กรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะการกำกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด ในกรณี สว.เข้าชื่อยื่นคำร้องให้ศาลรัฐธรรม นูญตรวจสอบ พ.ต.อ.ทวีผิดจริยธรรมร้ายแรง ใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือตรวจสอบการเลือก สว. กลั่นแกล้งฝ่ายนิติบัญญัติศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า พ.ต.อ.ทวีมีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงมีคำสั่งให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็นและส่งเอกสารหลักฐานต่อศาลรัฐธรรมนูญภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัย ทำให้คดีฮั้วเลือก สว.ที่อยู่ในการไต่สวนของ กกต. ทวีความเข้มข้นมากยิ่งขึ้นเหตุที่คดีโพยฮั้ว สว.เป็นที่จับตามอง เนื่องจากมี สว.ถูก กกต.แจ้งข้อหาลอตแรก 55 คน มีระดับประธานวุฒิสภา รองประธานวุฒิสภา รวมอยู่ในข่ายด้วย สว.ที่ถูกดำเนินการเอาผิดล้วนเป็น สว.สีน้ำเงินที่ถูกมองเป็นองคาพยพสำคัญของพรรคภูมิใจไทย โดยระบุมีพยานหลักฐานมัดแน่น พฤติการณ์ฮั้วเลือก สว.ที่ทำเป็นขบวนการและมีแนวโน้มจะมี สว.ถูกแจ้งข้อกล่าวหาตามมาในลอตสองอีกร่วม 100 คน ตลอดจนผู้ร่วมขบวนการฮั้วตั้งแต่ระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ อีกเป็นพันคน โดยมีเส้นทางการเงินเข้ามาเกี่ยวข้อง 500 ล้านบาท ที่ กกต.และดีเอสไอเตรียมจะรวบรวมหลักฐานดำเนินการเอาผิดเพิ่มเติมไปให้ถึงคนบงการในระดับบิ๊กการเมืองอย่างไรก็ตาม คดีฮั้วเลือก สว.ถูกตั้งข้อสังเกตเป็นการทำสงครามตัวแทนขั้วอำนาจการเมืองในฝั่งรัฐบาลด้วยกัน เพื่อวัดพลังระหว่างฝ่ายสีแดง คือ พรรคเพื่อไทย กับฝ่ายสีน้ำเงิน คือ พรรคภูมิใจไทย ที่ต่างฝ่ายต่างกุมกลไกอำนาจสำคัญในมือ พรรคเพื่อไทยถูกมองมีดีเอสไอเป็นพวก ขณะที่พรรคภูมิใจไทยก็มี สว.เป็นแนวร่วมคดีโพยฮั้ว สว.ถูกมองเป็นการเดินเกมทุบ สว.สีน้ำเงิน เพื่อบีบให้เปลี่ยนขั้วการเมือง ลดทอนอำนาจพรรคภูมิใจไทยที่มักมีปัญหาขัดแย้งการทำงานกับพรรคเพื่อไทยบ่อยครั้ง ตลอดจนแชร์ส่วนแบ่งดุลอำนาจในวุฒิสภาที่มีบทบาทสำคัญมากมาย ทั้งการรับรองกฎหมาย การเลือกองค์กรอิสระ ไม่ให้ถูกปกคลุมด้วยพลังค่ายสีน้ำเงินการดำเนินคดีฮั้วเลือก สว.ในมือคณะกรรมการการเลือกตั้ง และดีเอสไอ จึงต้องพิสูจน์ให้เห็นถึงการทำงานอย่างตรงไปตรงมา ว่าไปตามพยานหลักฐานข้อเท็จ จริง โดยไม่มีเกมซ่อนกล ให้ฝ่ายการเมืองนำมาใช้เป็นเครื่องมือเจรจาต่อรองผล ประโยชน์ แลกดีลการเมือง หรือใช้เวทีตรวจสอบเป็นฉากเล่นเกมฮั้วตบตาประชาชน.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม