ตำรวจบุกทลายรังแก๊งเงินกู้ออนไลน์ข้ามชาติ 2 ราย รายแรก ตม.ปทุมธานี บุกรวบ 7 หนุ่มชาวเวียดนามเช่าบ้านย่านลำลูกกาเป็นฐานปฏิบัติการเปิดเพจเฟซบุ๊กหาลูกค้าที่ประเทศตัวเอง ยึดบัญชีไอคลาวด์ของลูกหนี้เป็นหลักประกัน ปล่อยเงินกู้ดอกเบี้ยมหาโหดร้อยละ 32.5 ต่อ 40 วัน อีกรายตำรวจท่องเที่ยว เมืองพัทยาปิดล้อมบ้านพูลวิลลาหรูหวังช่วยคนถูกลักพาตัว เจอกลุ่มชาวเกาหลีใต้ 22 คน ตั้งสำนักงานปล่อยเงินกู้นอกระบบข้ามประเทศ ตกใจกระโดดหนี ตำรวจจากชั้น 2 กระแทกพื้นบาดเจ็บสาหัส 1 คน ยังไม่ปักใจเชื่อสงสัยอาจเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ปฏิบัติการบุกทลายรังแก๊งเงินกู้ออนไลน์ข้ามชาติ 2 ราย รายแรก เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 20 มิ.ย. พ.ต.อ.ดุสิต จิตรขุนทด ผกก.ตม.จ.ปทุมธานี นำกำลังตำรวจ ตม. ร่วมกับตำรวจไซเบอร์ และตำรวจท่องเที่ยว เข้าตรวจค้นบ้านเลขที่ 25/176 ซอย 2 หมู่บ้านวราบดินทร์ วงแหวน-ลำลูกกา ต.บึงคำพร้อย อ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี จับกุมชาวเวียดนาม 7 คน ประกอบด้วยนายเหวียน มินฮ์ทัญ อายุ 24 ปี นายฝ่าม วัน เถา อายุ 29 ปี นายเหวียน วัน ดึ๊ก อายุ 35 ปี นายเหวียน เทียน ดัต อายุ 19 ปี นายฝ่าม วัน หว่าง อายุ 27 ปี นายหว่าง วัน กง อายุ 30 ปี และนายเหวียน ง็อก ทัญ อายุ 46 ปี พร้อมของกลางเครื่องคอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือไอโฟน รวม 23 เครื่อง และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากทั้งนี้สืบเนื่องจากตำรวจชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จ.ปทุมธานี ได้รับแจ้งเบาะแสจากเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของหมู่บ้านวราบดินทร์ ว่าที่บ้านหลังดังกล่าวมีคนต่างด้าวชาวเวียดนามพักอาศัยอยู่หลายคน มีพฤติการณ์มั่วสุม ทยอยขนเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์จำนวนมากเข้าไปติดตั้งภายในบ้านมีลักษณะน่าสงสัยอาจกระทำผิดกฎหมาย จึงรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบ สนธิกำลังเข้าปิดล้อมตรวจค้นเมื่อไปถึงหน้าบ้านเจ้าหน้าที่ตะโกนเรียกมีชายชาวเวียดนาม 1 คน ออกมาเปิดประตู ยินยอมให้เข้าตรวจค้นภายในบ้านพบชายชาวเวียดนามอีก 1 คน นั่งอยู่ชั้นล่าง เมื่อเห็นตำรวจก็แสดงอาการตื่นตกใจรีบวิ่งหนีขึ้นไปบนชั้นสอง เจ้าหน้าที่ตามไปควบคุมตัวไว้ได้ ภายในห้องพบชายชาวเวียดนามอีก 5 คนนั่งทำงานอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์หลายเครื่องมีทั้งโปรแกรมไมโครซอฟต์เอกเซล ไอคลาวด์ และโปรแกรมที่ใช้เทคนิคระดับสูง ตรวจสอบเอกสารส่วนตัวของชาวเวียดนามทั้ง 7 คน มีหนังสือเดินทางมาแสดง 6 คน ส่วนอีกคนมีเพียงข้อมูลในโทรศัพท์มือถือสอบถามชาวเวียดนามทั้งหมดให้การว่า พวกตนทำหน้าที่เป็นแอดมินเครือข่ายปล่อยเงินกู้นอกระบบให้ชาวเวียดนามในประเทศเวียดนาม โฆษณาหาลูกค้าผ่านทางเพจเฟซบุ๊ก พอได้ลูกค้ามากู้เงินแล้วจะรวบรวมข้อมูลต่างๆ ของลูกค้า เช่น ประวัติส่วนตัว พ่อแม่ เบอร์โทร.และอื่นๆ จากนั้นให้ลูกค้าลบบัญชีไอคลาวด์ในโทรศัพท์ไอโฟน แล้วพวกตนจะสร้างบัญชีไอคลาวด์ขึ้นมาใหม่เพื่อที่จะสามารถควบคุมและติดตามการใช้โทรศัพท์มือถือของลูกค้าจากประเทศไทยได้ กรณีผิดนัดชำระหรือไม่ยอมคืนเงินตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดก็จะล็อกระบบไอคลาวด์ของลูกค้า ทำให้ไม่สามารถใช้งานโทรศัพท์ไอโฟนได้ กรณีดังกล่าวมีโทษรุนแรงในประเทศเวียดนามและปัจจุบันมีการปราบปรามกันอยู่จึงลักลอบเข้ามาทำในประเทศไทย ได้ค่าตอบแทนเป็นเงินเดือน เดือนละประมาณ 20,000 บาทตำรวจตรวจสอบข้อมูลในคอมพิวเตอร์พบรายการเงินกู้รายวัน จำนวนเงินต้น 8 ล้านดอง คิดเป็นเงินไทยประมาณ 10,030 บาท ลูกหนี้ต้องจ่ายเงิน 265,000 ดองต่อวัน หรือประมาณ 332 บาท จำนวน 40 งวด คำนวณเป็นอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 32.5 ต่อ 40 วัน เบื้องต้นแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่ และเป็นบุคคลต่างด้าวทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต นำส่งพนักงานสอบสวน สภ.ลำลูกกา ดำเนินคดีอีกราย เมื่อเวลา 14.30 น.วันที่ 21 มิ.ย. พ.ต.อ.ทรงวุฒิ เชื้อพลากิจ ผกก.2 บก.ทท.1 พ.ต.อ.นภัสพงษ์ โฆษิตสุริยมณี ผกก.ตม.จ.ชลบุรี พ.ต.อ.สราวุธ นุชนารถ ผกก.สภ.บางละมุง จ.ชลบุรี สนธิกำลังเข้าปิดล้อมบ้านพูลวิลล่าหรู เลขที่ 400/19 หมู่ 6 ต.นาเกลือ หลังได้รับการประสานจากสถานทูตเกาหลีใต้ ประจำประเทศไทย ว่ามีคนเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวมายังบ้านหลังดังกล่าวเกรงว่าจะเกิดอันตรายที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น เนื้อที่กว่า 90 ตารางวา มีกล้องวงจรปิดติดตั้งรอบบ้าน พบกลุ่มชายชาวเกาหลีใต้เกือบ 20 คนนั่งรวมตัวอยู่ในบ้าน เมื่อเห็นตำรวจจะเข้าตรวจค้นก็พากันวิ่งแตกฮือหนีออกจากบ้านไปคนละทิศละทาง มีคนหนึ่งกระโดดหนีจากชั้น 2 ตกลงมากระแทกพื้นชั้นล่างอย่างแรงจนได้รับบาดเจ็บสาหัส ทราบชื่อนายจู โจ ยง แจ อายุ 30 ปี ตำรวจประสานกู้ภัยมูลนิธิสว่างบริบูรณ์ธรรมสถานเมืองพัทยา มาช่วยเหลือนำส่ง รพ.พัทยาปัทมคุณ พร้อมไล่ตามจับคนที่วิ่งหนีออกจากบ้านและยังอยู่ในบ้านรวมทั้งหมดอีก 21 คน ภายในบ้านยังพบคอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะและโน้ตบุ๊กกว่า 30 เครื่อง โทรศัพท์มือถือกว่า 40 เครื่อง เราเตอร์อินเตอร์เน็ต 2 เครื่อง ตรวจยึดไว้เป็นหลักฐาน พร้อมประสานเจ้าหน้าที่พิสูจน์หลักฐานมาเก็บดีเอ็นเอและลายนิ้วมือแฝงบนอุปกรณ์ที่พบทั้งหมดพ.ต.ท.ต่อลาภ ตินะมาตร สวญ.ส.ทท.4 กก.2 บก.ทท.1 เผยว่า ตำรวจท่องเที่ยวเมืองพัทยาได้รับการประสานจากสถานทูตเกาหลีใต้ประจำประเทศไทยว่ามีชาวเกาหลีใต้ถูกลักพาตัวมายังบ้านพูลวิลล่าดังกล่าว แต่พอมาถึง ปรากฏว่ากลุ่มชาวเกาหลีที่อยู่ในบ้านกว่า 20 คนพากันวิ่งหนีไปคนละทิศละทาง บางคนปีนออกหลังบ้าน บางคนกระโดดหนีลงมาจากชั้น 2 จนได้รับบาดเจ็บ จากการสอบสวนทั้งหมดให้การว่า อุปกรณ์คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือเป็นการดำเนินธุรกิจปล่อยเงินกู้นอกระบบในประเทศเกาหลีใต้ ใช้บ้านพูลวิลล่าเป็นสำนักงานติดต่อลูกค้า โทรศัพท์ผ่านระบบอินเตอร์เน็ต ส่วนที่วิ่งหนีตำรวจเพราะตกใจกลัว ตำรวจตรวจยึดอุปกรณ์ทั้งหมดไว้ตรวจสอบยังไม่ปักใจเชื่อว่าเป็นแก๊งเงินกู้ หรืออาจจะเป็นแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่โทร.ไปหลอกลวงเหยื่อเพื่อนร่วมชาติ อยู่ระหว่างสอบสวนขยายผลพร้อมเตรียมแจ้งข้อกล่าวหาอั้งยี่ และทำงานโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งตรวจสอบประวัติแต่ละคนว่าอยู่ในไทยเกินกำหนดหรือไม่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
