รัฐบาลระทึก ศาล รธน.สั่ง “ทวี” หยุดปฏิบัติหน้าที่กำกับดูแลดีเอสไอ พ่วงรอง ปธ.บอร์ดคดีพิเศษ หลังถูก สว.สีน้ำเงินร้องใช้อำนาจแทรกแซงคดีฮั้วเลือก สว. พร้อมตีตกคำร้อง สว.สำรองที่ยื่นสอบ 92 สว.“ทวี” เคารพคำสั่งศาล ยันไม่เคยไปยุ่ง มั่นใจคดีไม่ชะงัก คาด “ภูมิธรรม” รับไม้ต่อ นายกฯยันมี รมต. มาดูแลแทน สว.สำรองยกทีมให้กำลังใจดีเอสไอ “ฉัตรวรรษ” ได้ทีขย่มขู่เอาคืนดีเอสไอ “บิ๊กเกรียง” ยันไปพบ กกต.ตามหมาย “พีระพันธุ์” จ่อชิ่งรับทราบข้อหา ป.ป.ช. คดีถุงยังชีพ อดีตแพทย์ใหญ่ รพ.ตำรวจโร่ขอความเป็นธรรม รมว.สธ.อีกราย “ณัฐพงษ์” ชี้พฤติกรรมชัด “กฤษฎิ์” แอบดีลมานาน จี้ “ผู้กอง” ตอบดูดแบบนี้สง่างามไหม “ธรรมนัส” จ่อเปิดตัว “อนุดิษฐ์-การุณ” ฟุ้งจะมาอีกเพียบ “พิชัย” รับต้องทบทวนเงินหมื่นเฟส 3 แบไต๋ 5 ข้อเจรจาภาษีสหรัฐฯ ชี้มีสัญญาณบวก ฝันมองเห็นตัวเลข 10% ขั้นต่ำ “อิ๊งค์” สวมบทแม่ค้าขายผลไม้ อ้อมแอ้มพักแจกเงินหมื่นเฟส 3จับตากระดานการเมืองร้อน เมื่อศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่เฉพาะในฐานะผู้กำกับดูแลกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) และรองประธานกรรมการคดีพิเศษ กรณี สว.กลุ่มหนึ่งยื่นร้องแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่อำนาจของ กกต. โดยใช้ดีเอสไอเป็นเครื่องมือ ในคดีฮั้วเลือก สว.ศาล รธน.ถกคำร้องสอย “อ้วน-ทวี”เมื่อเวลา 13.24 น.วันที่ 14 พ.ค. สำนักงานศาลรัฐธรรมนูญเผยแพร่เอกสารข่าวศาลรัฐธรรมนูญ กรณีประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่าความเป็นรัฐมนตรีของนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ผู้ถูกร้องที่ 1 และ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ผู้ถูกร้องที่ 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (8) และ (5) หรือไม่ โดย สว.เข้าชื่อเสนอคำร้องอ้างว่า การที่ผู้ถูกร้องทั้ง 2 มีมติให้การกระทำความผิดทางอาญาอื่นเป็นคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 21 วรรคหนึ่ง (2) เป็นการแทรกแซงหรือครอบงำหน้าที่ และอำนาจของ กกต. โดยใช้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เป็นเครื่องมือแทรกแซงกระบวนการตรวจสอบการเลือก สว. อันเป็นการกลั่นแกล้ง กดดัน ข่มขู่ และครอบงำ สว. ฝ่ายนิติบัญญัติ ขัดต่อหลักการแบ่งแยกอำนาจ และฝ่าฝืนหลักนิติธรรม ถือได้ว่าผู้ถูกร้องทั้ง 2 ไม่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และมีพฤติกรรมเป็นการฝ่าฝืน หรือไม่ปฏิบัติตามมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 160 (4) และ (5) เป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีผู้ถูกร้องทั้ง 2 สิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่สั่ง “ทวี” หยุดทำหน้าที่กำกับดีเอสไอเอกสารข่าวระบุอีกว่า ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า เพื่อประโยชน์แห่งการพิจารณา ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจัดทำความเห็น และจัดส่งสำเนาเอกสารหลักฐานตามประเด็นที่ศาลรัฐธรรมนูญกำหนดภายใน 15 วัน นับแต่วันที่ได้รับหนังสือ เพื่อประกอบการพิจารณาวินิจฉัย สำหรับกรณีปรากฏข้อเท็จจริงตามคำร้องเพิ่มเติม ของผู้ร้องฉบับลงวันที่ 14 พ.ค.2568 พร้อมเอกสารประกอบขอให้มีคำสั่งให้ผู้ถูกร้องทั้ง 2 หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัยถึงที่สุด ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์ เห็นว่าผู้ถูกร้องที่ 1 ดำรงตำแหน่งรองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ยังไม่ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่ามีกรณีตามที่ถูกร้องที่จะสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 1 หยุดปฏิบัติหน้าที่ ส่วนผู้ถูกร้องที่ 2 ดำรงตำแหน่ง รมว.ยุติธรรม มีหน้าที่และอำนาจในการสั่งและปฏิบัติราชการในฐานะผู้บังคับบัญชาข้าราชการกระทรวงยุติธรรม อันรวมไปถึงกรมสอบสวนคดีพิเศษ ตามคำร้องเพิ่มเติมและเอกสารประกอบ ปรากฏเหตุอันควรสงสัยว่า ผู้ถูกร้องที่ 2 มีกรณีตามที่ถูกร้อง จึงสั่งให้ผู้ถูกร้องที่ 2 หยุดปฏิบัติหน้าที่ รมว.ยุติธรรม เฉพาะในฐานะผู้กำกับดูแลดีเอสไอและรองประธานกรรมการคดีพิเศษ ตาม พ.ร.บ.การสอบสวนคดีพิเศษ ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคสอง ตั้งแต่วันที่ 14 พ.ค.2568 จนกว่าศาลรัฐธรรมนูญจะมีคำวินิจฉัยตีตกคำร้องชุดสำรองยื่นสอบ 92 สว.นอกจากนี้ศาลรัฐธรรมนูญมีการพิจารณากรณี พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว และคณะ (ผู้ร้อง) ขอให้ศาลวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 ว่า พล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร และคณะ สว. 92 คน (ผู้ถูกร้อง) ร่วมกันลงลายมือชื่อและยื่นหนังสือต่อประธานวุฒิสภา ขอให้ส่งคำร้องไปยังกรรมการ ป.ป.ช. เพื่อพิจารณาไต่สวนดำเนินการกับ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม และ พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีดีเอสไอ กรณีเสนอเรื่องขออนุมัติให้การดำเนินคดีความผิดฐานอั้งยี่ต่อบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการเลือก สว. เป็นคดีพิเศษ และการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบของคณะกรรมการคดีพิเศษ กับพวกรวม 11 คน ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาแล้วเห็นว่า ผู้ร้องเป็นเพียงผู้มีรายชื่อได้รับเลือกเป็น สว.บัญชีสำรอง มิได้มีสถานะเป็น สว.ที่มีสิทธิเข้าชื่อร้องต่อประธานวุฒิสภา มิได้เป็นผู้มีสิทธิยื่นคำร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีจึงไม่ต้องด้วยหลักเกณฑ์และเงื่อนไขตามรัฐธรรมนูญมาตรา 82 วรรคหนึ่ง ที่ศาลรัฐธรรมนูญจะรับไว้พิจารณาวินิจฉัยได้ ศาลรัฐธรรมนูญมีมติเป็นเอกฉันท์มีคำสั่งไม่รับคำร้องไว้พิจารณาวินิจฉัย“ทวี” น้อมรับเคารพคำสั่งศาล รธน.ต่อมาเวลา 16.30 น.ที่สถาบันนิติวิทยาศาสตร์ จ.ปทุมธานี พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ให้สัมภาษณ์ว่า คำสั่งศาลรัฐธรรมนูญที่ออกมาเราต้องเคารพศาล ไม่ขอพูดในรายละเอียด ส่วนตัวยังไม่เห็นเรื่องว่ามาจากประเด็นอะไร เพียงแค่ได้อ่านตามไลน์อ้างว่ามีการร้องเพิ่มเมื่อวันที่ 14 พ.ค. แต่ยังไม่เห็นคำร้อง อย่างไรก็ตาม เราต้องเคารพศาลรัฐธรรมนูญ ส่วนตัวมองในทางบวก จะทำให้ทุกคนมีความสบายใจด้วย เพราะที่ผ่านมาเราไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องการสืบสวนสอบสวนอยู่แล้ว ถ้าเราเคารพศาลก็คือการสร้างความเข้มแข็งของหลักนิติธรรม และเรื่องต่างๆ จะได้ไปสู่การตรวจพิสูจน์ กับ กกต.ไม่เคยคุยกันสักครั้ง เมื่อถามว่าจะอุทธรณ์คำสั่งศาลหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ศาลไม่ได้สั่งอะไรให้เสียหาย เราไม่ได้เข้าไปยุ่งอยู่แล้ว ถ้าศาลมีหนังสือมาก็แค่ทำคำชี้แจงแล้วรอการพิจารณา ยืนยันว่าชี้แจงได้อยู่แล้ว เพราะเป็นการปฏิบัติหน้าที่ปกติมั่นใจไม่ทำให้คดีฮั้วเลือก สว.ชะงักผู้สื่อข่าวถามว่ามีคำสั่งศาลออกมาเช่นนี้จะกระทบกับการสืบสวน การหาข้อเท็จจริงเกี่ยวกับคดีฮั้วเลือก สว.หรือไม่ หรือว่าจะทำให้กระบวนการหยุดชะงัก พ.ต.อ.ทวีตอบว่า จะหยุดชะงักได้อย่างไร ที่ผ่านมารัฐมนตรีไม่ได้ไปทำให้ไปข้างหน้าหรือถอยหลัง เป็นเรื่องที่มีกฎหมายรองรับอยู่ เป็นอิสระของพนักงานสอบสวน ยิ่ง กกต.เป็นองค์กรอิสระ เมื่อถามว่าการให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราว เหมือนเป็นการส่งสัญญาณหรือสะท้อนอะไรหรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า เป็นเรื่องที่ประชาชนให้ความสนใจ ดีด้วยซ้ำที่ศาลจะให้เราไปชี้แจง และรอฟังคำวินิจฉัยต่อไป เมื่อถามว่าคดีฮั้วเลือก สว. ในส่วนคดีความผิดอั้งยี่ ฟอกเงิน ไม่ต้องชะลอไว้ก่อนใช่หรือไม่ พ.ต.อ.ทวี ตอบว่า เขาไม่ได้สั่งให้หยุดก็ทำต่อไป และไม่กระทบกับกรอบเวลาคาด “ภูมิธรรม” รับไม้ต่อคุมดีเอสไอเมื่อถามว่ามองเป็นการสกัดการตรวจสอบหรือไม่ พ.ต.อ.ทวีหยุดคิดชั่วครู่ก่อนตอบว่า ต้องเคารพศาล อย่าไปวิจารณ์ ไม่ขอลงรายละเอียด ประชาชนก็ดูกัน ส่วนอำนาจหน้าที่การกำกับดูแลดีเอสไอ หลังจากนี้ถ้าเป็นเรื่องกฎหมาย เช่น เสนอกฎหมายเข้า ครม. ต้องเป็นรัฐมนตรีเซ็นต้องมีผู้รักษาการ แต่ยังไม่ทราบว่าเป็นใคร น่าจะมีตั้งไว้แล้วคือนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี เมื่อถามว่าได้พูดคุยกับนายกฯหรือไม่ จะแต่งตั้งใครมาแทน พ.ต.อ.ทวีตอบว่า ยังไม่ได้พูดคุยกับใคร เมื่อถามว่าตอนนี้เหมือนสีน้ำเงินชนะยกแรกแล้ว พ.ต.อ.ทวีตอบว่า การทำงานของกระทรวงยุติธรรมทำภายใต้กรอบกฎหมาย ไม่เคยคำนึงเรื่องการเมือง ประเด็นการเมืองไม่ควรนำมาใช้ในกระบวนการยุติธรรม เพราะต้องมีหลักนิติธรรม กฎหมายต้องปกป้องคุ้มครองคนทุกคน ไม่กังวลหากท้ายสุดมีคำวินิจฉัยให้พ้นสภาพรัฐมนตรี เพราะไม่ได้ไปแทรกแซงองค์กรต่างๆ และไม่กังวลหากจะมีผลต่อการปรับ ครม.นายกฯยันมี รมต.ดูแลแทน “ทวี”ที่ทำเนียบรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงกรณีศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม หยุดปฏิบัติหน้าที่ในการสั่งการดีเอสไอว่า มีรัฐมนตรีมารับผิดชอบในเรื่องนี้แทน เมื่อถามว่าจะให้นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ และ รมว.กลาโหม ดูแลใช่หรือไม่ นายกฯ ตอบว่า “เดี๋ยวขอคุยกันก่อนค่ะ” เมื่อถามว่าคดีฮั้วเลือกตั้ง สว.จะเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า เรื่องอยู่ในกระบวนการ ไม่ได้อยู่ในอำนาจของตน อยู่ในอำนาจของดีเอสไอ ต้องดูว่าเขาจะเอายังไงต่อ“ฉัตรวรรษ” ได้ทีขย่มเอาคืนดีเอสไอพล.ต.ต.ฉัตรวรรษ แสงเพชร สว. กลุ่มสีน้ำเงิน กล่าวว่ากรณีศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้ พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม ยุติการปฏิบัติหน้าที่ในส่วนงานดีเอสไอว่า คงเห็นว่าการออกมาแหกปากให้สังคมเกลียดชัง สว. คงไม่ชอบ ถ้ามีของจริงไม่ต้องไปแหกปากหรอก เดี๋ยวเจอคิดบัญชีแน่ ที่ สว.ยื่นเรื่องต่อศาลรัฐธรรมนูญให้ตรวจสอบการทำหน้าที่ของ พ.ต.อ.ทวี ไม่ใช่เพื่อสู้คดี แต่รักษาความเป็นธรรมให้วุฒิสภา ปกป้ององค์กรตามกฎหมาย มีจิตใจบริสุทธิ์ไม่ใช่จิตใจชั่วร้าย ส่วนที่ กกต.เตรียมเรียก สว.ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือก สว. ถามว่า กกต.ชุดใหญ่หรือชุดอนุฯ กเฬวรากเป็นคนเรียก กกต.ชุดใหญ่มีหลักการ แต่ชุดอนุฯอยู่ภายใต้การกำกับของดีเอสไอ ส่วนจะไปรับทราบข้อกล่าวหาตามหมายเรียกหรือไม่นั้น ไปก็ได้ หรือไม่ไปก็ได้ ถ้าแน่จริงก็สอยมา ไปขอหมายศาลที่ไหนออกหมายจับ ถ้าแน่จริงก็สอยมา ให้เสนอ กกต.ชุดใหญ่ ไม่ใช่ใช้อำนาจอนุ กกต. มาเรียกพวกตนสว.สำรองยกทีมให้กำลังใจดีเอสไอช่วงสายที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว อดีตผู้ช่วย ผบ.ตร. แกนนำกลุ่ม สว.สำรอง นำคณะ สว.สำรอง มอบช่อดอกไม้เป็นกำลังใจให้เจ้าหน้าที่ดีเอสไอทุกคน ที่ปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นธรรม ทำงานเต็มที่และรวดเร็ว เพื่อทำความจริงในคดีฮั้ว สว.ให้ปรากฏ ฟื้นศรัทธาประชาชนในกระบวนการยุติธรรม ทำให้ดีเอสไอได้รับแรงกดดันจากฝ่ายตรงข้าม และยังมีกระบวนการดิสเครดิต ไม่ให้ความร่วมมือในการสอบพยานทุกรูปแบบ มีนายยู่สิน จินตภากร ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงยุติธรรม และ พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีคุ้มครองผู้บริโภค โฆษกดีเอสไอ เป็นผู้แทนรับมอบช่อดอกไม้ พล.ต.ท.คำรบกล่าวว่า ไว้ใจในการสืบสวนไต่สวนของดีเอสไอ เพราะที่ผ่านมา กกต.อาจมีข้อจำกัดในการแสวงหาข้อเท็จจริง แต่เมื่อดีเอสไอมาร่วมด้วย จะมีข้อเท็จจริงนำมาใช้คลี่คลายประเด็นให้ชัดเจนมากขึ้น โดยเฉพาะมีการออกหนังสือเรียก 55 สว. เข้ารับทราบข้อกล่าวหา ยืนยันว่าเรามีความเชื่อมั่นในคณะอนุกรรมการสืบสวนและไต่สวนชุดนี้ ขอบคุณและอยากให้กำลังใจฝ่าฟันอุปสรรคไปให้ได้“บิ๊กเกรียง” ยันไปพบ กกต.ตามหมายพล.อ.เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา กล่าวถึงกรณีได้รับหมายเรียกจาก กกต.ให้ไปรับทราบข้อกล่าวหาคดีฮั้วเลือก สว. วันที่ 19 พ.ค.ว่า ยืนยันจะไปรับทราบข้อกล่าวหาในวันดังกล่าว พร้อมต่อสู้ตามข้อเท็จจริงไม่กังวลใจ ส่วนที่ น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. เรียกร้องให้ สว.ที่ถูกหมายเรียกแสดงสปิริตหยุดปฏิบัติหน้าที่ชั่วคราวนั้น ความเห็นส่วนตัวเป็นกฎหมายหรือไม่ ขอให้ทุกอย่างเป็นไปตามกฎหมาย การตั้งข้อกล่าวหาสัญญาว่าจะให้นั้น รู้มาจากไหน หนังสือเอกสารลับออกมาได้อย่างไร ใครนำไปเปิดเผย มั่นใจว่าไม่ได้ทำผิด ผู้สื่อข่าวถามว่ากังวลใจกับภาพลักษณ์ สว.หรือไม่ พล.อ.เกรียงไกรตอบว่า ไม่กังวลใจ ใครเป็นคนสร้างภาพลักษณ์ ต้องถามสื่อ เมื่อถามว่ามองว่าเป็นประเด็นการเมืองหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกรตอบว่า ไม่ทราบ เมื่อถูกถามว่าเป็นการล้าง สว.สีน้ำเงินหรือไม่ พล.อ.เกรียงไกรไม่ตอบ และรีบเดินออกจากวงสัมภาษณ์ไป“พีระพันธุ์”จ่อชิ่งรับทราบข้อหา ป.ป.ช.ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ส่งหนังสือเรียกนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.พลังงาน เข้ารับทราบข้อกล่าวหาผิดจริยธรรม ในวันที่ 15 พ.ค.นี้ กรณีนำชื่อและรูปตัวเองไปติดไว้ที่หน้าถุงยังชีพช่วยเหลือน้ำท่วมของภาคเอกชน รวมถึงนำข้าวสารของตัวเองมาบรรจุเพิ่มลงถุงยังชีพนั้น มีรายงานว่านายพีระพันธุ์อาจไม่เดินทางไปรับทราบข้อกล่าวหาต่อป.ป.ช.ในวันดังกล่าว เพราะติดภารกิจเดินทางไปเยือนประเทศลาว ระหว่างวันที่ 14-15 พ.ค. เพื่อหารือประเด็นความร่วมมือด้านพลังงาน และการจัดซื้อไฟฟ้าจากลาว โดยมีนายหิมาลัย ผิวพรรณ ที่ปรึกษาส่วนตัวนายพีระพันธุ์ เป็นผู้ดำเนินการประสานงานในครั้งนี้“บิ๊ก ตร.”โร่ขอความเป็นธรรมอีกคนที่กระทรวงสาธารณสุข นายสุรินทร์ สู่สวัสดิ์ ทนายความผู้ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.โสภณรัชต์ สิงหจารุ ผช.ผบ.ตร. (อดีตนายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ) เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมต่อนายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กรณีผลการลงมติของแพทยสภา นายสุรินทร์กล่าวว่า ได้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.โสภณรัชต์ ที่รู้สึกขัดข้องใจเนื่องจากปรากฏชื่อว่าถูกลงโทษ ทั้งที่เป็นผู้บริหาร ไม่ได้เป็นแพทย์ผู้รักษา และไม่เคยกล่าวว่านายทักษิณ ชินวัตร เป็นผู้ป่วยอยู่ในภาวะวิกฤติ ขณะนี้ยังไม่ได้รับหนังสือการลงมติจากแพทยสภา ที่มายื่นหนังสือร้องเรียนเพราะกรณีดังกล่าวมีผู้ถูกกล่าวหา 4 คน เป็นแพทย์จาก รพ.ราชทัณฑ์ 2 คน จาก รพ.ตำรวจ 2 คน จึงเป็นคนอื่นไปไม่ได้ และต้องร้องเรียนก่อน รมว.สาธารณสุขจะมีคำวินิจฉัย ทั้งนี้ หากถูกลงโทษจริงจะฟ้องศาลปกครองต่อไป นายธนกฤตกล่าวว่า จากการพูดคุย พล.ต.ท.โสภณรัชต์รู้สึกไม่สบายใจและขัดข้องใจ การออกร้องเรียนเพื่อปกป้องศักดิ์ศรี“เท้ง” ชี้พฤติกรรมชัด “กฤษฎิ์” แอบดีลที่ อ.กระนวน จ.ขอนแก่น นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) ลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจผู้นำฝ่ายค้าน ในการดูงานรับฟังปัญหาเกษตรกรโคนม ทั้งนี้ นายณัฐพงษ์ทดลองรีดนมวัวด้วย เมื่อรีดเสร็จแล้ว ผู้สื่อข่าวแซวว่ารีดนมวัวกับพิษงูอันไหนยากกว่ากัน นายณัฐพงษ์ถึงกับหัวเราะแรงก่อนตอบว่า รีดนมวัวน่าจะยากกว่าพิษงู ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่าเพราะดองไว้แล้ว เลี้ยงวัวดีกว่าเลี้ยงงูใช่หรือไม่ นายณัฐพงษ์ได้แต่ยิ้มและตอบว่าคนละวัตถุประสงค์ เมื่อถามถึงคลิปหลุดขณะพูดคุยกับ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรค ปชน. นายณัฐพงษ์ตอบว่า เป็นบทสนทนาของตนและ น.ส.กฤษฎิ์จริง ไม่ทราบว่าใครแอบอัด ไม่กังวล เพราะในเนื้อหาคลิปตนและพรรคไม่เสียหาย ไม่แน่ใจคนปล่อยทำไปเพื่ออะไร สิ่งที่อยากตั้งคำถามมากกว่าคือพรรคกล้าธรรม และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ว่าการได้ สส.เพิ่มด้วยวิธีการดูด สส.พรรคอื่นเข้าไป เป็นวิธีการที่สวยงาม ถูกต้องหรือไม่ หรือต้องใช้วิธีการนี้ เนื่องจากต้องการจำนวน สส.ไปต่อรองเก้าอี้รัฐมนตรีมากขึ้นหรือไม่ให้ทีมกฎหมายร่างหนังสือตีความผู้สื่อข่าวถามถึงกรณีนายไผ่ ลิกค์ สส.กำแพง เพชร พรรคกล้าธรรม เตรียมยื่นร้องจริยธรรมนายยอดชาย พึ่งพร สส.ชลบุรี พรรค ปชน. ที่เปิดเผยเคยถูกเสนอเงิน 55 ล้านบาท ซื้อตัวเป็นงูเห่า นายณัฐพงษ์ตอบว่า เชื่อในบริสุทธิ์ใจของนายยอดชาย เชื่อว่าการให้การของเขาเป็นเรื่องจริง หากจะมีการดำเนินการใดๆ เชื่อว่านายยอดชายจะเข้าไปชี้แจง ส่วนการยื่นตีความหนังสือขอยุติบทบาทกับพรรคปชน.ของ น.ส.กฤษฎิ์ ให้ทีมกฎหมายเตรียมร่างหนังสือถึง กกต.เรียบร้อยแล้ว ขั้นตอนต่อไปต้องรอ กกต.ตอบ หากตีความว่าไม่ได้เป็นหนังสือลาออก จะดำเนินการยื่นร้องต่อหน่วยงานอื่นต่อไป และที่ ร.อ.ธรรมนัส ระบุจะมี สส.จากพรรค ปชน.ย้ายไปอีกนั้น หากมั่นใจในข้อมูลเปิดชื่อออกมาได้เลย พฤติกรรม น.ส.กฤษฎิ์ ไม่ว่าจะเป็นการแอบอัดคลิป การพยายามยืนยันกำหนดวันแถลงข่าวที่ผ่านมา เป็นเหตุที่เราเชื่อได้ว่ามีการตกลงกันมาแล้วก่อนหน้านี้กับพรรคกล้าธรรม กระบวนการคัดสรรใดๆไม่สามารถคัดได้ 100% เพราะเรื่องที่ยากที่สุดคือใจคน แต่เป็นโจทย์ที่พรรคต้องมาออกแบบกระบวนการอีกทีเปิดตัว “อนุดิษฐ์-การุณ” สัปดาห์หน้านายไผ่ ลิกค์ เลขาธิการพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวถึงกระแสข่าว น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ อดีตรองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย และนายการุณ โหสกุล อดีต สส.กทม. จะมาร่วมงานกับพรรคกล้าธรรมว่า คุยกันมาตลอด สนิทเป็นพี่เป็นน้องกัน เรายินดี ขั้นตอนต่อไปทั้ง 2 คน จะคุยกับ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า และนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค กธ. ตอนนี้พรรค กธ.ดูไปถึงการเลือกตั้งปี 2570 แล้ว เบื้องต้น น.อ.อนุดิษฐ์จะมาดูนโยบายพรรค ที่ ร.