เข้ามุมการเมืองที่มีเปรียบก็ต้องเปล่งแสงให้เต็มที่ เพราะนอกจากให้เข้าตา “ลูกพี่” แล้วยังให้นักการเมืองในระบบมองเห็นนี่แหละคือพรรคการเมืองที่พึ่งพาอาศัยได้“กล้าธรรม” คือพรรคการเมืองหน้าใหม่ที่กำลังมาแรงเป็นที่น่าจับตามองถึงความเป็นไปอย่างยิ่ง โดยเฉพาะชื่อ“ธรรมนัส พรหมเผ่า” เจ้าของพรรคตัวจริงเสียงจริงวันนี้กำลังเบ่งบารมีเต็มพิกัดเพราะความ “ใจถึง พึ่งได้” ทุกรูปแบบแม้จะอยู่คนละค่ายแต่สังกัดหมู่เหล่าเดียวกัน“ทักษิณ ชินวัตร” เป็น “ลูกพี่ใหญ่” จากเพื่อไทยหลังจากเขี่ย “พี่ใหญ่” จากพลังประชารัฐออกจากรัฐบาลไปแล้วก็นำพรรค “กล้าธรรม” ผงาดในสนามการเมืองอย่างเต็มตัวมี สส.เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ล่าสุดก็บินโฉบ “งูเห่า” จากพรรคประชาชนมาได้หนึ่ง จะมาจากแบบไหนอย่างไรต้องจินตนาการกันเองแต่คงไม่ใช่เหตุผลที่แก้ตัวแก้ต่างแน่ก่อนหน้า “ธรรมนัส” เคยบอกว่าจะมี สส.เข้ามาร่วมอุดมการณ์เดียวกันหลายคนก็พอเห็นตัวกันมาแล้วพูดง่ายๆว่าเป็นของจริง!วันนี้ศิษย์เก่า “เพื่อไทย” ที่เคยออกจากพรรคกำลังเข้าสังกัดอีกหลายคน เพราะมั่นใจมาพรรคนี้จะได้รับการอุ้มชูดูแลเป็นอย่างดีที่สำคัญคือได้เป็นรัฐบาลแน่...นั่นเท่ากับว่ากำลังซ่องสุมกำลังพลเพื่อทำงานใหญ่ในสนามเลือกตั้งใหญ่คราวหน้ากันแล้วแนวร่วมที่ชัดเจนคือ “เพื่อไทย”-“กล้าธรรม”-“ประชาชาติ”แน่นอนว่า “กล้าธรรม” จะเป็นหัวหอกสำคัญในการสกัด “ภูมิใจไทย”-“ประชาชน” ทุกสนามทุกพื้นที่แต่จะไม่ชนกับ “เพื่อไทย” ในฐานะ “พรรคแม่”แน่นอนว่า “ภูมิใจไทย” ต้องเจอศึกใหญ่อย่างแน่นอน โดยเฉพาะภาคอีสานที่ยึดครองพื้นที่ได้มากพอสมควรแม้แต่พื้นที่ภาคใต้ก็คงต้องเจอด้วยเช่นกันวันนี้ “สีน้ำเงิน” กำลังเจอศึกหนักหลายด้าน โดยเฉพาะ สว.ที่ทุ่มทุนไปมากจนได้มาตามเป้ากำลังถูกจัดการอย่างไม่ไว้หน้าในคดี “ฮั้วเลือกตั้ง”เท่ากับถูกเด็ดปีกทำลายอำนาจให้หมดไป!ทำให้อำนาจต่อรองที่เคยเต็มไม้เต็มมือก็หมดไปตามสภาพด้วยเหตุและปัจจัยต่างๆที่เกิดขึ้น “อนุทิน ชาญวีรกูล” ที่เคยยืนอยู่แถวหน้าเพื่อรอขึ้นเป็นเบอร์ 1 กำลังถอยห่างออกไปเรื่อยๆพูดง่ายๆคือโอกาสจะได้เป็นนายกรัฐมนตรีลดน้อยลงถ้าไม่มีอะไรมาทำให้สถานการณ์การเมืองเปลี่ยนแปลงนั่นคือ “ทักษิณ” จะต้องเจอพิษการเมืองจนโงหัวไม่ขึ้นอย่างเรื่องชั้น 14 รพ.ตำรวจ ที่วันนี้กำลังเดินอยู่บนเส้นลวดที่มีโอกาสถูกแจ็กพอตได้ เพราะสถานการณ์ไม่ค่อยจะดีนักขึ้นอยู่ว่าศาลจะตัดสินออกมาอย่างไรเท่านั้นเพราะถ้า “ทักษิณ” โดนรัฐบาลก็เดินหน้าต่อไปไม่ได้ก็จะเป็นโอกาสที่ “ภูมิใจไทย” จะพลิกสถานการณ์แบบมีแต้มต่อทันทีเป็นการจัดการกับ “ตัวพ่อ” ต้นตอแห่งอำนาจก็คอยดูวันที่ 13 มิ.ย.2568 ก็แล้วกัน!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม