ตำรวจคุม “ไอ้แบงค์” หัวโจกแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางฝากขัง ไม่ตอบคำถามสื่ออ้างให้ข้อมูลตำรวจหมดแล้ว แฉโดนอีกคดี ตำรวจ สน.ท่าข้ามตามมาอายัดตัวในคดีปล้นทรัพย์เมื่อปี 65 ส่วนนายสนที่ถูกจับล่าสุดรายที่ 7 ยังไม่แจ้งข้อหาร่วมปล้น เผยจากการสอบผู้ต้องหาพบช่องโหว่การเก็บรักษาของกลาง เหตุเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรมีกำลังไม่พอไปว่าจ้างคนในพื้นที่มาช่วยยกช่วยจัดเก็บ ทำให้มีคนนอกรู้ว่าเป็นพื้นที่เก็บของกลางภายหลังตำรวจจับกุมนายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ สุขบุญ อายุ 38 ปี หัวหน้าแก๊งปล้นบุหรี่ไฟฟ้าของกลางของกรมศุลกากร และขับรถตู้ชน รปภ.เสียชีวิต พร้อมพวก 6 คน เหตุเกิดในโกดังให้เช่าของการท่าเรือแห่งประเทศไทย ย่านคลองเตยเหตุ เกิดเมื่อช่วงกลางดึกวันที่ 1 มิ.ย.ที่ผ่านมา ต่อมานำผู้ต้องหา 5 คนไปฝากขังก่อนหน้านี้ เหลือนายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ ที่ยังต้องสอบปากคำเพิ่มเติมขยายผลในหลายประเด็นโดยเฉพาะคนรับซื้อของกลาง และยังตามจับกุมนายกุศล หรือสน เอียดอ้น อายุ 50 ปี คนชี้เป้าและร่วมขโมยบุหรี่ไฟฟ้า ตามหมายจับคดียาเสพติด 2 หมายท้องที่ สภ.ท่าแพ เมื่อปี 62 และ สน.ท่าเรือ ปี 65 ตามที่เสนอข่าวไปนั้นล่าสุดเมื่อเวลา 09.50 น. วันที่ 5 มิ.ย. พ.ต.ต. นิษฐ์ กองวิบูลศิริ สว. (สอบสวน) สน.ท่าเรือ นำกำลังควบคุมนายสิทธิศักดิ์ หรือแบงค์ สุขบุญ อายุ 38 ปี ถูกแจ้งข้อหาฆ่าผู้อื่น ร่วมกันปล้นทรัพย์เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน ร่วมกันบุกรุกเคหสถาน ร่วมกันทำให้เสียทรัพย์ และซ่องโจร ส่งผัดฟ้องฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ พร้อมคัดค้านการประกันตัว เนื่องจากคดีมีอัตราโทษสูง เกรงว่าผู้ต้องหาจะหลบหนีระหว่างนำตัวขึ้นรถ ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามถึงประเด็นการขายบุหรี่ไฟฟ้าที่ขโมยมาได้นำไปขายให้ใคร นายแบงค์บอกว่าได้ให้ข้อมูลตำรวจไปหมดแล้ว เมื่อถามย้ำว่าเป็นรายใหญ่ใช่หรือไม่ นายแบงค์ตอบย้ำอีกว่าให้ข้อมูลกับตำรวจไปหมดแล้ว เมื่อถามต่อถึงประเด็นที่มีการพาดพิงถึงนายสนและอดีต รปภ.เป็นคนชี้เป้าปล้น นายแบงค์บอกว่า ไม่มีใครชี้เป้า ถามต่อว่าไปรู้จักกันได้อย่างไร นายแบงค์บอกว่าไม่รู้จัก ยืนยันไม่มีคนชี้เป้า และยืนยันหนักแน่นว่าก่อเหตุเพียงครั้งเดียวเมื่อวันที่ 1 มิ.ย. ทั้งนี้ เสียใจที่มีผู้เสียชีวิต อยากไปขอขมาครอบครัวผู้เสียชีวิตหากได้รับการประกันตัวมีรายงานอีกว่า เมื่อวันที่ 4 มิ.ย. ตำรวจ สน.ท่าข้าม ได้มาอายัดตัวนายแบงค์ แจ้งข้อหาร่วมกันปล้นทรัพย์ เนื่องจากนายแบงค์ มีคดีค้างเก่าเกี่ยวกับการปล้นทรัพย์ในพื้นที่ สน.ท่าข้ามเมื่อปี 65ด้าน พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 กล่าวว่า ขณะนี้กรมศุลกากรอยู่ระหว่างตรวจสอบของกลางว่าหายไปจำนวนเท่าใด กี่รายการ คาดว่าต้องใช้เวลาตรวจ สอบสักระยะ หลังจากนั้นจะเข้ามาแจ้งความต่อไปมีรายงานว่า ประเด็นที่นายแบงค์กล่าวพาดพิงว่า มีอดีต รปภ.เป็นคนชี้เป้านั้นพบเป็นเพียงคำกล่าวอ้างของผู้ต้องหา แต่ตำรวจจะต้องสืบสวนข้อเท็จจริง โดยตำรวจได้ข้อมูลมาแล้วทราบเพียงชื่อเล่น อยู่ระหว่างพิสูจน์ตัวบุคคลและเรียกเข้ามาสอบปากคำ ทั้งนี้ จากการซักถามผู้ต้องหาพบช่องโหว่ในการจัดเก็บรักษาของกลาง เนื่องจากเจ้าหน้าที่กรมศุลกากรมีกำลังไม่เพียงพอ ไปว่าจ้างคนในพื้นที่มาช่วยยกของ เก็บของ ทำให้บุคคลภายนอกทราบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่เก็บของกลาง ขณะที่นายกุศล หรือสน ที่ถูกพาดพิงถึงนั้น เจ้าหน้าที่ยังไม่ได้แจ้งข้อกล่าวหาร่วมกันปล้นทรัพย์ แต่มีการตรวจพบสารเสพติดในร่างกายจึงแจ้งข้อหาเสพยาเสพติดเพิ่มอีก 1 ข้อหาอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่