อ.ธรรมนัสเน้นย้ำพบง่าย ใช้คล่อง เข้าถึงใจถึงพึ่งได้ หลังการเลือกตั้งซ่อมสส.นครศรีธรรมราช ต้องบอกว่ามีผู้ที่ติดต่อเข้ามาเยอะมาก ทั้ง สส.ปัจจุบัน และอดีต สส. ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เบื้องต้นพรรค กธ.จะมีการเปิดตัว น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ ร่วมพรรค กธ.สัปดาห์หน้าขณะที่นายการุณโพสต์ภาพขณะออกกำลังกายลงเฟซบุ๊ก ระบุว่า “ข่าวย้ายพรรคหนาหู รอสักครู่หนูจะบอก ออกกำลังกายแพรบ # ขอเพียงรู้จักแล้วจะรักการุณ”“ธรรมนัส” ปัดจ่ายเงินซื้องูเห่าที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรค กธ.ให้สัมภาษณ์ว่า ไม่เคยอ้อมค้อม น.อ.อนุดิษฐ์ และนายการุณ มาพบและพูดคุยกับตนและนางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรค กธ.แล้ว ศรัทธาในตัว น.อ.อนุดิษฐ์อยู่แล้ว ส่วนนายการุณถือว่าเป็นน้องรัก ถ้าถามว่าทั้ง 2 คน จะมาร่วมอุดมการณ์กับพรรค กธ. หรือไม่ ไม่ปฏิเสธ นัดคุยกันอีกครั้งวันศุกร์นี้ และไม่ได้โม้จะมีอีกหลายคนมาร่วม แต่ยืนยันว่าไม่เคยใช้ตัวเลขทางคณิตศาสตร์มาต่อรองตำแหน่ง พวกตนพอใจที่รับผิดชอบดูแลกระทรวงเกษตรฯ ไม่คิดจะต่อรอง ปัจจุบันพรรคมีจำนวน สส.อย่างเป็นทางการ 26 คน จะมีแบบที่ไม่เป็นทางการมาเพิ่มเรื่อยๆ ไม่เคยไปเสนอทรัพย์สินให้ใคร คนที่ออกมาพูดถือว่าโง่จะมีความผิดด้วย วาทกรรม “งูเห่า” ควรเลิกพูดไปได้แล้ว กระแสข่าวบางพรรคให้เงิน 55 ล้าน เพื่อดูด สส.นั้น ตรรกะแบบนี้คิดง่ายๆ ไม่ต้องไปคิดมาก เหลือเวลาอีกแค่ปีกว่า คนโง่ที่ไหนจะไปเสียเงินแบบนั้น ไม่มีหรอก การทำแบบนั้นคือการเมืองระบบเก่า และระวังจะไปติดคุกที่พะเยา“พิชัย” รับทบทวนเงินหมื่นเฟส 3เวลา 13.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.คลัง กล่าวถึงการนัดประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจ เพื่อทบทวนนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งหมด ว่า อยู่ระหว่างรวบรวมข้อมูล มีหลายเรื่องต้องทบทวน โดยเฉพาะหลังเกิดกรณีภาษีสหรัฐฯ ช่วงนี้ต้องทบทวนมาตรการว่าเรื่องไหนควรทําก่อน กําลังทำการบ้านอยู่ วันที่ 15 พ.ค. จะพบธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศ ไทย ที่ธนาคารออมสิน เพื่อมอบนโยบายว่าให้เตรียมอะไร และทำอะไรรองรับกลุ่มผู้ส่งออก เมื่อถามว่าโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 จะมีการปรับเปลี่ยนอะไรหรือไม่ นายพิชัยตอบว่า ขอทบทวนก่อน ประเทศไทยต้องการการวางแผนที่ดีในระยะกลางและระยะยาว ส่วนต้องใช้งบเท่าไหร่ จะกู้หรือไม่ จะจ่ายหรือไม่ ต้องทบทวนอีกทีแบไต๋ 5 ข้อเสนอเจรจาภาษีสหรัฐฯนายพิชัยยังกล่าวถึงความคืบหน้าการเจรจาเรื่องกำแพงภาษีกับสหรัฐอเมริกาว่า ประเทศไทยยื่นข้อเสนอให้สหรัฐฯ ผ่านนายพิชัย นริพทะพันธุ์ รมว.พาณิชย์ ถึงนายเจมสัน กรีเออร์ ประธานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) ตั้งแต่วันที่ 8 พ.ค. เนื้อหาเสนอกรอบการหารือที่ผ่านการพิจารณาจากคณะทำงานนโยบายการค้า และผ่านความเห็นชอบจากนายกฯ ประกอบไปด้วยการเจรจา 5 เสาหลัก ได้แก่ 1.ความร่วมมือเพื่อนำไปสู่การเป็นหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจ ไทย-สหรัฐฯ โดยเฉพาะอุตสาหกรรมแปรรูป อุตสาหกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล และการลดอุปสรรคทางการค้า ทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี 2.เพิ่มการนำเข้าสินค้าจากสหรัฐฯ โดยเฉพาะสินค้าพลังงาน สินค้าเกษตร และเครื่องบิน ส่วนประกอบและอุปกรณ์บริการ 3.การเปิดตลาดสาขาเกษตรของไทย อาทิ ผลไม้ ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 4.การบังคับใช้กฎหมายป้องกันการแอบอ้างถิ่นกำเนิดสินค้า และ 5.ส่งเสริมการลงทุนในสหรัฐฯมากขึ้นรมว.คลังสหรัฐฯแสดงท่าทีเป็นบวกนายพิชัยกล่าวว่า ล่าสุดนายสก็อตต์ เบสเซนต์ รมว.คลังสหรัฐฯ แสดงท่าทีเป็นบวกต่อข้อเสนอของไทย พูดถึงประเทศไทยที่เวที Saudi Arabia Investment Forum เมื่อวันที่ 13 พ.ค. แบบเดียวกับที่พูดถึงข้อเสนอของอินโดนีเซีย และไต้หวันถือเป็นสัญญาณบวกจากระดับนโยบายของสหรัฐฯ คาดว่าจะมอบหมายให้เจ้าหน้าที่ในระดับผู้ปฏิบัติ (working level) ให้พิจารณาในรายละเอียดต่อไป อาจต้องใช้เวลาดำเนินการต่อไป จะนำไปสู่ความร่วมมือทางเศรษฐกิจอย่างสร้างสรรค์ต่อไป เรามีการพูดคุยกันเป็นระยะในระดับผู้ปฏิบัติงาน ข้อเสนอของเราอยากเรียกว่าเป็นข้อเสนอที่ทั้งสองฝ่ายยอมรับได้ แม้เราจะมีการนำเข้ามากขึ้น แต่ก็คิดถึงการส่งออกมากขึ้นด้วย และเมื่อเรานำเข้ามากขึ้น การส่งออกก็มากขึ้นด้วย โดยเฉพาะในสหรัฐฯมีความต้องการสินค้าของเราอยู่ และทำอย่างไรไม่ให้ผู้ผลิตในไทยได้รับผลกระทบ ยืนยันของที่นเข้าต้องเป็นของที่ไทยได้ประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ และส่งผลดีต่อต้นทุนผลิตสินค้าแปรรูปของไทยเพื่อที่จะนำไปส่งออกหวังอีกไม่นานจะได้คิวไปพูดคุยผู้สื่อข่าวถามว่า จะมีการพูดคุยกับสหรัฐฯภายในเดือน พ.ค.นี้หรือไม่ นายพิชัยตอบว่า จากที่เห็นวิธีการเขาพยายามตกลงกับประเทศใหญ่ๆก่อน เพราะมีเงื่อนไขเยอะ เราพอเดาได้ว่าอาจใช้เป็นแนวทางเดียวกัน ส่วนของเราสิ่งที่เป็นประเด็นอยู่มีมาก เพราะในส่วนที่เราโฟกัสเข้าไปเรื่องของการนำเข้าสินค้าเกษตรที่เขาต้องการส่งออก ก็ตรงกัน ส่วนจะคุยเมื่อไหร่ เชื่อว่าในระดับเจ้าหน้าที่ทราบแล้ว ถ้าคุยแล้วนอกเหนือจากนี้เป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่เชื่อว่าเขาคงรอเวลา เมื่อถามถึงการพูดคุยในระดับรัฐมนตรี นายพิชัยตอบว่า ดูจากที่ รมว.คลังสหรัฐฯเดินทางไปประเทศต่างๆเยอะ ถ้ามีจังหวะดีๆ ท่านคงจัดคิวดูว่าใครจะอยู่ในกลุ่มที่จะเข้าไป หวังว่าจะเกิดขึ้นในเร็ววัน เพราะในระยะเวลา 90 วันที่ให้ไว้ขณะนี้ผ่านมาเกือบ 2 เดือนแล้ว เมื่อถามถึงการลงทุนในสหรัฐฯ เป็นสินค้าประเภทไหน นายพิชัยตอบว่า มี 2 ลักษณะ คือ 1.เรามีขีดความสามารถที่จะดำเนินการ อย่างกระบวนการผลิตและบริการในส่วนของรถยนต์ และ 2.สิ่งที่เรามีความชำนาญ และต้องการนำเข้า ต้องดูว่านอกจากนำเข้าแล้วเราไปลงทุนร่วมได้หรือไม่ฝันมองเห็นตัวเลข 10% เป็นขั้นต่ำเมื่อถามว่าขณะนี้ภาษีจีนอยู่ที่ 30% แต่ของไทยอยู่ที่ 36% กังวลเรื่องนี้หรือไม่ นายพิชัยตอบว่า เมื่อลดการขาดดุลได้ คิดว่าตัวเลขไม่น่าจะอยู่ตรงนี้ เมื่อถามว่าคาดการณ์ตัวเลขภาษีจะอยู่ที่เท่าไหร่ นายพิชัยตอบว่า ทุกคนได้แต่คาดเดาว่าสหรัฐฯต้องการตัวเลขภาษีเพิ่มขึ้น และมองเห็นตัวเลข 10% น่าจะใช้ขั้นต่ำเท่านี้ ในส่วนของเราสิ่งที่เกี่ยวข้องจริงๆ คือ สินค้าเกี่ยวกับยานยนต์ เชื่อว่าคงได้ใกล้เคียงกับประเทศอื่น เพราะไม่เห็นประเด็นที่เราแตกต่างกับคนอื่น เมื่อถามย้ำว่าคาดหวังที่ 10% ใช่หรือไม่ นายพิชัยตอบว่า คิดว่าเกือบทุกชนิดสหรัฐฯคงคิดว่า น่าจะยืนอยู่ในระดับ 10% เมื่อถามว่ารัฐบาลมองว่าการทำงานในครั้งนี้ล่าช้าไปหรือไม่ นายพิชัยตอบว่า เราเป็นประเทศคู่ค้าที่ไม่ได้อยู่ในเทียร์ 1 เราอยากฟังว่าเขาคุยอะไรกับประเทศใหญ่ๆ การคุยในจังหวะที่เหมาะสมน่าจะดีที่สุด คิดว่าไม่ช้า มองทางนั้นคงอยากเห็นทุกอย่างจบในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อถามถึงกรณีคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติแต่งตั้งให้ไปรักษาการแทน รมว.การต่างประเทศ เกี่ยวข้องกับการที่สหรัฐฯแบนวีซ่าเจ้าหน้าที่ไทย กรณีการส่งตัวชาวอุยกูร์กลับจีนหรือไม่ นายพิชัยตอบว่า ไม่ใช่ เป็นขั้นตอนปกติ ถ้ารัฐมนตรีคนไหนไม่อยู่จะมีรัฐมนตรีรักษาการโดยอัตโนมัติ“อิ๊งค์” ขอสวมบทแม่ค้าขายผลไม้ช่วงบ่าย น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ โพสต์คลิปวิดีโอลง TikTok ขณะนั่งอยู่บนตึกไทยคู่ฟ้า บนโต๊ะมีผลไม้ มังคุด ทุเรียนหมอนทอง เงาะ และมะม่วงสุกปลอกพร้อมรับประทาน พร้อมกล่าวเชิญชวนอุดหนุนผลไม้ไทยว่า “เป็นคลิปแรกที่อยากมาขายของ เป็นแม่ค้า 1 วัน ผลไม้ไทยมีเยอะมากที่อร่อยๆ เชิญชวนทุกคนทานผลไม้ไทย ประมาณ 2 ปีที่แล้วข้าวเหนียวมะม่วงดังไปทั่วโลก อยากบอกว่ามะม่วงของเราอร่อยจริงๆ ไปเจอที่เมืองนอกแพงด้วย แต่ที่เมืองไทยราคาดีมาก มาอุดหนุนผลไม้ไทยกัน อร่อยด้วยราคาดีด้วย” นายกฯยังโพสต์ภาพและข้อความลงเฟซบุ๊กและทวีตผ่าน X ระบุว่า “หน้าผลไม้แล้ว ปีนี้ผลไม้ไทยผลผลิตเพิ่มขึ้นประมาณ 15% จากสภาพอากาศที่เอื้ออำนวยในช่วงติดดอก เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะช่วยกันส่งเสริมผลไม้ไทย ให้เข้าถึงผู้บริโภคมากขึ้น ปีนี้รัฐบาลเตรียมจัดกิจกรรม Thai Fruits Festival กระตุ้นการบริโภคภายในประเทศ ผ่านกิจกรรมสร้างสรรค์หลายอย่าง เช่น การประกวดเมนูอาหารจากผลไม้ ช่องทางการขายออนไลน์ การนำผลไม้ไทยไปใช้ในกิจกรรมเพื่อสังคม รวมถึงการสนับสนุนการแปรรูปอย่างมีคุณภาพ ในต่างประเทศ เราก็เร่งเจรจา FTA ผลักดันการส่งออก พร้อมนำผลไม้ไทยไปร่วมงานแสดงสินค้านานาชาติ ขยายตลาดและสร้างโอกาสให้เกษตรกร ผลไม้ไทยมีคุณภาพดี มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ และมีศักยภาพที่จะเติบโตได้อีกมาก หากเราได้ร่วมมือกันสนับสนุน ขอเชิญชวนทุกท่านนะคะ ร่วมกันอุดหนุนผลไม้ไทยในฤดูกาลนี้ เป็นอีกหนึ่งวิธีง่ายๆที่เราทุกคนสามารถช่วยกันสนับสนุนเกษตรกรไทยได้ค่ะ”“บิ๊กฉางอาน” ขอบคุณที่หนุนลงทุนจากนั้นเวลา 15.00 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ให้การต้อนรับนายจู ฮวาหรง ประธานบริษัท ฉางอาน ออโต้โมบิล เข้าเยี่ยมคารวะ มีนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) เข้าร่วม น.ส.แพทองธารกล่าวว่า ขอแสดงความยินดีต่อการเปิดโรงงานและสายการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่จะจัดขึ้นในวันที่ 16 พ.ค. ที่ จ.ระยอง ถือเป็นโรงงานผลิตรถยนต์ไฟฟ้าแบบพวงมาลัยขวาแห่งแรกนอกประเทศจีน ขอบคุณบริษัทฉางอานฯที่เชื่อมั่นมาลงทุนในประเทศไทย มั่นใจว่าการลงทุนของบริษัทในครั้งนี้จะสนับสนุนบทบาทของไทยในห่วงโซ่อุปทานยานยนต์พลังงานใหม่ในระดับโลกได้อย่างมั่นคง ด้านนายจูกล่าวว่ายินดีอย่างยิ่งที่ได้พบหารือกับนายกฯประเทศไทยเป็นประเทศที่มีความปลอดภัยสูงและเหมาะสมต่อการลงทุน ขอขอบคุณรัฐบาลไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะ BOI ที่ให้การดูแลและสนับสนุนการลงทุนของบริษัทด้วยดีตลอดมาอ้อมแอ้มทบทวนเงินหมื่นเฟส 3กระทั่งเวลา 16.15 น. น.ส.แพทองธาร ชินวัตร ให้สัมภาษณ์อีกครั้งถึงการเรียกประชุมคณะกรรมการนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจจะเป็นเมื่อไหร่ว่า ประชุมอยู่แล้วเรื่อยๆ เมื่อถามว่าจะทบทวนแผนกระตุ้นเศรษฐกิจหรือไม่ นายกฯตอบว่า “ใช่ค่ะ มีหลายเรื่องและบางเรื่องมีการปรับไปแล้วด้วย” เมื่อถามถึงความชัดเจนเรื่องแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ตเฟส 3 น.ส.แพทองธารตอบว่า อันนี้ก็ต้องเอามาทบทวนด้วยอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่