อธิบดีอัยการ สคช.โพสต์เตือน สายดื่ม “เมาแล้วขับ” ระวังศาลสั่งริบรถ หลังอัยการสูงสุดออกหนังสือสั่งการแนวทางปฏิบัติการ ดำเนินคดีผู้ขับขี่ขณะเมาสุรา ทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิตร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่น ให้พนักงานอัยการที่รับคดีพิจารณาพฤติการณ์ผู้ต้องหา นอกจากดำเนินคดีข้อหาเมาแล้วขับแล้วให้เสนอศาลพิจารณาริบรถของกลางให้ตกเป็นของแผ่นดินด้วยอัยการโพสต์เตือนลงดาบริบรถของกลางคดีเมาแล้วขับ เปิดเผยขึ้นเมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 11 มิ.ย. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายโกศลวัฒน์ อินทุจันทร์ยง อธิบดีอัยการ สำนักงานอัยการคุ้มครองสิทธิและช่วยเหลือทางกฎหมายแก่ประชาชน (สคช.) โพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว แจ้งเตือนผู้ขับขี่ขณะมึนเมาสุรา นอกจากโดนอัยการสั่งฟ้องแล้วจะขอให้ศาลมีคำสั่งริบรถยนต์ของกลางด้วย พร้อมโพสต์เอกสารหนังสือของสำนักงานอัยการสูงสุด (อสส.) ลงนามโดยนายจุมพล พันธุ์สัมฤทธิ์ รองอัยการสูงสุด ปฏิบัติราชการแทนอัยการสูงสุด เมื่อ 9 มิ.ย.2568 เรื่องแนวทางปฏิบัติในการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้วทำให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่นนายโกศลวัฒน์ระบุในโพสต์ว่า จากสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยจากการขับรถในขณะเมาสุรา ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย ทรัพย์สินของผู้อื่น สำนักงานอัยการสูงสุดจึงออกหนังสือเวียนการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุรา ที่ก่อให้เกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย และทรัพย์สินของผู้อื่น ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับสถานการณ์ความไม่ปลอดภัยทางถนนที่มีความรุนแรง และความเสียหายอย่างมาก ต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนสำนักงานอัยการสูงสุดจึงกำหนดแนวทางปฏิบัติ เมื่ออัยการได้รับสำนวนคดีที่มีการดำเนินคดีกับผู้ขับรถขณะเมาสุราแล้ว ให้พิจารณาว่าพฤติการณ์ของผู้ต้องหาเมาแล้วขับ มีลักษณะเป็นการขับรถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่นอันเป็นความผิดตาม พ.ร.บ.จราจรมาตรา 43 (8) ด้วยหรือไม่ หากพิจารณาแล้วเห็นว่าผิดและยังไม่ได้แจ้งข้อหาดังกล่าวกับผู้เมาแล้วขับ ให้พนักงานอัยการสั่งให้พนักงานสอบสวนแจ้งข้อหาเพิ่มเติมแก่ผู้ต้องหา และในการฟ้องคดีให้พนักงานอัยการขอให้ศาลสั่งริบรถของกลางด้วยสำหรับพระราชบัญญัติจราจรทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 43 (8) ระบุว่า ผู้ใดขับขี่รถโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยหรือความเดือดร้อนของผู้อื่น ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับตั้งแต่ 2,000-10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ล่าสุดสำนักงานอัยการสูงสุดกำหนดแนวทางให้อัยการขอให้ศาลยึดรถยนต์ของกลางของผู้กระทำความผิดด้วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่