ผวาแอนแทรกซ์สระแก้วลาม พบกลุ่มเสี่ยง 41 คน แยกเป็นพวกชำแหละ 7 คน กินเนื้อควายดิบ 30 คน และสัมผัสร่วมบ้านเดียวกัน 4 คน ด้านทีมสอบสวนโรคลงพื้นที่เอกซเรย์ฉีดพ่นยาฆ่าเชื้อบ้านผู้ป่วย จุดฆ่าควายและคอกเลี้ยงซ้ำ ประสานเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์จังหวัดและด่านกักกันสัตว์ตั้งจุดสกัดคุมเข้มวัวควายเข้าออกพื้นที่ เตรียมฉีดวัคซีนและยาปฏิชีวนะในรัศมี 5 กม. สสจ.ยันยังไม่พบคนติดเชื้อเพิ่มกรณีพบผู้ป่วยเป็นชายอายุ 53 ปีติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์รายแรก จ.สระแก้ว รักษาตัวอยู่ที่ รพ.พัทยาปัทมคุณ จ.ชลบุรี ล่าสุดทีมสอบสวนโรคสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้วลงพื้นที่ ต.ท่าแยก อ.เมืองสระแก้ว พบพฤติกรรมผู้ป่วยชอบกินเนื้อดิบพวกลาบก้อยและซอยจุ๊ ก่อนติดเชื้อร่วมกับเพื่อนบ้านชำแหละควายทำก้อยดิบกิน ก่อนนำกลับบ้านและขายให้คนในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างติดตามกลุ่มเสี่ยงอีกหลายสิบคนความคืบหน้าช่วงสายวันที่ 3 มิ.ย.ทีมสอบสวนโรคแอนแทรกซ์ สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดร่วมประชุมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อที่ รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว จากนั้นแบ่งทีมลงพื้นที่ออกเป็น 3 ทีม ทีมแรกค้นหาผู้ป่วยเชิงรุกจากเวชระเบียน รพ.สมเด็จพระยุพราชสระแก้ว เพื่อติดตามผู้ป่วยที่เข้ารับการรักษาก่อนหน้านี้และมีอาการใกล้เคียงกัน ทีมที่สองลงพื้นที่บ้านผู้ป่วยเก็บเสื้อผ้าข้าวของเครื่องใช้และฉีดฆ่าเชื้ออีกรอบ รวมทั้งสำรวจบ้านเพิ่มเติม ตรวจหาเนื้อต้องสงสัย และทีมสุดท้ายลงพื้นที่สวนป่ายูคาลิปตัสจุดยิงควายตัวติดเชื้อ ก่อนนำไปชำแหละกินเนื้อดิบและขาย เจ้าหน้าที่เก็บตัวอย่างดินน้ำจุดชำแหละ รวมถึงสวนยูคาลิปตัสที่ผู้ติดเชื้อไปตัดไม้และคอกวัวด้าน นพ.ธราพงษ์ กัปโก นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เปิดเผยว่า กองระบาดวิทยา กรมควบคุมโรค ส่งเจ้าหน้าที่เข้าร่วมทำงานกับทีมสอบสวนของสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดสระแก้ว เพื่อวางแผนปฏิบัติงานควบคุมโรค มีการแบ่งกลุ่มเสี่ยงออกเป็น 3 กลุ่ม กลุ่มแรกเป็นกลุ่มที่ยังไม่พบผู้ป่วยสงสัยหรือประวัติสัมผัสโรคเข้าข่าย กลุ่มที่สองเป็นกลุ่มเสี่ยงและผู้สัมผัส มีผู้ร่วมชำแหละควาย 7 คน ผู้รับประทานเนื้อดิบ 30 คน และผู้สัมผัสร่วมบ้าน 4 คน รวมกลุ่มเสี่ยงทั้งหมด 41 คน และกลุ่มที่สามกลุ่มผู้ติดเชื้อโรคแอนแทรกซ์ 1 คน เป็นชายวัย 53 ปี ปัจจุบันยังรักษาตัวอยู่ที่ รพ.พัทยาปัทมคุณ จ.ชลบุรี ตอนนี้ยังไม่พบผู้ป่วยรายใหม่เพิ่มขณะที่นายประหยัด เข่งค้า ปศุสัตว์จังหวัดสระแก้ว สั่งให้เจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ร่วมกับทีมสอบสวนโรคเข้าสำรวจข้อมูลสัตว์ในพื้นที่เกิดโรคแอนแทรกซ์ในรัศมี 5 กม. พบโค-กระบือ 243 ตัว และแพะ 29 ตัว เจ้าหน้าที่มีแผนจะฉีดวัคซีนและยาปฏิชีวนะในโคและกระบือในพื้นที่เสี่ยงรวมทั้งเข้าฉีดพ่นน้ำยาฆ่าเชื้อในจุดเสี่ยงและจุดที่เกิดการแพร่เชื้อ คาดว่าวัคซีนจะส่งมาจาก จ.นครราชสีมา มาถึง จ.สระแก้ว ในวันที่ 4 มิ.ย. จากนั้นจะไล่ฉีดตามพื้นที่เสี่ยงทุกจุด เริ่มจากจุดแรกบริเวณคอกควาย จุดควายตายในสวนยูคาลิปตัส จากนั้นจะไปฉีดวัคซีนวัวควายของชาวบ้านส่วนนายสุชาติ บุญมาก หัวหน้าด่านกักกันสัตว์สระแก้ว มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนตั้งจุดสกัด 3 จุด แบ่งเจ้าหน้าที่ประจำจุดละ 3 คน ประกอบด้วยจุดตรวจ สภ.ปางสีดา ต.ท่าแยก จุดสามแยกบ้านท่ากระบาก และบริเวณสามแยกบ้านคลองทราย เพื่อเฝ้าระวังการขนย้ายวัวควายเข้าออกจากพื้นที่ตามคำสั่งของจังหวัดสระแก้วอย่างเข้มงวดขณะเดียวกัน พล.ต.ต.ถาวร ดุลยวิทย์ ผบก.ภ. จ.สระแก้ว สั่งการให้ พ.ต.อ.พิเชษฐ์ ศรีจันตรา ผกก.สภ.ปางสีดา เร่งติดตามอาวุธปืนที่เจ้าของควายอ้างกับเจ้าหน้าที่สาธารณสุขยิงควายตัวดังกล่าวตายแล้วนำไปชำแหละ เมื่อวันที่ 9 เม.ย.ที่ผ่านมา จากนั้นผกก.สภ.ปางสีดา มอบหมายให้ พ.ต.ท.เสกสรรค์ เสนพันธ์ลำ รอง ผกก.ป.สภ.ปางสีดา นำกำลังลงพื้นที่ตรวจจุดที่อ้างว่ายิงควายในป่ายูคาลิปตัส พร้อมทั้งเชิญตัวเจ้าของควายไปให้ปากคำเพิ่มเติมที่ สภ.ปางสีดา เพื่อหาเจ้าของปืนว่าเป็นของใคร ถูกต้องตามกฎหมายหรือไม่เจ้าของควายเปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นได้รับผลกระทบอย่างมาก โดนทั้งกระแสโซเชียล คนต่อว่าเป็นต้นเหตุของโรคแอนแทรกซ์ แถมกลุ่มผู้ค้าขายควายด้วยกันโจมตีหาว่านำสัตว์ติดเชื้อเข้ามาในกลุ่ม รู้สึกท้อแท้และเครียด ครอบครัวก็ขาดรายได้จากอาชีพค้าวัวควายมานานกว่า 10 ปี เพราะต้องถูกกักตัวเป็นเวลา 30 วัน ตนยินดีปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด ทุกวันนี้ได้แต่นั่งมองฝูงควายที่ปล่อยให้กินหญ้าอยู่กลางทุ่งนา ไม่สามารถทำอะไรได้เลย ตอนนี้กำลังรอผลตรวจอย่างเป็นทางการว่าติดเชื้อแอนแทรกซ์หรือไม่อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่