ด้อมส้มรุมประณาม “กฤษฎิ์” แถลงแตกหักพรรคประชาชน ท้าให้ขับออกจะไปอยู่กล้าธรรม ยันไม่ลาออกให้เปลืองงบเลือกตั้งซ่อม โต้รับเงิน 55 ล้านมีติดตัวบาทเดียว “ณัฐพงษ์” เชื่อไม่โดนดูดเพิ่ม ฉะไปดีลมาแล้วถึงไขก๊อก งัดไม้เด็ด “ดองงูเห่า” “ปกรณ์วุฒิ” จับโป๊ะอัดงบฯ ลงพื้นที่ตลอด ไม่เคยปิดกั้น “นฤมล” หน้าบานมีจ่อซบ กธ.อีกนับสิบ “เสี่ยเฮ้ง” บอกย้ายพรรคให้รอดูวันข้างหน้า “อิ๊งค์” ย้อนสื่อชั้น 14 แบ่งชนชั้น หรือ ทุกขั้นตอนจบก่อนมาเป็นนายกฯ ยันคำเดิม “ทักษิณ” ป่วยจริง ลั่นสถานการณ์ยังไม่เกินมือ โอดเสียโอกาส “พ่อ” อดคุย “ทรัมป์” “นายแพทย์ใหญ่ รพ.ตร.” ส่งทนายร้อง “สมศักดิ์” ทบทวนมติแพทยสภา ดีเอสไอเผยสอบคดีฮั้ว สว.แล้ว 70 ราย สิ้น พ.ค.ได้เห็นรายชื่อผู้ต้องหากลุ่มฟอกเงินน.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน นัดสื่อแถลงเหตุแตกหักแยกทางพรรคส้ม ท้าทายให้ขับออก เจอดัดหลัง นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. ประกาศใช้มาตรการ “ดองงูเห่า” ไม่ขับพ้นพรรค พร้อมเล่นงานจริยธรรม ส่งตีความต้องพ้นสภาพ สส.หรือไม่“กฤษฎิ์” โดนด้อมส้มรุมประณามเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 13 พ.ค. ที่รัฐสภา ก่อนการแถลงข่าวของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรคประชาชน (ปชน.) ที่นัดสื่อแถลงข่าวเหตุผลการแยกทางกับพรรค ปชน. เพื่อย้ายอยู่พรรคกล้าธรรม ปรากฏเกิดเหตุวุ่นวายในห้องแถลงข่าว เมื่อนายปารมี ไวจงเจริญ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคปชน. พร้อมกลุ่มด้อมส้ม ที่มาร่วมสังเกตการณ์แถลงข่าว ทันทีที่เห็น น.ส.กฤษฎิ์ได้เข้าไปรุมต่อว่าอย่างหนัก อาทิ “คนเลือกคุณมาในนามพรรคตามนโยบายพรรค ไม่ใช่ที่ชุบตัวเพื่อประโยชน์ส่วนตน หน้าไม่อาย” “สส.ขายตัวไม่มีศักดิ์ศรี” มีช่วงหนึ่งด้อมส้มยืนประจันหน้ากับ น.ส.กฤษฎิ์ที่ยืนอยู่บนโพเดียม ก่อนจะต่อว่าอีกชุดใหญ่ ถ้าจะขายตัวเป็นงูเห่า เงิน 55 ล้าน ต้องนำมาให้ประชาชนที่ลำบาก ทำให้ น.ส.กฤษฎิ์ตอบโต้กลับว่า “ตอนนี้มีอยู่บาทเดียวในตัว” จนเกิดความชุลมุน เจ้าหน้าที่ตำรวจสภาต้องเข้ามาควบคุม และขอความร่วมมือให้อยู่ในความสงบแตกหักขอให้พรรค ปชน.ขับออกจากนั้น น.ส.กฤษฎิ์แถลงว่า เหตุที่ไม่สามารถทำงานกับพรรคเดิมได้ เพราะอุดมการณ์และแนวทางต่างกัน กล้าพูดว่าขอให้พรรคขับออก เพราะได้ยื่นหนังสือให้พรรคตั้งแต่เดือน เม.ย.ที่ผ่านมา สาเหตุเนื่องจากพรรคมีเป้าหมายเน้นสร้างพรรค ไม่ได้เน้นสร้างคน เรื่องที่พรรคสนใจแก้ปัญหาเป็นประเด็นการสร้างกระแส สร้างความนิยมให้พรรคเป็นหลัก ไม่มุ่งเน้นผลประโยชน์ประชาชน เป้าหมายสำคัญของ สส.เขต คือแก้ปัญหาในพื้นที่ ผลักดันเรื่องที่เป็นปัญหาในพื้นที่เข้าสู่พรรค แต่ไม่เคยได้รับการสนับสนุนอย่างที่ควร จึงไม่สามารถร่วมงานได้ มีการพูดไม่ให้เกียรติ ไม่เคารพสถานะทางเพศ ปล่อยข่าวว่าเป็นงูเห่าไม่ลาออกให้เปลืองงบเลือกซ่อมผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างที่ น.ส.กฤษฎิ์แถลงข่าว มีประชาชนที่มาร่วมรับฟังตะโกนแทรกว่า “แน่จริงก็ลาออก ลองลงสมัครเลือกตั้ง ไม่สังกัดพรรคที่คุณอยู่ พรรคประชาชนไม่ใช่ที่จะให้คุณมาชุบตัว คุณเป็นงูเห่า” ทำให้ น.ส.กฤษฎิ์ตอบกลับไปว่า ขอให้อยู่ในความสงบ ค่อยคุยกัน ถ้าไม่มีอะไรอย่าส่งเสียง ก่อนกล่าวว่าเป้าหมายการทำงานตั้งแต่วันแรกถึงวันนี้ไม่เคยเปลี่ยนแปลง ส่วนเหตุที่ไม่ลาออกเพราะทำให้สิ้นเปลืองงบประมาณเลือกตั้งใหม่ หรือต้องทำเพื่อความสะใจ ให้เท่ แต่ไร้สาระ ต้องการทำหน้าที่ สส.ประชาชนในพื้นที่ไม่มีปัญหากับตน ส่วนประเด็นแตกหัก เพราะมีเรื่องร้องเรียนที่ส่งให้พรรค แต่ไม่ได้รับการแก้ปัญหา โดยเฉพาะการสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง ทำให้เพื่อน สส.จำนวนมากไม่พอใจสิ่งที่ตนหารือ จึงไม่คุยด้วย ยังมีอีกหลายเรื่องที่ไม่อยากอธิบายคุยไม่เคยใช้เงินพรรคมาทำกิจกรรมน.ส.กฤษฎิ์กล่าวอีกว่า ที่บอกว่าเข้ามากอบโกยนั้น ถามว่ากอบโกยอะไร จ.ชลบุรี มีใครทุ่มกำลังทรัพย์ตั้งสำนักงานให้ประชาชนขี่มอเตอร์ไซค์มาพบปะได้สะดวก ให้เด็กๆได้เรียนคณิตศาสตร์-ภาษาอังกฤษช่วงปิดเทอม เงินภาษีประชาชนที่โอนให้พรรคไม่เคยได้ใช้สักบาท ไม่เคยตัดเงินจากพรรคมาทำกิจกรรมในพื้นที่ เคยคิดพรรคจะเป็นความหวังเปลี่ยนแปลงประเทศ แต่เข้ามาแล้วผลักดันอะไรไม่ได้ ความผิดหวังมีอยู่ในใจมากมาย จึงทำหนังสือยุติบทบาทกับพรรคหลังจากนั้นพรรคเรียกไปคุยว่าจะแก้ไขเรื่องต่างๆ จึงบอกว่าการแก้ไขไม่ได้ช่วยอะไร ขอให้พรรคขับออก จะได้ไปทำประโยชน์ให้ชาวศรีราชาอย่างที่ตั้งใจไล่ไปถามคนปูดได้เงินอัดฉีด 55 ล.น.ส.กฤษฎิ์กล่าวต่อว่า การเลือกพรรคกล้าธรรมเป็นสังกัดใหม่ เพราะได้ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า สส.พะเยา ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม มาช่วยแก้ปัญหาในพื้นที่ตลอด วันนี้จะไปขอใบสมัครพรรคกล้าธรรม รอการขับออกจากพรรค ปชน. ส่วนกระแสข่าวเสนอเงิน 55 ล้านบาท เงินเดือน 2.5 แสนบาท และรถตู้หรูอีกคัน ให้ไปถามคนที่พูด ส่วนการตัดสินใจครั้งนี้จะเป็นการจบชีวิตทางการเมืองหรือไม่นั้น ความจริงตั้งใจจะลาออก แต่เมื่อดูสถานการณ์หลายอย่าง ไม่รู้จะยุบสภาใน 1-2 วันนี้หรือไม่ ไม่รู้ว่าจะลาออกให้เสียงบเลือกตั้งใหม่ทำไม ส่วนการเลือกตั้งสมัยหน้าเอาไว้ว่ากัน ผู้สื่อข่าวถามว่าการขอใบสมัครพรรคกล้าธรรม ได้ปรึกษา กกต.หรือไม่ น.ส.กฤษฎิ์ตอบสั้นๆว่า “ขอเอาไว้เฉยๆ“ หลังจากน.ส.กฤษฎิ์แถลงข่าวเสร็จ ได้เดินออกทางประตูด้านข้าง หลีกเลี่ยงด้อมส้ม ทำให้ด้อมส้มโมโหรีบวิ่งไปดักบริเวณทางออก แต่ไม่พบตัว น.ส.กฤษฎิ์ จึงต่อว่าอย่างหนักว่า “หนีทำไม หน้าด้าน” ขณะที่ด้อมส้มรายหนึ่งยกมือขึ้นพนมพร้อมกล่าวสาปแช่ง“ณัฐพงษ์” โต้ยิบเชื่อไม่โดนดูดเพิ่มต่อมาเวลา 13.00 น. นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรค ปชน. แถลงว่า เหตุผลที่ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี ระบุไว้ฟังไม่ขึ้น หนังสือที่ยื่นให้ตนและ กก.บห. ตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยพรรค การเมือง ได้แสดงเจตจำนงแล้วว่าต้องการลาออกจากสมาชิกพรรค ปชน. จะยื่นไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องตีความ ว่าถือเป็นหนังสือลาออกจากการเป็นสมาชิกพรรคหรือไม่ ขณะนี้ในทางปฏิบัติไม่ถือว่าน.ส.กฤษฎิ์เป็น สส.ของพรรคอีกต่อไป พรรคเปิดกว้างรับฟังทุกเหตุผล และเปิดกว้างให้กับ น.ส.กฤษฎิ์มากเพียงพอ ให้สาธารณชนประเมินสถานการณ์ที่มีบางพรรคพยายามดึงดูด สส. เพื่อใช้เจรจาต่อรองเก้าอี้หรือไม่ เพราะอาจมีการปรับ ครม.เร็วๆนี้ เมื่อถามว่าจะมี สส.คนอื่นย้ายออกอีกหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า เท่าที่พูดคุยกับคนในพรรค ไม่มีแน่นอน เชื่อมั่นว่าเพื่อน สส.ที่เหลืออยู่ ไม่มีใครย้ายไปอยู่ฝั่งรัฐบาลแน่นอนซัดไปดีลมาแล้วประกาศ “ดองงูเห่า”หัวหน้าพรรค ปชน.กล่าวว่า ยืนยันพรรคเปิดโอกาสและสนับสนุนการทำหน้าที่ของ น.ส.กฤษฎิ์อย่างเต็มที่ ถ้าจะมองว่าอะไรเป็นแรงจูงใจหลักน่าจะเกิดจากมีการไปพูดคุยกับคนในพรรคกล้าธรรมเรียบร้อยแล้ว พูดง่ายๆคือดีลเกิดขึ้นแล้ว ไม่เช่นนั้นคงไม่นัดวันแถลงวันนี้ประกาศตัวชัดเจน ยืนยันจะมีการพิจารณาดำเนินการทางวินัย เช่น การตัดสิทธิพึงมีในฐานะสมาชิกพรรคทุกอย่าง ส่วนการจะขับออกหรือไม่นั้น ทางเลือกที่เหมาะสมก็คือการดองงูเห่าเท่านั้น“ปกรณ์วุฒิ” โต้ให้งบฯลงพื้นที่ตลอดนายปกรณ์วุฒิ อุดมพิพัฒน์สกุล สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปฝ่ายค้าน กล่าวว่า ฝ่ายนโยบายของพรรคเคยอนุมัติงบจากส่วนกลางให้ไปจัดกิจกรรมพื้นที่ อ.ศรีราชา ตามที่ขอ น.ส.กฤษฎิ์ยังได้ตำแหน่งรองประธานคนที่ 1 ใน กมธ.คมนาคม สภาฯ ยืนยันไม่มีการปิดกั้นการทำงาน ไม่มีการเหยียดเพศสภาพ สส.คนใด พรรคเปิดพื้นที่ให้ทำงานด้านความหลากหลายทางเพศ ร่วมอยู่ในทีมสภาความหลากหลายทางเพศเชิงประเด็นของพรรค มีส่วนร่วมผลักดันร่าง พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียม และพรรคเองเคยสนับสนุนงบทำกิจกรรมรวบรวมความเห็นของผู้มีความหลากหลายทางเพศ ในพื้นที่ศรีราชาด้วย ส่วนกรณีการตั้งกระทู้หารือ เรื่องการสร้างอ่างเก็บน้ำบนเกาะสีชัง ไม่ใช่เรื่องความไม่พอใจ แต่เวลาก่อนเปิดประชุมควรสะท้อนปัญหาของส่วนรวม หรือประชาชน ไม่ใช่พูดความต้องการส่วนตัว หรือต้องการที่จะไปไหน แต่พรรคยืนยันว่าสิ่งที่หารือไปไม่ใช่ความผิด ไม่มีการลงโทษทางวินัยใดๆ“นฤมล” หน้าบานจ่อซบ กธ.นับสิบที่ทำเนียบรัฐบาล นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ รมว.เกษตรและสหกรณ์ หัวหน้าพรรคกล้าธรรม (กธ.) กล่าวว่า ยังไม่ทราบเรื่อง น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ สส.ชลบุรี พรรค ปชน. จะย้ายมาสังกัดพรรค กธ. ทราบจาก สส.พรรคมีการประสานกัน แต่ไม่ทราบรายละเอียด เมื่อถามว่าจะมี สส.พรรค ปชน.ตามมาอีกหรือไม่ นางนฤมลตอบว่า ยังไม่ทราบ ถ้าอุดมการณ์ตรงกัน ถ้ามีการประสานงานมาอยากให้แก้ปัญหาประชาชน ไม่ว่าจะฝ่ายรัฐบาลหรือฝ่ายค้าน เรายินดี เมื่อถามว่าตอนนี้พรรค กธ.เนื้อหอม นางนฤมลไม่ได้ตอบคำถาม แต่ยกแขนขึ้นมาดมพร้อมหัวเราะ เมื่อถามว่ามีคนติดต่อมาเรื่อยๆใช่หรือไม่ นางนฤมลตอบว่า มีต่อเนื่อง ค่อยๆคุยไป มีทั้งติดต่อมาเป็นรายคนและเป็นกลุ่ม และน่าจะเกิน 10 คนเป็นไปได้อย่างไรจะทุ่มซื้อ 55 ล้านผู้สื่อข่าวถามว่ามีข้อครหาว่ามีเรื่องผลประโยชน์ นางนฤมลตอบว่า เราไม่ได้ไปชวนหรือไปดูดอะไรทั้งสิ้น เป็นเรื่องการทำงาน เขามาคุยกับ สส.ของเรารู้สึกว่าทำงานไปในแนวทางเดียวกันได้ ถึงค่อยมาคุยระดับผู้บริหาร แต่ขณะนี้ยังไม่ได้คุย เป็นไปได้อย่างไรที่จะมีการใช้เงินซื้อ 55 ล้านบาท เงินเดือนอีก 2.5 แสนบาท ไม่ใช่พรรค กธ.แน่นอน เมื่อถามว่าหากมีจำนวน สส.เพิ่มขึ้น ต้องได้โควตารัฐมนตรีเพิ่มขึ้นหรือไม่ นางนฤมลตอบว่า ไม่เกี่ยวกันเลย เวลาตั้งรัฐบาลตกลงสัดส่วนกันแล้ว ถ้าจะมีการเปลี่ยนแปลงระหว่างทางต้องพูดคุยกันใหม่ทั้งหมด และ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ให้สัมภาษณ์ไปแล้วว่าไม่ใช่ประสงค์ของเราที่จะไปเจรจาต่อรอง เมื่อถามถึงกระแสข่าวนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) จะย้ายมาร่วมงานกับพรรค กธ. นางนฤมลตอบว่า ยังไม่ได้คุยหรือหารืออะไรกัน แต่เราเปิดกว้างสำหรับทุกคนที่อยากทำงานร่วมกัน เมื่อถามว่าก่อนหน้านี้ ร.อ.ธรรมนัสและนายสุชาติ มีปัญหาไม่ลงรอยกัน นางนฤมลตอบว่า “ไม่มีปัญหาอะไรกันหรอก น่าจะเป็นความเข้าใจผิด”“เฮ้ง” ย้ายพรรคให้รอดูวันข้างหน้าด้านนายสุชาติ ชมกลิ่น รมช.พาณิชย์ รองหัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) กล่าวว่า เรื่องการย้ายพรรคของ น.ส.กฤษฎิ์ ชีวะธรรมานนท์ เป็นเอกสิทธิ์ของ สส.อยู่แล้วมีความสุขหรือไม่ เราไม่สามารถไปตัดสินใจแทนได้ ไม่อยากก้าวล่วง เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวว่ามีพรรคร่วมรัฐบาล หรือพรรครวมไทยสร้างชาติ จีบ สส.พรรคประชาชนด้วย นายสุชาติตอบว่า ไม่ได้เป็นคนไปจีบหรือไปเจรจา มีมารยาททางการเมืองพอ ส่วนใครจะร่วมงานกับเราวันข้างหน้า ยินดีต้อนรับทุกคน แต่ขอให้ยึดมั่นในอุดมการณ์เดียวกัน คือ ชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ เมื่อถามว่ามีกระแสข่าวจะย้ายพรรค นายสุชาติตอบว่า วันนี้เรายังอยู่รวมไทยสร้างชาติ แต่วันข้างหน้าไม่สามารถบอกได้ ดูสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไปเรื่อยๆ ย้ายมาทุกพรรคแล้ว ตั้งแต่ปี 54 ก็พรรคหนึ่ง ปี 62 ก็พรรคหนึ่ง ปี 66 ก็อีกพรรคหนึ่ง เราไม่สามารถบอกได้ จะเป็นคำพูดที่มัดตัวเรา“อิ๊งค์” ย้อนสื่อชั้น 14 แบ่งชนชั้นหรือช่วงเช้าที่ตึกบัญชาการ 1 ทำเนียบรัฐบาลก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เดินชมรถโมบายผลไม้ และพบปะผู้ประกอบการรับซื้อผลไม้ เพื่อช่วยเหลือพี่น้องเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้ ยกระดับผลไม้ไทยสู่ตลาดสากล และรับฟังรายงานการบริหารจัดการผลไม้ปี 2568 เช่น ทุเรียน มังคุด ลำไย มะม่วง เงาะ นายกฯกำชับเรื่องการหาตลาดใหม่เพิ่มและการแปรรูปผลไม้ ต่อมา น.ส.แพทองธารให้สัมภาษณ์กรณีแพทยสภามีมติลงโทษแพทย์ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการรักษาตัวนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ ที่ชั้น 14 รพ.ตำรวจ รวมถึงกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เตรียมไต่สวนเรื่องดังกล่าว เป็นการสะท้อนว่าฝ่ายอนุรักษนิยมและชนชั้นนำ ไม่ไว้ใจพยายามล้อมกรอบพรรคเพื่อไทยหรือไม่ โดย น.ส.แพทองธารย้อนถามว่า แบ่งเป็นชนชั้นใช่หรือไม่ ความจริงเรื่องนี้ยังไม่มีข้อยุติ ยังไม่มีแพทยสภาคนใดออกมาพูดว่านายทักษิณป่วยจริงหรือไม่จริง ทุกอย่างเป็นไปตามกระบวนการ แต่จะเป็นชนชั้นอะไรอย่างไรไม่ทราบ ไม่เคยคิดถึงเรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มจนจบก่อนมาเป็นนายกฯผู้สื่อข่าวถามว่าหลังแพทยสภามีมติออกมา มีผลกระทบมาถึงนายทักษิณหรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่มี คุณพ่อเตรียมชี้แจงตามข้อเท็จจริง ส่วนผลกระทบที่มีแพทย์ถูกตักเตือนนั้น ต้องแจงกันต่อไป จะบอกว่าไม่มีผลกระทบคงไม่ใช่ เพราะกระทบมาตลอด กระทบอยู่แล้วตั้งแต่มีการตัดสินว่าติดคุกหรืออะไร มันกระทบตั้งแต่ตอนได้รับคดีนี้ พูดถึงความรู้สึกมันรู้สึกมาตั้งแต่ต้นอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ถามว่าเราทำอะไรได้บ้างดีกว่าสิ่งที่ทำได้คือชี้แจงข้อเท็จจริงตามหลักฐาน และสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อถามว่าประเด็นดังกล่าวถูกหยิบมาโจมตีว่าเป็นการป่วยทิพย์ น.ส.แพทองธารตอบว่า พูดมาตลอดว่านายทักษิณอายุมากแล้ว ป่วยหนักโควิดตั้งแต่ก่อนกลับประเทศ มีประวัติการรักษาอยู่แล้วตั้งแต่ที่ต่างประเทศ เกี่ยวเนื่องกันมา สามารถชี้แจงได้อยู่แล้ว ส่วนที่โจมตีว่าป่วยทิพย์คงไม่สามารถห้ามได้ เรื่องชั้น 14 เริ่มและจบลงก่อนจะมาเป็นนายกฯหลายเดือน พูดไปหลายรอบแล้ว แต่มีหลายฝ่ายพยายามทำให้เข้าใจผิดว่าเราเข้าไปยุ่งกับกระบวนการ ไปแทรกแซง ทั้งที่ไม่มีอำนาจอะไรเลย ชัดเจนด้วยกรอบเวลายืนยันคำเดิม “ทักษิณ” ป่วยจริงเมื่อถามย้ำว่ายังยืนยันว่านายทักษิณป่วยจริงใช่หรือไม่ น.ส.แพทองธารตอบว่า “ใช่ค่ะ ยังยืนยันเหมือนเดิม” เมื่อถามอีกว่าคำแถลงของแพทยสภาเหมือนสวนทาง น.ส.แพทองธารย้อนถามว่า “ท่านป่วยจริงหรือไม่” สื่อจึงตอบว่าไม่ได้ชัดขนาดนั้น ระบุเพียงว่าแพทย์มีความบกพร่องในการทำหน้าที่ น.ส.แพทองธารจึงตอบว่า เขาก็ต้องชี้แจงกันต่อไปลั่นสถานการณ์ยังไม่เกินมือผู้นำน.ส.แพทองธารยังกล่าวถึงกระแสข่าวจะมีการยุบสภาในช่วงสุดสัปดาห์ว่า สอบถามคนในพรรคแล้ว งงกับข่าวที่ออกมาว่าทำไมถึงยุบสภาฯ พร้อมย้อนถามสื่อว่าจะยุบเพราะอะไร สื่อจึงตอบไปว่า พรรคภูมิใจไทยจะคว่ำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ ปี 69 เพราะไม่พอใจคดีฮั้ว สว. น.ส.แพทองธารตอบว่า ไม่มี การทำร่าง พ.ร.บ.งบประมาณฯ เป็นความรับผิดชอบร่วมกันของพรรคร่วมรัฐบาล นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกฯ และรมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ผ่าตาอยู่ ไม่ได้พูดคุยเรื่องนี้ เพียงแต่อวยพรให้หายเร็วๆ เมื่อถามว่ารัฐบาลยังเหนียวแน่นเหมือนเดิม น.ส.แพทองธารตอบว่า เหมือนเดิมไม่มีอะไร เมื่อถามว่าสถานการณ์ที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ และนายเนวิน ชิดชอบ ครูใหญ่ภูมิใจไทย สู้รบกันอยู่ เกินมือนายกฯ จะจัดการปัญหาแล้วหรือไม่ น.ส.แพทองธารหัวเราะก่อนตอบว่า สื่อชอบโยง โยงนั้นโยงนี้ โยงจนบางทีงงว่าบางเรื่องมันเกี่ยวข้องกันจริงหรือไม่ ไม่มีอะไรทั้งสองท่านคุยกันนอกรอบได้อยู่แล้ว เรามีหน้าที่รักษาเสถียรภาพรัฐบาล และจะเกินมือได้อย่างไรในเมื่อเป็นนายกฯ อยู่ มั่นใจอยู่แล้วเรื่องเสถียรภาพรัฐบาล ต้องคุมให้ได้ ถ้ามันจะเกิดอะไรขึ้นผู้นำทางจิตวิญญาณหรืออะไร ต้องเกิดขึ้นนอกระบบ แต่ถ้าอยู่ในระบบอยู่ในการจัดตั้งรัฐบาลคงเกิดขึ้นไม่ได้ เพราะทั้งสองท่านไม่มีตำแหน่งในรัฐบาลทุกเรื่องใหญ่ต้องเคลียร์พรรคร่วมเมื่อถามว่าหากพรรคร่วมรัฐบาลไหนดื้อจะจัดการอย่างไร น.ส.แพทองธารหัวเราะก่อนตอบว่า “พูดเหมือนเป็นลูก ไม่ใช่นะคะ บอกแล้วว่าการมีพรรคร่วมหลายพรรค มีความคิดเห็นไม่ตรงกันอยู่แล้ว ในพรรคยังคิดไม่ตรงกันเลย แต่ต้องหาข้อสรุปจนได้ อะไรที่ติดขัดต้องช่วยกัน พูดคุยกัน พอมันถึงเรื่องใหญ่ พรรคร่วมรัฐบาลก็โทร.หากันอยู่แล้ว ต้องคุยกันนอก รอบก่อน เมื่อถามว่าเวลามีกฎหมายสำคัญเข้าสภาฯ เช่น เรื่องเอนเตอร์เทนเมนต์คอมเพล็กซ์ หรือกฎหมายงบประมาณ ต้องมีประเด็นเพื่อไทยกับภูมิใจไทยตลอด น.ส.แพทองธารตอบว่า นั่นสิ สื่อช่วยตอบให้หน่อยทำไมเป็นข่าวทุกทีเลย เป็นเพราะสื่อหรือไม่โอดเสียโอกาส “ทักษิณ” อดไปกาตาร์เมื่อถามถึงความคืบหน้าการเจรจากำแพงภาษี สหรัฐอเมริกา ขณะนี้จีนแซงหน้าไทยไปแล้ว นายกฯ ถึงกับอุทานว่า “โอ้โห ใช้คำว่าจีนแซงหน้าไม่ได้นะ” ก่อนตอบว่า วันนี้ตลาดหุ้นบวกอยู่ เรารอเวลาที่เหมาะสม สัปดาห์ที่ผ่านมาส่งข้อเสนอให้สหรัฐฯ เรียบร้อยแล้ว มีตัวแทนจากหลายภาคส่วนคุยกันหลายระดับ ทั้งสำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐอเมริกา (USTR) หรือระดับรัฐมนตรี มีการคุยนอกรอบแต่ข้อเสนอตรงส่งไปเรียบร้อยแล้ว เมื่อถามว่าการที่ นายทักษิณไม่ได้เดินทางไปกาตาร์เพื่อพบกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ทำให้ประเทศเสียโอกาสหรือไม่ นายกฯตอบว่า น่าเสียดายโอกาสที่จะคุยกับคอนเนกชันที่ค่อนข้างใกล้และตรงกับนายโดนัลด์ ทรัมป์ ต้องเสียโอกาสอยู่แล้ว ถ้ามีโอกาส คุยกันตรงๆน่าจะง่ายกว่า ทั้งนี้ นายโดนัลด์ ทรัมป์ กับนายทักษิณ เคยรู้จักกันมาอยู่แล้วตอนเป็นประธานา ธิบดีสมัยแรก เคยเจอกันและพูดคุยกัน ถ้าได้ไปเจอหรือถามแนวคิดต้องได้ประโยชน์อยู่แล้ว“สมศักดิ์” ตรงไปตรงมาไม่เคยกลัวนายสมศักดิ์ เทพสุทิน รมว.สาธารณสุข กล่าวว่า ขณะนี้มติแพทยสภายังมาไม่ถึง หากผลส่งมาปกติ จะไม่ยับยั้ง แต่เรื่องนี้อยู่ในความสนใจของประชาชน ประกอบกับผู้ที่ถูกลงโทษได้ประสานกับผู้ช่วยรัฐมนตรี ขอยื่นหนังสือขอความเป็นธรรม ก็ต้องพิจารณาดูว่า จะทำอย่างไร อาจหาคนมาช่วยอ่านช่วยดูให้ครบถ้วนตามกรอบเวลา 15 วัน วันนี้ได้ข่าวว่าผู้ถูกลงโทษจะร้องเรียนขอความเป็นธรรมมา เมื่อถามว่ารู้สึกกดดันหรือไม่ นายสมศักดิ์ตอบว่า ไม่กดดัน แต่ตั้งใจ ทำให้ชัดเจนเพื่อตอบคำถามให้ได้ ยิ่งมีการวิจารณ์เรื่องใบสั่ง ยิ่งต้องละเอียด ยืนยันว่าทำงานด้วยเหตุด้วยผลตลอด อยู่วงการการเมืองมาตั้งแต่ปี 2526 เป็นเวลา 40 กว่าปี อะไรที่ไม่เป็นเหตุเป็นผล ไม่กล้าทำ ขอให้สบายใจ หากอะไรเปิดเผยได้ก็พร้อมเปิดเผย “ผมไม่คิดหนัก ตรงไปตรงมา ผมอยู่ตรงกลางต้อง ชี้แจงให้ได้สองทาง เพราะต้องทำงานร่วมกับแพทยสภา ถ้าเราตรงไปตรงมาอย่าไปกลัว ไม่เคยกลัวมาตลอดชีวิตนักการเมือง”“นายแพทย์ใหญ่” ส่งทนายร้อง สธ.ที่สำนักงานปลัดกระทรวงสาธารณสุข นายเนติธร หลินตะกูล ทนายความ ผู้รับมอบหมายจาก พล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ นายแพทย์ใหญ่ โรงพยาบาลตำรวจ เข้ายื่นหนังสือขอความเป็นธรรมกับนายธนกฤต จิตรอารีย์รัตน์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงสาธารณสุข กรณีที่ประชุมแพทยสภามีมติลงโทษ 3 แพทย์ คดีจริยธรรมที่เกี่ยวกับนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ เข้ารับการรักษาตัวชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ นายเนติธรกล่าวว่า รับมอบอำนาจจากพล.ต.ท.นพ.ทวีศิลป์ เวชวิทารณ์ ร้องขอความเป็นธรรมต่อนายกสภาพิเศษให้ทบทวนคำสั่งของแพทยสภา ไม่สบายใจที่ข่าวออกไปทำให้กระทบต่อชื่อเสียงและภาพลักษณ์ของท่าน“อิ๊งค์” เปิด YPP ดึงพลังคนรุ่นใหม่เวลา 16.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย มีการจัดงานเปิดตัวโครงการ “Pheu Thai YPP (Young Professionals Program)-Fill the Gap, Make the Growth” มี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกฯ ในฐานะหัวหน้าพรรคเพื่อไทย รัฐมนตรี แกนนำและ สส.พรรค เข้าร่วมพร้อมเพรียง น.ส.แพทองธารกล่าวว่า อยากพัฒนาพรรคให้ไปข้างหน้าสำหรับโลกยุคปัจจุบัน พูดเสมอว่าเรามีคนรุ่นที่มีประสบการณ์มากๆ เมื่อรวมกับพลังของคนรุ่นใหม่ที่อยู่ตรงนี้ คือพลังและกำลังสำคัญในอนาคต คือสิ่งที่ตั้งใจอยากผลักดันต่อ ที่ผ่านมามีโอกาสทำงานกับทีมเพื่อไทยอคาเดมี ทีมที่ตั้งขึ้นมาเตรียมข้อมูลสื่อสารกับประชาชน โครงการวายพีพีจะดำเนินการโดยเพื่อไทยอคาเดมี คัดคนหากลุ่มคนที่ตรงเป้าที่อยากพัฒนาในเรื่องต่างๆ โฟกัสในพื้นที่กรุงเทพฯก่อน ในอนาคตจะเปิดรับเรื่อยๆ การเตรียมน้องๆเข้าสู่การเมืองที่เข้มแข็งขึ้นเป็นสิ่งสำคัญ เราอยากให้น้องๆเข้าใจการเมืองที่ถูกต้อง ไม่อยากให้เข้าใจว่าการเมืองเป็นเรื่องเล่นๆ การเมืองต้องตรงไปตรงมามากกว่านี้ สส.และทีมงานของพรรคพร้อมจะร่วมมือและทำงานกับน้องรุ่นใหม่ที่จะพัฒนาพรรคของเราให้เข้มแข็งมากยิ่งขึ้น แข็งแรงมากยิ่งขึ้น เข้าถึงทุกกลุ่มทุกวัยมากขึ้นดีเอสไอแจงปฏิบัติภารกิจร่วม กกต.พ.ต.ต.วรณัน ศรีล้ำ ผอ.กองคดีธุรกิจการเงิน นอกระบบ โฆษกดีเอสไอ กล่าวถึงความคืบหน้าคดี ฮั้วเลือก สว. ว่า ดีเอสไอรับผิดชอบเพียงที่อยู่ในเขต กทม. ส่วนต่างจังหวัดเป็นเจ้าหน้าที่ กกต. และตำรวจ ท้องที่ที่ดีเอสไอต้องไปร่วมสอบปากคำกับ กกต. เป็นไปตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการได้มาซึ่ง สว. หากเป็น ประเด็นข้อซักถามของดีเอสไอ จะเน้นในส่วนที่เป็น ประโยชน์ในรูปคดีของดีเอสไอ เพราะเจ้าหน้าที่ทั้ง 3 ราย อยู่ในชุดคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ ที่ 24/2568 ความผิดฐานฟอกเงินของบุคคลหรือ คณะบุคคลที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่ง สว. รวมถึงผู้ใด เป็นสมาชิกของคณะบุคคลซึ่งปกปิดวิธีดำเนินการและมีความมุ่งหมายเพื่อการอันมิชอบด้วยกฎหมาย ผู้นั้นกระทำความผิด ฐานเป็นอั้งยี่เช่นเดียวกัน ดังนั้นจะเห็นข้อมูลอันเป็นประโยชน์ทางคดีในเรื่องของการฟอกเงินและอั้งยี่ น่าจะเอามาใช้ประโยชน์ในคดีได้ และตามกฎหมายฟอกเงินมาตรา 3 (10) กำหนดไว้ว่า คดีมูลฐานอั้งยี่ คือหนึ่งในฐานความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน จึงเป็นเรื่องเชื่อมโยงกันสอบแล้ว 70 รายสิ้น พ.ค.เห็นผู้ต้องหาพ.ต.ต.วรณันกล่าวว่า ตามรายงานการสืบสวนสอบสวนของดีเอสไอที่ได้รับข้อมูล พบว่า มีกลุ่มเป้าหมายเครือข่ายที่เกี่ยวข้องเรื่องเส้นทางการเงิน หรือเป็นบุคคลที่มีเหตุอันควรสงสัย ประมาณ 1,200 ราย ทั้งหมดเกี่ยวข้องในขบวนการ เล็งเห็นว่าจะต้อง มีการพิจารณาแจ้งข้อกล่าวหาฟอกเงิน หลังจากนี้จะเปิดโอกาสให้กลุ่มบุคคลที่ถูกแจ้งข้อกล่าวหานำพยานหลักฐานมาชี้แจง ตอนนี้สอบปากคำไปแล้ว ประมาณ 70 ราย ส่วนที่เหลืออยู่ระหว่างทยอยดำเนินการต่อเนื่อง เมื่อถามว่ากลุ่มเป้าหมาย 1,200 ราย เป็นไปได้หรือไม่ว่าทั้งหมดจะมีความผิดตาม กฎหมายฟอกเงิน พ.ต.ต.วรณันตอบว่า ท้ายสุดอาจมีเพียงบางส่วนที่จะถูกพิจารณาว่ามีความผิดตามกฎหมายฟอกเงิน ต้องพิจารณาเป็นรายบุคคล และต้องดูเหตุอย่างอื่นประกอบ การทำงานของดีเอสไอ และ กกต.แตกต่างกัน กกต.จะเน้นประเด็นเรื่องการได้มาที่ไม่สุจริตเที่ยงธรรม เป็นเรื่องของการตัดสิทธิ ขณะที่ดีเอสไอเน้นประเด็นกระบวนการทางคดีอาญา ภายในสิ้นเดือน พ.ค. จะเห็นรายชื่อผู้ต้องหากลุ่มแรก ในฐานความผิดอั้งยี่ ฟอกเงินหรือไม่สว.