ในขณะที่กองทัพอิหร่านเรียกปฏิบัติ การโจมตีตอบโต้อิสราเอลว่า “คำสัญญาที่แท้จริง” ทางฝ่ายกองทัพอิสราเอลก็เรียกขานการโจมตีอิหร่านในครั้งนี้ว่าปฏิบัติการ “สิงโตผงาด”โดยให้เหตุผลว่า “เป็นเวลานานแล้ว ที่รัฐบาลอิหร่านแสดงจุดยืนและดำเนินการอย่างเป็นระบบ เพื่อคุกคามการดำรงอยู่ของอิสราเอล และการที่อิสราเอลต้องตัดสินใจทำเช่นนี้ ก็เพราะไม่มีทางเลือกอื่นอีก หลังจากรัฐบาลอิหร่านใกล้จะบรรลุความจริงในการครอบครองอาวุธนิวเคลียร์”ในมุมมองของอิสราเอลนั้น แนวคิดหัวรุนแรงของรัฐบาลอิหร่านในการทำลายรัฐอิสราเอล ไม่ได้เป็นเพียงอุดมการณ์แต่เป็นคำสั่งที่ต้องดำเนินการ มีการลงทุนมหาศาลในด้านความมั่นคงเพื่อบรรลุเป้าหมายและที่สำคัญการเพิ่มความเข้มข้นของแร่ยูเรเนียม (ที่อาจนำไปพัฒนาเป็นระเบิดนิวเคลียร์) ทำควบคู่ไปพร้อมกับการพัฒนาอาวุธขั้นสูงอย่างขีปนาวุธที่มีระยะยิงถึงประเทศอิสราเอลหรือประเทศอื่นๆสาเหตุที่อิสราเอลต้องดำเนินการในตอนนี้ เพราะเชื่อว่าอิหร่านกำลังจะครอบ ครองอาวุธมฤตยู แร่ยูเรเนียมความเข้มข้นสูงที่อิหร่านครอบครองอยู่ สามารถผลิตระเบิดนิวเคลียร์ได้มากกว่า 9 ลูก นอกจากนี้ แร่ 1 ใน 3 ภายใต้การครอบครองของอิหร่าน ถูกเพิ่มความเข้มข้นภายในกรอบเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา ขีดความสามารถในระดับนี้ ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในรอบ 2 ทศวรรษเมื่อเดือน พ.ค.ที่ผ่านมา ผู้นำสูงสุดของอิหร่านกล่าวว่า “รัฐบาลไซออนนิสต์ที่มีความอันตราย ไม่ต่างอะไรกับเนื้องอกมะเร็ง สมควรที่จะต้องถูกกำจัด และย่อมถูกกำจัดอย่างแน่นอน”หากมองภาพรวมที่เกิดขึ้น ย่อมมองเห็นว่าภัยคุกคามได้มาถึงจุดที่ปล่อยไว้ไม่ได้ จึงทำให้กองทัพอิสราเอลไม่มีทางเลือกอื่น ต้องดำเนินการจัดการก่อนที่จะสายเกินไป อิสราเอลมีสิทธิที่จะปกป้องการดำรงอยู่ของตัวเอง โดยมุ่งเป้าไปที่การทำลายเป้าหมายทางการทหาร และปัจจัยรอบด้านที่จะทำให้อิหร่านครอบครองอาวุธนิวเคลียร์.ตุ๊ ปากเกร็ดคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม