แค่เปิดสภาฯวันแรก ก็เห็นอาการแกว่งเสียรูปขบวนซีนที่ พิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร ต้องแก้ปัญหาเฉพาะหน้า ชิงปิดประชุมดื้อๆ แก้เกมฝ่ายค้านเสนอขอนับองค์ประชุม ระหว่างการประชุมสภาฯกำลังเข้าสู่วาระการพิจารณารับรองรายงานปกติทั่วไปนกกระจอกไม่ทันกินน้ำ ยังไม่ได้เข้าสู่วาระสำคัญใดๆ ก็ฉายแววสภาล่มภาวะเสียงปริ่มน้ำสำแดงฤทธิ์ สะเทือนเสถียรภาพรัฐบาลทันที รูปการณ์ฝ่ายรัฐบาลตกเป็นรองฝ่ายค้านตั้งแต่เริ่มต้นสมัยประชุมสภาฯรอบใหม่แม้ส่วนหนึ่งจะเป็นผลพวงจากรัฐมนตรีที่เป็น สส.หลายคนติดประชุม ครม.นัดพิเศษและ สส.หลายคนติดประชุมคณะกรรมาธิการงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2569 แต่ก็ไม่ใช่ข้ออ้างให้พ้นผิดได้เพราะฝ่ายรัฐบาลเองรู้ปัญหาที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้า ปากเปียกปากแฉะ เตือนแล้วเตือนอีก กำชับขอความร่วมมือหนักแน่น ห้ามป่วย ห้ามตาย ห้ามสาย ห้ามขาด ห้ามลา แต่สุดท้ายก็ยังไม่รอดอนาคตอาจถึงขั้นต้องให้รัฐมนตรีที่เป็น สส.หอบงานไปทำที่สภาฯทุกวันพุธ วันพฤหัสฯ หรือสับหลีกการประชุม กมธ.ไม่ให้ตรงวันประชุมสภาฯ ป้องกันฝ่ายค้านป่วนนับองค์ประชุม แต่ก็ยังไม่รู้จะแคล้วคลาดเหตุสภาล่มได้หรือไม่ หาก สส.รัฐบาลและฝ่ายค้านยังไม่ปรับจิตสำนึกการทำหน้าที่ของตัวเองแท็กติกนับองค์ประชุม ที่พรรคเพื่อไทยสมัยเป็นฝ่ายค้านเคยใช้เล่นงานรัฐบาล “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นบูมเมอแรงย้อนกลับมาเล่นงานตัวเองแค่เช็กพลังเสียง สส.รัฐบาลวันแรก ก็สะท้อนปรากฏการณ์ไร้เสถียรภาพรัฐบาลได้อย่างชัดเจนสัญญาณไฟเหลืองกะพริบรัวๆ เตือนการโหวตกฎหมายสำคัญๆของรัฐบาลหลังจากนี้ออกอาการน่าห่วงนอกจากต้องระวังฝ่ายค้านขอนับองค์ประชุมแล้ว ยังต้องระแวงฝ่ายเดียวกันจะฉวยจังหวะเสียงปริ่มน้ำในรัฐบาล ตั้งแง่ต่อรองผลประโยชน์ แลกการผ่านกฎหมายหรือไม่ฝ่ายรัฐบาลออกลูกป้อแป้ ไม่รู้จะยืนระยะปะทะเกมตีรวนฝ่ายค้านได้นานแค่ไหน เสี่ยงกระทบการทำงานฝ่ายนิติบัญญัติติดหล่ม เดินหน้าไม่ได้ต้องลุ้นเอาตัวรอด พอๆกับฝ่ายบริหารที่ ครม.ชุดใหม่ “แพทองธาร 1/2” ต้องบิดคันเร่ง เดินหน้าสร้างผลงานเต็มที่ ภายหลังเข้าเฝ้าฯถวายสัตย์ปฏิญาณ มีอำนาจทำงานเต็มตัวอย่างเป็นทางการในยามไร้ “นายกฯอิ๊งค์” แพทองธาร ชินวัตร เป็นหัวขบวนผู้นำ เพราะถูกศาลรัฐธรรมนูญสั่งพักหน้าที่นายกรัฐมนตรี ต้องเบนเข็มเป็น รมว.วัฒนธรรม แต่ก็ไม่รู้จะไปตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะกำลังถูกสุมหัวเชื้อจากภาคประชาชน ยื่นคำร้องต่อประธานวุฒิสภา ยุให้ส่งเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยความผิดจริยธรรมร้ายแรงเปิดเกมเขย่าภาค 2 ให้หล่นเก้าอี้ รมว.วัฒนธรรม ต่อเนื่องจากความผิดกระทงเดิม กรณีถูกตรวจสอบคุณสมบัติการเป็นนายกรัฐมนตรี ที่เรื่องยังคาราคาซังอยู่ในศาลรัฐธรรมนูญชะตากรรม “นายกฯอิ๊งค์” แขวนอยู่บนเส้นด้าย ลุ้นตัวโก่งศาลรัฐธรรมนูญจะคืนตั๋วบริหารอำนาจให้หรือไม่ขณะที่ม็อบรวมพลังแผ่นดินปกป้องอธิปไตยไทยก็จ่อยกระดับการชุมนุม พร้อมปักหลักค้างคืนไล่รัฐบาลอย่างจริงจัง เพิ่มแรงกดดันรัฐบาลอีกทางฝ่ายค้าน ฝ่ายแค้นจองล้างจองผลาญโค่นรัฐบาล จู่โจมทั้งช่องทางนิติบัญญัติ ฝ่ายบริหาร และอารมณ์ในสังคม หวังเปลี่ยนตัวผู้นำสถานการณ์พลิกคว่ำพลิกหงาย ไม่รู้จะถูกลากเข้าสู่ทางตันการเมืองหรือไม่ เปิดช่องพรรคประชาชนฉวยจังหวะ โชว์ออฟบทตัวแปรการเมือง “ณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ” หัวหน้าค่ายส้ม ประกาศพร้อมร่วมกระบวนการโหวตนายกรัฐมนตรีคนใหม่ โดยไม่ขอร่วมวงเป็นรัฐบาลเฉพาะกิจออกลีลาเด้งเชือก โยนโจทย์กำกวม พร้อมโหวตทั้ง “เสี่ยหนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย หรือ ชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย เป็นนายกฯเฉพาะกิจ หากถึงคิวต้องเลือกผู้นำรอบใหม่เล่นบทตี 2 หน้า ขอโหวตผู้นำตามเงื่อนไขกติกาประชาธิปไตย ไม่ยึดติดบุคคลจะมาจากค่ายไหนวางเงื่อนไขแค่ให้มาจัดทำประชามติ เดินหน้าแก้รัฐธรรมนูญ เปิดทางตั้ง ส.ส.ร.มายกร่างกติกาประเทศฉบับใหม่เสร็จสรรพทุกขั้นตอนแล้วให้ยุบสภาเลือกตั้งใหม่ ภายใน 6 เดือนพรรคประชาชนพลิกเกม โยนโจทย์นายกฯเฉพาะกิจเป็นทางออก มาปฏิบัติภารกิจผ่าทางตัน แก้รัฐธรรมนูญและยุบสภา เลี่ยงเกิดเดดล็อกการเมือง ในบรรยากาศวิกฤติล้อมกรอบรัฐบาล ทั้งเรื่องเสียงปริ่มน้ำในสภาฯ กลไกนิติสงคราม และการยกระดับม็อบค่ายส้มชงสูตรพิเศษฝ่าวิกฤติประเทศ ปิดทางอำนาจนอกระบบแทรกแซงดิ้นหนีกับดักเรียกหานายกฯเงื่อนไขพิเศษ ที่อาจพาพรรคประชาชนไปเจอทางตันเช่นกัน!!!ทีมข่าวการเมือง รายงานคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม