ความแปลกประหลาดของประเทศไทยคือ โครง การที่ควรเร็วดันช้าและโครงการที่ควรช้าดันเร็ว โครงการที่ควรเร็วแต่ดันช้า คือโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน (ดอนเมือง-สุวรรณภูมิ-อู่ตะเภา) ซึ่งหยุดนิ่งเหมือนถูกฉีดยาสลบมาแล้ว 5 ปีทำให้ประเทศไทยสูญเสียโอกาสทางเศรษฐกิจ และสูญเสียความสามารถในการแข่งขันอย่างน่าเสียดายล่าสุดผลกระทบจากการขึ้นกำแพงภาษีของ “ทรัมป์” ยิ่งเป็นตัวเร่งให้โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจำเป็นต้องเกิดขึ้นโดยเร็ว!!“แม่ลูกจันทร์” มองว่าในช่วงต้นรัฐบาลแพทองธาร ชินวัตร ได้ผลักดันโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินอย่างสุดลิ่มทิ่มประตูแต่หลังจากนั้นข่าวก็ค่อยๆเงียบลงๆๆจนถึงขั้นเงียบฉี่ไม่หือไม่อือมาแล้วหลายเดือน“แม่ลูกจันทร์” กระชุ่น นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รองนายกฯ และ รมว.คมนาคม ควรรีบชี้แจงประชาชนให้หายข้องใจโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะเดินหน้าต่อไป?หรือจะจอดป้ายกลางทาง??ถ้าจะเดินหน้าต่อไป จะเริ่มก่อสร้างเมื่อใด? และจะเสร็จเมื่อใด?หากยังเดินหน้าต่อไปไม่ได้ เพราะติดไฟแดงตรงไหน??รองนายกฯสุริยะควรชี้แจงให้แจ่มแจ้งชัดเจน“แม่ลูกจันทร์” ทบทวนความจำว่า โครงการร่วมทุนรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ระยะทาง 220 กม. กลุ่มซีพีในนาม “บริษัท เอเชีย เอรา วัน” เป็น ผู้ชนะประมูลสัมปทานระยะยาว 50 ปีมีการเซ็นสัญญากับรัฐบาลอดีตนายกฯลุงตู่ เมื่อเดือนตุลาคม 2562กำหนดสร้างเสร็จเปิดบริการภายใน 5 ปี ซึ่งจะทำให้การเดินทางจากกรุงเทพฯไปถึงสนามบินอู่ตะเภาเพียง 50 นาทีการเกิดขึ้นของรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินจะเป็นจุดดึงดูดนักลงทุนต่างชาติที่จะเข้ามาลงทุนในเขตเศรษฐกิจตะวันออก (อีอีซี) ซึ่งหวังจะเป็นมหานครอุตสาหกรรมไฮเทคใหญ่ที่สุดของประเทศไทยความล่าช้าของโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน จึงส่งผลกระทบต่อโครงการอีอีซี และโครงการพัฒนาสนามบินอู่ตะเภาโดยตรง“แม่ลูกจันทร์” มองว่าต้นเหตุสำคัญที่โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินต้องเท้งเต้งมา 5 ปีเพราะบริษัท เอเชีย เอรา วัน ของกลุ่มซีพีเกิดขัดข้องทางเทคนิคไม่พร้อมปฏิบัติตามเงื่อนไขในสัญญาร่วมทุนหากต้องการให้โครงการรถไฟความ เร็วสูงเดินหน้าต่อไป รัฐบาลต้องยอมแก้ไขสัญญาตามข้อเสนอของกลุ่มซีพีคือรัฐบาลต้องจ่ายเงินลงขันตั้งแต่ปีแรกเมื่อเริ่มก่อสร้างซึ่งต่างจากสัญญาเดิมที่รัฐบาลจะเริ่มจ่ายเงินลงขันในปีที่ 5 หลังจากรถไฟความเร็วสูงเริ่มเปิดบริการและรัฐบาลต้องผ่อนปรนเงื่อนไขการชำระค่าสิทธิ์การบริการรถไฟฟ้าแอร์พอร์ตเรลลิงก์ จากงวดเดียวหนึ่งหมื่นล้านบาท เป็นแบ่งจ่าย 7 งวดในระยะเวลา 10 ปีการเจรจาแก้ไขสัญญาตกลงกันได้แล้วตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมาและคาดว่าการก่อสร้างรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ซึ่งแช่เบ้ามา 5 ปี จะเริ่มนับหนึ่งอีกครั้งในเดือนมิถุนายนปีนี้แต่จากบัดนั้นมาจนบัดนี้ยังไม่มีการเสนอเข้าที่ประชุม ครม.ยังไม่มีการอนุมัติแก้ไขสัญญา, ยังไม่มีการลงนามแก้ไขสัญญา ฯลฯยังไม่มีความคืบหน้าแม้แต่คืบเดียวอืมม์...มันชักยังไงชอบกลซะแล้วนะโยม??"แม่ลูกจันทร์"คลิกอ่านคอลัมน์ “สำนักข่าวหัวเขียว” เพิ่มเติม