ถึงบทอวสานกัญชาเสรี นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข ลงนามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่องสมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ.2568 เพื่อควบคุมการนำกัญชาเฉพาะส่วนช่อดอกไปใช้ประโยชน์ในทางผิดวัตถุประสงค์ ผู้ใดจะซื้อต้องมีใบรับรองแพทย์ ยืนยันอาการเจ็บป่วย และผู้จำหน่ายต้องเป็นผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมประกาศกระทรวงสาธารณสุขดังกล่าว มีผลบังคับใช้เรียบร้อยแล้ว วัตถุ ประสงค์หลักคือ การควบคุมการใช้กัญชาทางการแพทย์เท่านั้น และห้ามจำหน่าย หากไม่มีใบอนุญาต และห้ามโฆษณา โดยให้ใช้กัญชาเฉพาะส่วน “ช่อดอก” เป็นสมุนไพรควบคุม หากจะศึกษาวิจัย ส่งออก จำหน่าย แปรรูป ต้องได้รับใบอนุญาตที่ผ่านมาแม้ในหลักการจะประกาศกัญชาเพื่อการแพทย์ แต่ในทางปฏิบัติ หลังจากนำกัญชาออกจากบัญชีสารเสพติด ทำให้มีร้านขายกัญชาเกิดขึ้นมากมายกว่า 10,000 แห่ง ตามสถานที่แหล่งท่องเที่ยว โดยที่ยังไม่มีกฎหมายใดมาใช้ควบคุมกัญชาทางการแพทย์เป็นการเฉพาะ ทำให้เด็ก เยาวชน และประชาชนทั่วไป เข้าถึงได้ง่ายนพ.สมฤกษ์ จึงสมาน อธิบดีกรมการแพทย์แผนไทย และการแพทย์ทางเลือก กล่าวว่า หลังจากประกาศกระทรวงสาธารณสุขมีผลบังคับใช้แล้ว ร้านขายกัญชากว่า 18,000 แห่ง ต้องปรับตัว โดยการขายช่อดอกกัญชาจะต้องเป็นผู้ป่วยที่มีใบสั่งจ่ายจากแพทย์เท่านั้น และต้องเก็บใบสั่งจ่ายยาไว้ เพื่อเป็นหลักฐานการตรวจสอบนพ.สมฤกษ์กล่าวว่า วันที่ 9 ก.ค. กรมการแพทย์แผนไทยฯจะจัดประชุมผ่านระบบออนไลน์ สร้างความเข้าใจกับแพทย์ในการสั่งจ่ายกัญชาให้ผู้ป่วย และจัดอบรมให้ผู้ประกอบการทราบถึงการจำหน่ายตามใบสั่งแพทย์ที่ให้ผู้ป่วยซื้อกัญชาเดือนละ 1 ครั้ง ครั้งละ 30 กรัม ตามปริมาณที่ใช้ 1 กรัมต่อวัน ถ้าซื้อมากกว่านี้เข้าข่ายซื้อเพื่อสันทนาการตามท่าทีของ รมว.สาธารณสุขยืนยันในอนาคตจะนำกัญชากลับสู่บัญชียาเสพติดแน่นอน จึงได้เห็นมาตรการจัดระเบียบการใช้กัญชาอย่างเข้มข้น ไล่ตรวจ ไล่จับร้านกัญชาอย่างต่อเนื่อง ในจังหวะที่พรรคภูมิใจไทยพ้นจากการเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ทำให้ฝ่ายผู้ประกอบการตั้งข้อสังเกต มีความเกี่ยวข้องกับประเด็นการเมืองหรือไม่จึงเป็นบทพิสูจน์การทำงานของ รมว.สาธารณสุข ต่อการนำกัญชากลับไปเป็นยาเสพติด จะต้องมีมาตรการควบคุมการใช้กัญชาให้เป็นประโยชน์ทางการแพทย์อย่างแท้จริง มีความเข้มงวดการบังคับใช้กฎหมายในทางปฏิบัติ และไม่ทอดทิ้งเสียงจากผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบ เกมกัญชาต้องไม่ถูกนำมาใช้เป็นเกมการเมือง.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม