รัฐบาลฝรั่งเศสได้ออกกฎใหม่ ห้ามสูบบุหรี่ตามสถานที่สาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นบนชายหาด สวนสาธารณะ และสถานที่ส่วนรวมอีกหลายแห่ง เริ่มบังคับใช้อย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 29 มิ.ย.ที่ผ่านมา ก่อนถึงวันปิดเทอม 5 ก.ค. ด้วยความมุ่งหมายปกป้องเด็กและเยาวชนจากอันตรายของ “บุหรี่มือสอง”หลังจากห้ามสูบบุหรี่ในบาร์และร้านอาหารรวมทั้งอาคารสาธารณะมาตั้งแต่ปี 2551ภายใต้กฎใหม่ดังกล่าว รวมถึงการห้ามสูบบุหรี่ในที่พักผู้โดยสารรถประจำทาง รวมทั้งภายในรัศมี 10 เมตร ของห้องสมุด สระว่ายน้ำ และโรงเรียน ซึ่งเป็นสถานที่ที่มีเด็กและเยาวชนเข้าไปใช้บริการอยู่เป็นประจำเช่นกันยกเว้นในระเบียงร้านอาหารที่ยังคงอนุญาตให้สูบบุหรี่ได้ ขณะที่กฎเกณฑ์ดังกล่าวยังไม่ครอบคลุมถึง “บุหรี่ไฟฟ้า” ในตอนนี้ แต่รัฐบาลมีแผน “ลดปริมาณนิโคติน” ใน อุปกรณ์เหล่านี้ รวมทั้งลดความหลากหลายของรสชาติที่มีจำหน่ายในท้องตลาดภายในกลางปี 2569อย่างไรก็ตาม ผู้ฝ่าฝืนกฎห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะของฝรั่งเศสอาจถูกปรับระหว่าง 135–700 ยูโร หรือราว 5,140–26,650 บาท แม้ว่าจะมีช่วงผ่อนผันเบื้องต้นก็ตามกฎดังกล่าวถือเป็นอีกก้าวหนึ่งไปสู่ “ยุคปลอดบุหรี่” ตามที่รัฐบาลฝรั่งเศสตั้งเป้าไปให้ถึงตั้งแต่ปี 2575 เป็นต้นไป ขณะที่อัตราการสูบบุหรี่ในฝรั่งเศสปัจจุบันยังคงสูงอยู่ แต่มีแนวโน้มลดลง ประชากรวัยผู้ใหญ่อายุ 18-75 ปี มากกว่า 30% ยังคงสูบบุหรี่ เช่นเดียวกับวัยรุ่นอายุ 17 ปี อีกราว 15% ทำให้ฝรั่งเศสเป็นหนึ่งในประเทศเป็นมิตรกับบุหรี่มากที่สุดในยุโรปและในโลก แม้ว่าบุหรี่ 1 ซองจะมีราคาค่อนข้างสูงคืออย่างน้อย 12 ยูโร หรือราว 450 บาทก็ตามสิ่งที่น่ากังวลที่ทำให้รัฐบาลต้องเร่งดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมก็คือข้อเท็จจริงที่ว่าชาวฝรั่งเศสมากกว่า 200 คนเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวข้องกับการบริโภคยาสูบในแต่ละวัน หรือประมาณ 75,000 คนต่อปี ทำให้รัฐสูญเงินมหาศาลราว 156,000 ล้านยูโรต่อปี หรือราว 5.9 ล้านล้านบาท ตัวเลขอย่างเป็นทางการยังชี้ว่ามีผู้เสียชีวิตจากบุหรี่มือสองประมาณ 3,000-5,000 รายต่อปี ขณะที่ชาวฝรั่งเศส 62% เห็นด้วยกับการห้ามสูบบุหรี่ในที่สาธารณะได้แรงหนุนอย่างนี้ต้องรีบจัดการให้เห็นผล ส่วนสิงห์อมควันรายไหนจะไปฝรั่งเศส อย่าลืมดูป้ายเตือนให้ดี.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม