บุกทลายคลังแสงในค่ายวชิราวุธ จ.นครศรีธรรมราช จับกุมสามี พ.ต.หญิงลักลอบ ค้าปืนเถื่อน เปิดร้านขายในอาคารศูนย์จำหน่ายสินค้าสวัสดิการทหาร ไม่มีใบอนุญาต แถมลักลอบขายผ่านทางออนไลน์ ตรวจค้นภายในร้าน ที่บ้านพักเมียในค่าย และบ้านส่วนตัว ตรวจยึดปืนขนาดต่างๆรวมถึง 400 กระบอก มีทั้งปืนสั้น ปืนยาว ปืนสงคราม ยุทธภัณฑ์ อะไหล่ชิ้นส่วน และกระสุนปืนจำนวนมาก กองทัพภาค 4 เต้นผางสั่งปิดข่าววุ่น แถมไม่ยอมให้ตำรวจยึดปืนของกลางที่พบในค่ายไปไว้โรงพักปฏิบัติการบุกทลายคลังแสงในค่ายทหารลักลอบ ค้าปืนเถื่อนยึดของกลางได้กว่า 400 กระบอก เปิดเผยเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 27 พ.ค. กำลังทหารกองทัพภาค 4 ร่วมกับตำรวจ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช นำโดย พ.ต.อ.กิตติชัย ไกรนรา ผกก. สนธิกำลังตำรวจชุดสืบสวนจังหวัดนครศรีธรรมราช และชุดสืบสวนภาค 8 นำหมายศาลเข้าตรวจค้นร้านจำหน่ายอาวุธปืนที่ศูนย์จำหน่ายสินค้าสวัสดิการทหาร อาคาร PX ภายในค่ายวชิราวุธ กองทัพภาค 4 อ.เมืองนครศรีธรรมราช หลังสืบทราบว่ามีการลักลอบจำหน่ายอาวุธปืนขนาดต่างๆ ทั้งปืนธรรมดาและปืนสงคราม รวมถึงยุทธภัณฑ์ทหารและกระสุนปืนจำนวนมากโดยไม่ได้รับอนุญาต และยังลักลอบขายผ่านทางออนไลน์อีกด้วยเมื่อกำลังเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจเดินทางไปถึง ได้ควบคุมตัวนายวิสุทธิ์ เหมหมัน อายุ 41 ปี เจ้าของร้าน เป็นสามีของนายทหารยศ พ.ต.หญิงคนหนึ่งในค่ายวชิราวุธ อยู่บ้านเลขที่ 101-103 หมู่ 8 ต.โพธิ์ทอง อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ตรวจค้นภายในร้านพบอาวุธปืนสงคราม กระสุนปืน และอะไหล่ชิ้นส่วนอาวุธปืนจำนวนมาก สอบถามไม่มีใบอนุญาตและทะเบียนแต่อย่างใด ตรวจยึดปืนทั้งหมดในร้านเป็นของกลางจากนั้นควบคุมตัวนายวิสุทธิ์ไปตรวจค้นบ้านพักภรรยาที่เป็นนายทหารหญิงอยู่ในค่ายวชิราวุธ พบอาวุธปืน กระสุนปืน และชิ้นส่วนปืน อีกจำนวนมาก ตรวจยึดทั้งหมดเป็นของกลาง ก่อนนำตัวนายวิสุทธิ์ไปตรวจค้นที่บ้านพักในพื้นที่ อ.ท่าศาลา ปรากฏว่าพบอาวุธปืน กระสุนปืน และชิ้นส่วนปืนขนาดต่างๆอีกจำนวนมากเช่นกัน รวมของกลางที่ตรวจยึดได้ทั้งหมดประมาณ 400 กระบอก ในจำนวนนี้มีทั้งปืนสั้น ปืนยาว ปืนสงคราม ปืนเอ็ม 16 กระสุนปืนขนาดต่างๆ และชิ้นส่วนอะไหล่ปืนชนิดต่างๆอีกจำนวนมากผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตำรวจได้ตรวจยึดอาวุธปืนของกลางที่พบในบ้านพักของผู้ต้องหาไปเก็บไว้ที่ สภ.ท่าศาลา ส่วนอาวุธปืนของกลางที่ยึดได้ในค่ายวชิราวุธทั้งที่ร้านขายปืนและบ้านพัก พ.ต.หญิง ภรรยาของผู้ต้องหา ทางทหารได้ตรวจยึดเก็บไว้ในค่าย ไม่ยอมให้ตำรวจนำไปเก็บไว้ที่ สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ส่วนนายวิสุทธิ์ ผู้ต้องหา ถูกนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองนครศรีธรรมราช ดำเนินคดีในข้อหา มีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่นายทะเบียนไม่สามารถออกใบอนุญาตได้ไว้ในครอบครองโดยผิดกฎหมาย และจะเร่งสอบสวนขยายผลถึงผู้ร่วมขบวนการค้าอาวุธปืนสงครามเถื่อนรายใหญ่ครั้งนี้ต่อไปมีรายงานว่า ภายหลังการบุกทลายคลังแสงจับกุมปืนเถื่อนในค่ายวชิราวุธ ตลอดทั้งคืนที่ผ่านมามีผู้บังคับบัญชาระดับสูงของกองทัพภาค 4 สั่งกำชับเจ้าหน้าที่ให้ปิดข่าว ห้ามเผยแพร่ภาพการจับกุมอาวุธปืนครั้งนี้หลุดรอดไปถึงมือสื่อมวลชนอย่างเด็ดขาด หากพบว่าข่าวหรือภาพรั่วจะมีการสอบสวนเอาผิดกับผู้เกี่ยวข้อง ทำให้เจ้าหน้าที่ทุกนายต่างพากันปิดปากเงียบไม่มีใครกล้าให้ข้อมูลกับสื่อมวลชนต่อมา พ.อ.วัชรกร อ้นเงิน โฆษกกองทัพภาคที่ 4 เผยว่า จากการตรวจสอบพบว่ามีการใช้ร้านค้าสวัสดิการของหน่วย ภายในค่ายวชิราวุธ จ.นคร ศรีธรรมราช เพื่อดำเนินกิจการที่ผิดกฎหมาย ใช้ชื่อว่า “GUN SMART & TACTICAL SHOP” ใช้ชื่อกำลังพลในค่ายทำสัญญาเช่าพื้นที่ประกอบธุรกิจในเชิงพาณิชย์ เปิดเป็นร้านค้าประเภทอุปกรณ์ตกแต่งอาวุธปืน เครื่องทหาร อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ และร้านรับส่งพัสดุเอกชน มีนายวิสุทธิ์ เหมหมัน อายุ 41 ปี รับเป็นเจ้าของร้าน เจ้าหน้าที่ตรวจค้นและขยายผลไปยังสถานที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องพบอาวุธปืน 35 กระบอก พร้อมกระสุนปืนกว่า 16,000 นัด และอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องอีกกว่า 100 รายการ มีการติดต่อทางออนไลน์และจำหน่ายผ่านขนส่งเอกชน ปัจจุบันยังไม่ตรวจพบว่ามีความเชื่อมโยงใดๆเกี่ยวกับเหตุการณ์ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนขยายผลเพิ่มเติมของตำรวจทั้งนี้ พล.ท.ไพศาล หนูสังข์ แม่ทัพภาคที่ 4 สั่งการให้มีการตรวจสอบผู้เช่าพื้นที่ร้านค้าสวัสดิการของหน่วยทุกแห่งในสังกัดอย่างละเอียด เพื่อป้องกันการกระทำผิดกฎหมาย โดยอาศัยพื้นที่ค่ายทหารในการดำเนินการในลักษณะเดียวกันอีก กองทัพภาคที่ 4 ขอยืนยันว่าหากการขยายผลตรวจพบว่ามีกำลังพลในสังกัดคนใดไปเกี่ยวข้องกับเรื่องดังกล่าวจะมีการลงโทษทางวินัยสถานหนัก และอำนวยความสะดวกในทางคดีให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจจนถึงที่สุดอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
