วันเสาร์สบายๆ วันนี้ผมชวนท่านผู้อ่านไปคุยเรื่อง “ประเทศมหาอำนาจการบริโภคโลก” กันนะครับ เมื่อวันพฤหัสบดี คุณหลี่ เฉียง นายกรัฐมนตรีจีน ไปพูดในเวที Summer Davos จัดโดย World Economic Forum ที่เมืองเทียนจิน ประเทศจีน ว่า จีนกำลังพัฒนาเป็น “ประเทศมหาอำนาจด้านการบริโภคขนาดใหญ่” ควบคู่กับการเป็น “มหาอำนาจด้านการผลิตของโลก” จีนมีความพร้อมที่จะก้าวข้ามวัฏจักรแห่งความขัดแย้งทางการค้ามากมายไปข้างหน้าอย่างมั่นคง และเดินหน้าสร้างเสถียรภาพและความแน่นอนให้กับเศรษฐกิจโลกมากขึ้น ท่ามกลางความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลกจากนโยบายภาษีและอุปสรรคทางการค้าอื่นๆ (ที่ผู้นำสหรัฐฯสร้างขึ้นมา)การประชุม Summer Davos ที่เมืองเทียนจินครั้งนี้ มีผู้นำหลายประเทศเข้าร่วม อาทิ ลอว์เรนซ์ หว่อง นายกฯสิงคโปร์ ฝ่าม มินห์ จิญ นายกฯเวียดนาม แต่ไม่มีนายกฯไทยแลนด์นายกฯหลี่ ได้กล่าวว่า “กระแสโลกาภิวัตน์จะไม่มีวันย้อนกลับ” หลังจากที่ถูกสหรัฐฯพังทลายมันลงไปเมื่อต้นปี แต่จีนพร้อมจะเป็น “ผู้นำ” ในการสร้าง “ระเบียบโลกใหม่” เพื่อให้ประเทศต่างๆเดินไปในเส้นทางที่ถูกต้อง จีนมีความเชื่อมั่นและมีความสามารถในการรักษาการเติบโตทางเศรษฐกิจที่รวดเร็วเอาไว้ได้ หลายปีที่ผ่านมา ไม่ว่าสภาพแวดล้อมในต่างประเทศจะเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร เศรษฐกิจจีนยังคงรักษาแรงขับเคลื่อนที่ดีอย่างสม่ำเสมอ จีดีพีไตรมาสแรกของจีนขยายตัวที่ 5.4% ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจที่สำคัญยังคงปรับตัวดีขึ้นในไตรมาสที่ 2 สถาบันระหว่างประเทศได้ปรับเพิ่มคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนเมื่อไม่นานมานี้นายกฯหลี่ ยังพูดถึง ข้อตกลงในอนุสัญญาการจัดตั้งองค์กรระหว่างประเทศด้านการไกล่เกลี่ยที่ฮ่องกง เมื่อเดือนที่แล้ว มีประเทศเข้าร่วมลงนามกว่า 30 ประเทศ ข้อตกลงนี้เป็นตัวอย่างของการใช้ภูมิปัญญาตะวันออกในการแก้ไขข้อพิพาทระหว่างประเทศช่วง 5 ปีแรกที่ ประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ขึ้นครองอำนาจเขาได้ประกาศ “นโยบายเศรษฐกิจคู่ขนาน” เพื่อนำจีนไปสู่มหาอำนาจโลก และสร้างเศรษฐกิจในประเทศให้เจริญรุ่งเรืองร่วมกัน วันนี้จีนได้เป็นมหาอำนาจโลกไปเรียบร้อยแล้ว และเป็น “ศูนย์กลางการผลิตของโลก” ใหญ่จนสหรัฐฯยังกลัว ต้องหาเรื่องหยุดยั้งจีนทุกวิถีทาง วันนี้จีนประกาศจะเป็น “มหาอำนาจการบริโภคโลก” แทนที่ “สหรัฐฯ” ที่กำลังใช้กำแพงภาษีกีดกันทุกประเทศ ด้วยศักยภาพของจีนวันนี้ผมเชื่อว่าจีนทำได้ อนาคตสินค้าที่ Made in USA จากนโยบาย Make America Great Again จะขายไม่ได้ทั้งในสหรัฐฯ และทั่วโลก เพราะแพงเกินไปจีนมีประชากรกว่า 1,400 ล้านคน คิดเป็น 17.4% ของประชากรโลก ข้อมูลล่าสุดปี 2025 จีดีพีวัดด้วยกำลังซื้อของจีนพุ่งขึ้นไปที่ 40.71 ล้านล้านดอลลาร์ เป็นอันดับ 1 ของโลก กำลังซื้อในจีนวันนี้แข็งแกร่งมาก โดยเฉพาะกลุ่มคนรุ่นใหม่ Gen Z ข้อมูลปี 2567 กลุ่มผู้บริโภครุ่นใหม่อายุ 15–44 ปี ในจีนมีมากถึง 555 ล้านคน หรือ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งประเทศ เป็นกำลังซื้อที่มหาศาล ผมจึงเชื่อว่าจีนจะเป็น “มหาอำนาจการบริโภคโลก” ได้อย่างไม่ยากการบริโภคของจีนรุ่นใหม่ก็กำลังเปลี่ยนไป “กระแสการบริโภคสินค้าตามอารมณ์ (Emotional Consumption)” กำลังมาแรง คนจีนรุ่นใหม่สนใจที่จะ “จับจ่ายใช้สอยเพื่อแลกกับความสุข” บริษัทวิจัยแมคคินซีย์ได้สำรวจแนวโน้มการบริโภคของชาวจีนจากร้านค้าใน แอปเถาเป่า พบว่า คนรุ่นใหม่เลือกบริโภคสินค้าเพื่อตอบสนองความต้องการทางอารมณ์มากขึ้น เช่น “สเปรย์โชคดี” แม้จะเป็นสเปรย์ทำความสะอาดเสื้อผ้าธรรมดา แต่ตั้งชื่อว่าสเปรย์โชคดี ทำให้รู้สึกพร้อมที่จะรับโชคดีที่จะเกิดขึ้น หรือผลไม้ที่ตั้งชื่อว่า “ไม่ต้องกังวล” ก็ขายดีมากในแพลตฟอร์ม เชื่อว่ารับประทานแล้วจะช่วยคลายความวิตกกังวล ตลาดจีนเปลี่ยนแปลงไปไกลมาก ถือเป็นเทรนด์การบริโภคที่น่าจับตายิ่ง ถ้าจะขายสินค้าให้คนจีน.“ลม เปลี่ยนทิศ”คลิกอ่านคอลัมน์ “หมายเหตุประเทศไทย” เพิ่มเติม