มส.เรียกประชุมด่วน แจงข้อมูลพระที่เกี่ยวข้องสีกากอล์ฟสึกแล้ว 6 คน ที่เหลือ อีก 5 รูปยังไม่ลาสิกขา ทั้งวัดพระศรีรัตนมหาธาตุ วัดกัลยาณมิตร วัดท่าหลวง วัดประยุรวงศาวาส และวัดชูจิตฯ เรียกตัวมาชี้แจงด่วน หากไม่มาถือว่าละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ ให้ปลดหรือถอดถอนได้ ขณะที่พระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตฯ ส่งหนังสือลาออกจากทุกตำแหน่งทางสงฆ์แล้ว นัดให้ปากคำตำรวจวันที่ 14 ก.ค. ที่วัด ด้านผู้การ ปปป. จับมือ ป.ป.ท.บุกวัดใหญ่จอมปราสาท พบเจ้าคณะตำบลท่าฉลอม สอบถามเรื่องการเงินของวัด หลังเส้นเงินเกี่ยวพันสีกากอล์ฟ ส่วนเจ้าอาวาสยังล่องหนหาตัวไม่เจอ “ทิดแหล่” แฉเหตุกลายเป็นเรื่องใหญ่โต เพราะสีกากอล์ฟสุดแสบหึงหวงเจ้าคุณอาชว์ที่ตีตัวออกห่าง สั่งให้ทำหนังสือร้องเรียนไปยัง มส.ว่ามั่วสีกา จนแอบไปลาสิกขากลายเป็นต้นเหตุของข่าวฉาวกรณีตำรวจ บก.ปปป.ตรวจสอบความสัมพันธ์ระหว่างสีกากอล์ฟ อายุ 35 ปี สาวคนสนิทพระเทพ วชิรปาโมกข์ (อาชว์ อาชฺชวปเสฏฺโฐ) หรือเจ้าคุณอาชว์ เจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร หลังรู้ตัวว่าถูกตรวจสอบ หลบไปลาสิขาอย่างเงียบๆที่วัดจันทร์สามัคคี ต.มีชัย อ.เมืองหนองคาย แต่ตำรวจยังสืบสวนขยายผลต่อไป ในประเด็นว่า อดีตพระอาชว์ อายุ 55 ปี นำเงินวัด ออกมาใช้ส่วนตัวหรือไม่ ตัดสินใจขอหมายศาลเข้าตรวจค้นบ้านสีกากอล์ฟภายในหมู่บ้านหรู อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี พร้อมตรวจยึดโทรศัพท์มือถือมาตรวจสอบข้อมูล พบข้อมูลสำคัญเป็นภาพและคลิปความสัมพันธ์ ชู้สาวกับพระจำนวนมาก เบื้องต้นพบที่แน่ชัดเป็นพระชั้นผู้ใหญ่ประมาณ 8 รูป ตำรวจประสานเข้าพบและสอบสวน เจรจาให้สึกจากความเป็นพระ เนื่องจากเสพเมถุนถือว่าปาราชิกแล้ว หลังจากนี้กำลังเร่งตรวจสอบเส้นทาง การเงินว่า มีการนำเงินวัดออกมาปรนเปรอกันหรือไม่ปปป.ลงพื้นที่วัดใหญ่จอมปราสาทความคืบหน้าจากวัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองสมุทรสาคร เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 13 ก.ค. พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. น.ส.อรณิช สุขบาล ผู้อำนวยการกองปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ 2 พ.ต.อ.จำนาญ จันทน์เทศ ผกก.5 บก.ปปป. และนายคนึง ทองเที่ยง ปลัดอาวุโสอำเภอเมืองสมุทรสาคร พร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เข้าพบพระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวข้องกับระบบการเงินในวัด การบริหารจัดการเงินวัด และรายรับ รายจ่ายที่ทางวัดพึงได้รับในแต่ละเดือนจำนวนมากน้อยแค่ไหน เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบ เส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร ดีไพร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าโอนเงินกว่า 1 ล้านบาท ไปให้สีกากอล์ฟเจ้าคณะตำบลนำตอบข้อสงสัยเบื้องต้นพระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม ชี้แจงให้ทราบว่า ตอนนี้ในส่วนของพระ มหาทิวากรยังคงพบแค่เรื่องการโอนเงินไปให้สีกากอล์ฟเพียงอย่างเดียวเท่านั้น ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามา เกี่ยวข้อง แต่ประเด็นการเงินที่หลายคนยังคงต้องหารายละเอียดเพิ่มคือ เงินที่โอนไปให้สีกากอล์ฟเป็นเงินจากส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดและ มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึงเงินวัดเข้าบัญชีใคร มีไวยา วัจกรเบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินของวัดทั้งหมด นอกจากนี้ ยังต้องหารายละเอียดให้ครอบคลุมถึงเรื่องของความขัดแย้งระหว่างพระกับชาวบ้านเพิ่มเติมด้วยเป็นวัดคนทำบุญน้อยข้อสงสัยดังกล่าวได้รับการชี้แจงจากผู้ใหญ่บ้านว่า วัดใหญ่จอมปราสาทยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไป ส่วนเงินวัดเข้าบัญชีใคร ไม่มีใครทราบ เพราะเจ้าอาวาสวัดเป็นผู้บริหารเองคนเดียวทั้งหมด เงินวัดจะมีรายรับจากการให้เช่าที่จอดเรือ บริเวณหน้าวัดติดกับแม่น้ำท่าจีน ได้ค่าจอดประมาณเดือนละ 20,000 บาท เงินทำบุญทอดกฐินปีที่ผ่านมา ได้มาราว 1 ล้านบาทเศษ และเงินเทศน์มหาชาติราวๆ 100,000 บาท แต่เงินจากตู้บริจาค 2 ตู้ ที่ตั้งอยู่ในกุฏิพระสงฆ์กับโบสถ์ถือว่าน้อยมาก เพราะวัดนี้คนมาทำบุญน้อย ไม่ค่อยมีรายได้จากตรงนี้ ส่วนอื่นๆจะเป็นเรื่องที่เจ้าอาวาสเป็นครูสอนธรรมบาลี มีรายได้ ประมาณเดือนละ 15,000 บาทเจ้าอาวาสดูแลการเงินเองด้านรายจ่ายของวัดพระลูกวัดชี้แจงว่า รายจ่ายแต่ละเดือนทางเจ้าอาวาสมีหน้าที่รับผิดชอบแต่เพียง ผู้เดียว ทั้งค่าน้ำค่าไฟประมาณ 30,000 กว่าบาท ค่าบำรุงศาสนสถาน ศาสนวัตถุอื่นๆรอบวัด ตรงนี้ เจ้าอาวาสท่านหามาจ่ายทั้งหมด แต่จะได้มาจากทางใดบ้าง และเงินที่ได้มาเข้าบัญชีวัด หรือบัญชีส่วนตัวไม่มีใครทราบ ส่วนความขัดแย้งกับชาวบ้านนั้น มีบ้าง แต่เป็นกลุ่มเล็กๆไม่ใหญ่นักตามหาพระมหาทิวากรถึงบ้านเกิดที่ จ.ขอนแก่น ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านเลขที่ 232 หมู่ 12 ต.สะอาด อ.น้ำพอง จ.ขอนแก่น บ้านเกิดของพระมหาทิวากร ดีไพร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท หลังพบรายชื่อเป็นหนึ่งในพระภิกษุสงฆ์ 12 รูป ที่มีเส้นทางการเงินโอนให้สีกากอล์ฟ พบว่าช่วงปี 2565-2568 พระมหาทิวากรโอนเงินให้สีกากอล์ฟ 1,176,740 บาท ขณะเดียวกันสีกากอล์ฟโอนเงินกลับมาให้พระมหาทิวากร 357,500 บาท ความเคลื่อนไหวล่าสุดพบว่า เมื่อช่วงเช้าวันที่ 10 ก.ค. พระมหาทิวากรเดินทางออกจากวัดใหญ่จอมปราสาทโดยมีหลานชายทำหน้าที่ขับรถให้ ตั้งแต่นั้นไม่สามารถติดต่อได้อีกเลย รวมถึงบัญชีแอปพลิเคชันไลน์ของพระมหาทิวากรออกจากกลุ่มต่างๆของวัดแล้วเช่นกันเยี่ยมแม่ก่อนเข้าพรรษาแล้วหายไปผู้สื่อข่าวพบนางทองจันทร์ ดีไพร อายุ 83 ปี มารดาพระมหาทิวากรอยู่ที่บ้าน และมีนายชำนาญ ดีไพร อายุ 55 ปี น้องชายพระมหาทิวากรพักอยู่บ้านติดกัน คอยดูแลมารดาร่วมกับภรรยาและลูกสาว นายชำนาญเผยว่า พระมหาทิวากรมาที่บ้านเมื่อวันที่ 7 ก.ค. กับคนขับรถเพียง 2 คน เป็นปกติที่พระจะเดินทางมาเยี่ยมแม่ทุกปีก่อนเข้าพรรษา พร้อมนำผลไม้มาฝาก และมอบเงินให้มารดาไว้ประมาณ 2,000-3,000 บาทก่อนเดินทางกลับ โดยไม่ได้พูดคุยเรื่องส่วนตัวใดๆ ตนและครอบครัวไม่เคยทราบเรื่องเส้นทางการโอนเงินระหว่างพระมหาทิวากรกับสีกากอล์ฟมาก่อน เพราะแต่ละวันทำไร่ทำนาไม่มีเวลาดูข่าวหรือเล่นโทรศัพท์มือถือ แต่ไม่ได้ตกใจอะไรมากนัก เนื่องจากถือว่าเป็นเรื่องส่วนบุคคล แต่รู้สึกสงสารมารดาที่มีท่าทางเครียด เศร้า กินข้าวได้น้อย และไม่สบายใจ เพราะขณะนี้นาง ทองจันทร์มีอาการป่วยไม่สามารถเดินได้ไปจำวัดที่วัดโสภิตารามจริงหลังจากนั้นผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่วัดโสภิตารามพบกับพระสมบูรณ์ โสภโณ อายุ 60 ปี เจ้าอาวาสวัดโสภิตาราม เผยว่า ล่าสุดเมื่อวันที่ 7 ก.ค. พระมหาทิวากรมาจำวัดอยู่ที่กุฏิรับรอง ขณะเดินทางมาเยี่ยมแม่ เป็นปกติเพราะมาพักเป็นประจำช่วงก่อนเข้าพรรษา ส่วนใหญ่พูดคุยกันเพียงเรื่องทั่วไป ไม่ได้สอบถามเรื่องส่วนตัว และไม่ทราบรายละเอียดเกี่ยวกับข่าวที่เกิดขึ้น พอมีข่าวออกมาก็ตกใจเช่นกัน แต่ไม่ได้ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม เพราะไม่ได้สนิทหรือพูดคุยกันบ่อยนักยันเป็นพระสมถะไม่ถือยศ“จากการที่พระมหาทิวากรมาพักที่กุฏิรับรองในวัด เห็นว่าเป็นพระที่สมถะ ไม่ถือยศ ไม่เคยสร้างความเดือดร้อนให้วัด เวลาพักอยู่ในกุฏิรับรองก็นอนพื้น มีเพียงหมอนกับผ้าห่มวางอยู่หน้าโต๊ะหมู่บูชาที่ประดิษฐานพระพุทธรูป ส่วนคนขับรถจะนอนอยู่อีกมุมหนึ่งของกุฏิเพื่อดูแลท่าน ช่วงเช้าลงมาฉันจังหันร่วมกับพระในวัดและญาติโยมที่มาถวาย แล้วเดินทางไปเยี่ยมโยมแม่ที่บ้านจากนั้นก็กลับ” เจ้าอาวาสวัดโสภิตารามกล่าวไม่ได้สนิทมาขอจำวัดเท่านั้นพระสมบูรณ์ โสภโณ กล่าวด้วยว่า ตอนนี้ยังไม่เห็นมีคลิปหลุดมา เพียงแต่มีเรื่องของเส้นทางการเงินที่โอนไปมากับสีกากอล์ฟ เบื้องลึกไม่มีใครทราบว่าเป็นมายังไง ต้องให้เป็นเรื่องของกระบวนการต่างๆ แต่หากถามว่ามีอะไรเกี่ยวข้องกับวัดแห่งนี้หรือไม่ ก็ไม่ได้เกี่ยวข้องกัน เพียงแต่พระมหาทิวากรจะมาจำวัดเท่านั้น และทุกครั้งที่มาจะจำวัดเพียง 1-2 คืนก็กลับไปเจ้าอาวาสวัดชูจิตยังล่องหนที่วัดชูจิตธรรมาราม ต.สนับทึบ อ.วังน้อย จ.พระนครศรีอยุธยา ตั้งอยู่ภายในมหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ หลังมีข้อมูลว่า เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการ บก.ปปป.จะลงพื้นที่เข้าตรวจสอบวัด 4 แห่ง ประกอบด้วย วัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา วัดใหญ่จอมปราสาท จ.สมุทรสาคร วัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร กรุงเทพมหานคร และวัดประยุรวงศาวาสวรวิหาร กรุงเทพมหานคร โดยเฉพาะที่วัดชูจิตที่ตำรวจ บก.ปปป.ตรวจสอบเส้นเงินพบว่ามีการโอนเงินวัดเข้าบัญชีสีกากอล์ฟกว่า 11 ล้านบาทสามเณรยันไม่ได้อยู่ที่วัดผู้สื่อข่าวพบว่า บรรยากาศยังเงียบสงบมีพระสงฆ์และสามเณรที่จำพรรษา และเรียนที่มหาวชิราลงกรณราชวิทยาลัย ปฏิบัติศาสนกิจตามปกติแต่ไม่พบพระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม ที่ปรึกษาเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) สอบถามข้อมูลสามเณรและเจ้าหน้าที่วัด ให้ข้อมูลเพียงว่า ท่านไม่ได้อยู่ที่วัด ไม่ทราบเดินทางไปไหน และยังไม่ได้รับการประสานจากหน่วยงานใดมาตรวจสอบรองเต่าเผยมีพระขอให้ปากคำแล้วที่กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เผยกรณีสีกากอล์ฟมีสัมพันธ์สวาทกับพระผู้ใหญ่ว่า หลังจากมีกระแสข่าวว่ามีพระแอบไปสึกแล้วหลายรูป ถ้าพระที่รู้ตัวดีอยู่แล้วว่าเรื่องที่เกิดขึ้นเป็นการถูกหลอกถือเป็นผู้เสียหาย อยากให้มาแจ้งความเจ้าหน้าที่เพื่อดำเนินคดีกับผู้ต้องหา ขณะนี้กำลังรออยู่ ช่วงที่ผ่านมามีเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม ประสานอยากให้เจ้าหน้าที่ไปพบ เพื่อชี้แจงเรื่องที่มีข้อพัวพัน ขณะนี้กำลังปรึกษากันอยู่ว่าจะเดินทางไปวัดไหนก่อนแฉสีกากอล์ฟอาฆาตเจ้าคุณอาชว์รายงานข่าวแจ้งว่า สำหรับการสอบปากคำอดีตพระครูสิริวิริยธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสธรวรารามวรวิหาร หรือทิดแหล่ วันก่อนทราบว่า รู้จักกับสีกากอล์ฟเมื่อปี 65 รู้จักกันผ่านทางเพจเฟซบุ๊กของวัดโสธรฯ เนื่องจากทิดแหล่เป็นผู้ควบคุมดูแลและคอยทำหน้าที่เป็นแอดมิน สีกากอล์ฟจึงเข้ามาตีสนิทพูดคุยนัดเจอกันขึ้น ก่อนหลวมตัวมีสัมพันธ์สวาทกัน หลังเกิดเรื่องฉาวแล้วถูกสีกากอล์ฟคอยชี้นิ้วสั่งเป็นประจำ เมื่อต้นปี 68 สั่งให้ร่างหนังสือร้องเรียนเจ้าคุณอาชว์ หรือพระเทพวชิรปาโมกข์ อดีตเจ้าอาวาสวัดตรีทศเทพวรวิหาร เรื่องมีเพศสัมพันธ์กับหญิงสาว เนื่องจากขณะนั้นเจ้าคุณอาชว์เริ่มตีตัวออกห่าง แต่เมื่อร่างหนังสือเสร็จไปยื่นให้พระผู้ใหญ่และสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติ แต่เรื่องเงียบไป จนเรื่องมาแดงขึ้นเมื่อเจ้าคุณอาชว์หนีไปสึกที่วัดใน จ.หนองคายคลิปอุจาดเพียบดูยังไม่หมดขณะที่ตำรวจ บก.ปปป.กำลังตรวจสอบคลิปทั้งหมดที่มีอยู่จำนวนมาก ถึงขณะนี้ยังดูไม่หมด บางคลิปไม่สามารถระบุตัวตนได้ว่าเป็นใคร ต้องให้พยานมาชี้ยืนยัน คาดว่ายังมีพระอีกหลายรูปที่เคยมีสัมพันธ์สวาทกับสีกากอล์ฟ จากการตรวจสอบจนถึงขณะนี้พบว่าบางรายอาจไม่ถึงขั้นเสพสังวาส แต่เป็นการวิดีโอคอลเซ็กส์หรือโชว์อวัยวะเพศให้ดูขณะเปิดวิดีโอคอลคุยกัน ถือว่าไม่สำรวมมีความผิดทางวินัยสงฆ์เช่นเดียวกัน พฤติกรรมเช่นนี้ปรากฏอยู่ในคลิปอยู่ระหว่างการพิสูจน์ทราบตัวบุคคลอยู่นัดเจ้าอาวาสวัดชูจิตตรวจการเงินรายงานข่าวแจ้งอีกว่า ช่วงบ่ายวันที่ 14ก.ค. ตำรวจ บก.ปปป. และเจ้าหน้าที่ ป.ป.ท.ร่วมกันนำกำลังลงพื้นที่เข้าตรวจสอบวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง จ.พระนครศรีอยุธยา หลังเจ้าอาวาสประสานตำรวจ ขอชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมให้ความร่วมมือตรวจสอบเส้นทางการเงินและบัญชีของวัดทั้งหมดมส.ประชุมแก้ปัญหาสีกากอล์ฟด่วนที่วัดบวรนิเวศราชวรวิหาร มีการประชุมคณะกรรมการมหาเถรสมาคม (มส.) วาระพิเศษ มีวาระเร่งด่วนคือพิจารณากรณีพระสงฆ์ที่เกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ ใช้เวลาประมาณ 2 ชม. หลังจากนั้นนายอินทพร จั่นเอี่ยม ผอ.สำนักพระพุทธศาสนาแห่งชาติ (พศ.) ฐานะเลขาธิการมหาเถรฯ แถลงผลการประชุมว่า สมเด็จพระอริยวงศาคตญาณ สมเด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงห่วงใยเกี่ยวกับสถานการณ์ของคณะสงฆ์ปัจจุบัน มีพระบัญชาให้ มส.ประชุมเร่งด่วน ที่ประชุมมีข้อห่วงใยและอภิปรายอย่างกว้างขวาง 2 ประเด็น ประเด็นแรกคือ 1.มาตรการเร่งด่วนในการแก้ปัญหาและ 2.แนวทางป้องกันในอนาคตเพื่อไม่ให้เกิดปัญหาขึ้นอีก โดยเฉพาะการแก้ พ.ร.บ.คณะสงฆ์ ที่ใช้มาตั้งแต่ปี 2505 ที่ไม่ทันการณ์ ไม่ทันสมัยและกฎมหาเถรสมาคมที่ต้องมาปรับปรุงแก้ไขเพื่อให้สอดคล้องกับปัจจุบันตำรวจประสานดำเนินการพระ 11 รูปนายอินทพร จั่นเอี่ยม กล่าวต่อว่า มาตรการเร่งด่วนหลังจาก พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว รอง ผบช.ก. เข้าพบสมเด็จพระพุฒาจารย์ วัดไตรมิตร วิทยารามวรวิหาร ในฐานะประธานพระมหาคณิสสร ดูแลพระสงฆ์ฝ่ายมหานิกายและนำรายชื่อพระสงฆ์ที่เกี่ยวพันกับสีกากอล์ฟ 11 รูปไปให้ เพื่อขอให้ มส.