท.ภาณุรัตน์กล่าวว่า การจับกุมคดีนี้สืบเนื่องจากสำนักงาน ป.ป.ส.ดำเนินการสืบสวนเครือข่ายนักค้ายาเสพติดข้ามชาติของนายไอ ยี่ ซอ ชาวเมียนมา มีพฤติการณ์ระดับผู้สั่งการและจัดหายาเสพติดจากประเทศเพื่อนบ้าน ให้บุคคลในเครือข่ายลักลอบลำเลียงเข้าสู่พื้นที่ตอนใน ย้อนไปเมื่อวันที่ 1 ก.ย.2567 ป.ป.ส.จับกุมผู้ต้องหา 2 คน พร้อมเฮโรอีน 91.7 กก.ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ เหตุเกิดที่โกดังในพื้นที่ จ.นนทบุรี ยึดทรัพย์มูลค่า 5.5 ล้านบาท จากนั้นขยายผลรวบรวมพยานหลักฐานขอศาลอนุมัติหมายจับนายไอ ยี่ ซอ กับพวกรวม 6 คน ฐานะผู้สั่งการและผู้ร่วมขบวนการ ต่อมาวันที่ 11 พ.ย.67 เจ้าหน้าที่พบรถต้องสงสัยเดินทางมุ่งหน้าเข้าพื้นที่ภาคกลาง ประสานด่านตรวจยาเสพติดห้วยไร่ จ.แพร่ ตรวจสอบจับกุมผู้ต้องหา 3 คน พร้อมยาบ้า 600,000 เม็ด ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ต่อมาวันที่ 27 พ.ย.67 ป.ป.ส.ร่วมกับหน่วยงานภาคีเปิดปฏิบัติการตัดไฟแต่ต้นลมครั้งที่ 2 ดำเนินการกับนาย ไอ ยี่ ซอ และบุคคลในเครือข่ายออกหมายจับรวม 6 คน ปิดล้อมตรวจค้น 11 จุด 5 จังหวัด ประกอบด้วย จ.เชียงราย จ.พิษณุโลก จ.นนทบุรี จ.ชลบุรี และ กทม. จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 3 คน ยึดทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 101 ล้านบาท วันที่ 26 ก.พ.68 จับกุมบุคคลตามหมายจับได้เพิ่มอีก 1 คนในพื้นที่ จ.นครปฐม หลังถูกออกหมายจับนายไอ ยี่ ซอ หลบหนีไปอาศัยอยู่ที่ประเทศเพื่อนบ้าน แต่ยังมีพฤติการณ์สั่งการบุคคลในเครือข่ายดำเนินการเกี่ยวกับยาเสพติดต่อเนื่อง ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังคงสืบสวนติดตามพฤติการณ์เครือข่ายดังกล่าวอย่างใกล้ชิดล่าสุดวันที่ 19 ก.ค. นายปฤณ เมฆานันท์ ผอ.สำนักปราบปรามยาเสพติด สั่งการบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตามรถยนต์ต้องสงสัยในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย กระทั่งวันที่ 20 ก.ค. พบว่า รถยนต์คันดังกล่าวถูกนำไปจอดทิ้งไว้ในพื้นที่ จ.สมุทร ปราการ จากนั้นมีบุคคลมาขับรถคันดังกล่าวไปจอดที่โกดังในอาคารพาณิชย์พื้นที่ จ.สมุทรปราการ เจ้าหน้าที่นำกำลังเข้าตรวจค้นจับกุมผู้ต้องหารวม 5 คน คีตามีน 150 กก. และยาไอซ์ 5 กก. ซุกซ่อนในช่องลับรถยนต์ ขยายผลตรวจค้นรวม 5 จุดในพื้นที่ จ.สมุทรปราการ 4 จุด จ.พะเยา 1 จุด ยึดอายัดทรัพย์สิน อาทิ รถยนต์ 5 คัน รถจักรยานยนต์ 2 คัน สร้อยคอทองคำ เงินในบัญชีธนาคารและเงินสด รวมมูลค่าประมาณ 3,350,000 บาทด้านนายปฤณ เมฆานันท์ กล่าวว่า สอบสวนผู้ต้องหาให้การว่ามีผู้ว่าจ้างให้ไปรับยาเสพติดในพื้นที่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย นำไปส่งให้ลูกค้าในพื้นที่ภาคกลางระยะเวลารวม 3 เดือนปี 2568 ลำเลียงยาเสพติดมาแล้ว 4 ครั้ง ได้ค่าจ้างครั้งละ 400,000 บาท ยาเสพติดที่เคยลำเลียงได้แก่ คีตามีนและยาไอซ์ครั้งละประมาณ 50-100 กก. ส่วนยาบ้าหลักแสนเม็ด ป.ป.ส.ให้ความสำคัญการปราบปรามยาเสพติดทุกระดับ สอดรับกับนโยบายรัฐบาลที่มุ่งเน้นให้จับกุมกวาดล้างยาเสพติดตัดวงจรการค้ายาเสพติดรายสำคัญ รวมถึงกวาดล้างผู้ค้ายาเสพติดในพื้นที่แพร่ระบาด และเพิ่มประสิทธิภาพมาตรการ ยึดอายัดทรัพย์สินคดียาเสพติดที่ จ.สุพรรณบุรี พ.ต.อ.ทัตเทพ เลิศลักษณ์มีพันธ์ ผกก.สภ.ด่านช้าง จ.สุพรรณบุรี ได้รับการประสานจาก พ.ต.อ.มงคล ออมทรัพย์ ผกก.3 บก.สกส.บช.ปส.จะมีขบวนการขนยาเสพติดผ่านพื้นที่ถนนสาย 333 ต.วังคัน อ.ด่านช้าง สั่งการให้ตั้งด่านตรวจกระทั่งพบรถยนต์โตโยต้าฟอร์จูนเนอร์ สีบรอนซ์ทอง ทะเบียน ขก 5397 ชลบุรี ต้องสงสัยวิ่งผ่านมา เรียกตรวจค้นพบกระสอบ 21 ใบภายในมียาบ้ารวม 4 ล้านเม็ด ควบคุมผู้ต้องหาชาย 2 คน ขยายผลจับกุมรถกระบะมิตซูบิชิ ไทรทัน สีขาว ทะเบียน บร 2504 กาญจนบุรี ขับลาดตระเวนดูเส้นทางบริเวณแยกหอนาฬิกา ต.หนองมะค่าโมง อ.ด่านช้าง ควบคุมตัวชายผู้ต้องหา 2 คน พร้อมของกลางไปสอบสวนเพื่อขยายผลต่อไปอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่