ดำเนินการ ที่ประชุมให้ความเห็นดังนี้คือกลุ่มที่ลาสิกขาไปแล้ว ประกอบด้วยพระเทพวชิรปาโมกข์ วัดตรีทศเทพวรวิหาร พระเทพวชิรธีราภรณ์ วัดพระพุทธฉาย วรวิหาร พระเทพวชิวธีรคุณ วัดปากน้ำภาษีเจริญ พระปลัดสุรพล อิทธิเตโช วัดพรหมเกษร พระครูสิริวิริยธาดา วัดโสธรวรารามวรวิหาร และพระมหาบุญเลิศ อินฺทปญฺโญ วัดใหม่ยายแป้น ทั้ง 6 คนถือว่าพ้นสถานะสมณเพศแล้ว สิ้นสุดความเป็นพระ ดังนั้นการลงโทษตามพระธรรมวินัยไม่สามารถทำได้ แต่ถ้ามีความผิดหรือเกี่ยวข้องกับเงินวัดหรือส่วนใดก็ตามที่มีเส้นทางเงินเกี่ยวกับคดีอาญา ต้องดำเนินคดีตามกฎหมายบ้านเมืองที่สึกแล้วต้องสอบเกี่ยวเรื่องเงินหรือไม่“ส่วนกลุ่มที่ยังไม่ยืนยันสถานะ มีแต่ข่าวว่าสึกบ้างไม่สึกบ้างคือ พระราชรัตนสุธี วัดพระศรีรัตน มหาธาตุวรมหาวิหาร และพระปริยัติธาดา วัดกัลยาณมิตร วรมหาวิหาร ปัจจุบันไม่มีอยู่ที่วัดแล้ว กลุ่มต่อมาคือ ยังคงสถานะพระภิกษุอยู่คือ พระเทพปวรเมธี วัด ประยุรวงศาวาสวรวิหาร พระเทพวัชรสิทธิเวที วัด ท่าหลวง พระอารามหลวง จ.พิจิตร มีมติขอความร่วมมือพนักงานสืบสวนส่งข้อมูลเพิ่มเติมให้เจ้าคณะภาคโดยตรง สุดท้ายคือ พระเทพพัชราภรณ์ วัดชูจิตธรรมาราม ลาออกจากเจ้าอาวาสและทุกตำแหน่งแล้ว มส.มอบหมายให้เจ้าคณะใหญ่แต่ละหนให้ทำหนังสือเรียกตัวพระสงฆ์ดังกล่าวเพื่อมาชี้แจงต่อเจ้าคณะผู้ปกครองตามระยะเวลาที่กำหนด หากไม่มาชี้แจงถือว่าละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ จะดำเนินการตามกฎจริยาพระสังฆาธิการคือ การปลดให้พ้นจากตำแหน่งหรือถอดถอนฐานละทิ้งการปฏิบัติหน้าที่ นอกจากนี้ มส.ยังขอให้ พศ.ประสานตำรวจสอบสวนกลางขอเอกสารหลักฐานเพิ่ม” เลขาฯ มส.กล่าวเจ้าอาวาสวัดชูจิตฯลาออกจากตำแหน่งด้านพระเทพพัชราภรณ์ เจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม ทำหนังสือถึงพระราชวชิรสารสุธี เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ธรรมยุต) เรื่องขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง โดยระบุว่าเนื่องจากกระผมตกเป็นข่าวด้านลบทางสื่อสารมวลชน ทำให้เกิดความเสื่อมเสียต่อวัดและหมู่คณะสงฆ์เป็นอย่างมาก ดังนั้นจึงขอลาออกจากการเป็นเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม พระอารามหลวง เพื่อเข้าสู่กระบวนการตรวจสอบความจริงต่อไป ตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.2568 ขณะเดียวกัน พระราชวชิรสารสุธี เจ้าคณะจังหวัดพระนครศรีอยุธยา (ธรรมยุต)ได้มีคำสั่งแต่งตั้งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมาราม โดยแต่งตั้งให้พระเทพวชิรกิตติ ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดโสมนัสวิหาร รองเจ้าคณะภาค 1-2-3 (ธรรมยุต) ดำรงตำแหน่งผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดชูจิตธรรมารามอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่