ตัวจี๊ดปิดปากเลี่ยงตอบสื่อที่รัฐสภา นายอลงกต วรกี สว. ปฏิเสธที่จะให้สัมภาษณ์ถึงการเข้ารับทราบข้อกล่าวหาในคดีฮั้วเลือก สว. กล่าวสั้นๆแค่ว่า ตอนนี้ไม่พูดถึงแนวทางแล้ว ผู้สื่อข่าวถามว่าครั้งนี้เป็นหมายเรียกของ กกต. จะเดินทางไปชี้แจงหรือไม่ นายอลงกตตอบว่า ไปอยู่แล้ว พร้อมเดินหนีผู้สื่อข่าว โดยพยายามเปิดประตูไปด้านนอกอาคาร แต่ประตูเปิดไม่ได้ เจ้าหน้าที่สภาต้องเข้ามาช่วยนำทาง ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่ากังวลหรือไม่ มีการพูดคุยกับนายมงคล สุรสัจจะ ประธานวุฒิสภา และ สว. 50 กว่าคนหรือไม่ นายอลงกตเอามือปิดปากไม่ตอบคำถาม เมื่อถามว่าคุยกันให้ปิดวาจาใช่หรือไม่ นายอลงกตตอบว่า “อืม” ก่อนเดินเลี่ยงไปเข้าห้องน้ำ แต่พอเดินออกมาผู้สื่อข่าวยังเฝ้าอยู่ นายอลงกตได้ยกมือทั้งสองข้างขึ้นปิดปาก และเลี่ยงเดินเข้าไปหยิบของในห้องประชุม ไม่ยอมตอบคำถามใดๆสองกุมารโบกมือลา “ลุงป้อม”ผู้สื่อข่าวรายงานจากพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ว่า นายอุตตม สาวนายน อดีต รมว.คลัง และนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ อดีต รมว.พาณิชย์ และอดีต รมว.พลังงาน ตัดสินใจลาออกจากสมาชิกพรรค พปชร. โดยยื่นใบลาออกต่อ กกต.เรียบร้อยแล้ว ทั้งนายอุตตมและสนธิรัตน์ได้เข้าไปลา พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร.เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา พล.อ.ประวิตรกล่าวขอบใจที่อยู่ด้วยกันมา ไม่ได้ไปไหนยามที่พรรควิกฤติ แต่อยู่จนพรรคตั้งหลักได้ และ พล.อ.ประวิตรมองว่าเป็นวิถีทางการเมือง พร้อมอวยพรขอให้ทั้ง 2 คนโชคดี โดยมีรายงานว่า นายอุตตมจะกลับไปทำงานที่สถาบันอนาคตไทยศึกษา ขณะที่นายสนธิรัตน์ขอออกไปตั้งหลักก่อนจากกันด้วยดีขอบใจที่ไม่ทิ้งกันพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พปชร. ให้สัมภาษณ์ว่า ทั้งนายอุตตมและนายสนธิรัตน์ แจ้งว่าจะไปทำธุรกิจส่วนตัวแค่นั้น บอกแค่นั้น เมื่อถามว่าทั้ง 2 คนไม่ได้บอกใช่หรือไม่ว่าจะย้ายพรรคไปไหน พล.อ.ประวิตรตอบว่า เขาบอกไม่ไป เมื่อถามอีกว่าเป็นการจากกันด้วยดีใช่หรือไม่ พล.อ.ประวิตรตอบว่า จากด้วยดี ไม่มีอะไรนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการพรรค พปชร. กล่าวว่า ทั้งสองคนไปยื่นเรื่องที่ กกต.แล้ว ยืนยันว่า ที่ผ่านมาร่วมงานกันด้วยดีมาตลอด“บิ๊กแจ๊ด” เมิน สส.พท.โพสต์ท้าอีกเรื่อง พล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง หรือบิ๊กแจ๊ด นายก อบจ.ปทุมธานี กล่าวถึงกรณีนายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ หรือ สส.ฟลุ๊ค สส.ปทุมธานี เขต 5 พรรคเพื่อไทย ลูกชายนายกฤษดา หรือเฮีย เบี้ยว หลีนวรัตน์ โพสต์ท้าทายว่า “ไม่กลัวบุคคล อักษรตัว J” ว่า อย่าไปให้ค่าตัว J แล้วแต่คนจะคิดว่าเป็น J ไหน ภาพแบบนี้ทุกอย่างอยู่ที่ประชาชนจะคิดจะเข้าใจ อยากเห็น จ.ปทุมธานี เดินหน้าไปพร้อมๆกัน อยากให้ประชาชนสนใจกับเรื่องโรคภัยไข้เจ็บมากกว่า ส่วนที่เป็นข่าวไม่อยากให้พี่น้องไปวิตกกังวล ไม่ได้สนใจอะไรเลย และต้องขอบคุณประชาชนที่เลือก ร.ต.อ.ตรีลุพธ์ ธูปกระจ่าง ให้โอกาสลูกชายได้กลับมาทำหน้าที่นายกเทศมนตรีนครรังสิต ยืนยันว่า “ผมสั่งสอนลูกให้อ่อนน้อมถ่อมตน รู้จักเด็ก รู้จักผู้ใหญ่ จะไม่มีพฤติกรรมก้าวร้าวกับใครเด็ดขาด”“ฟลุ๊ค” ขอให้มันจบเถอะครับนายมนัสนันท์ หลีนวรัตน์ สส.ปทุมธานี พรรคเพื่อไทย หรือ “สส.ฟลุ๊ค” กล่าวถึงกรณีโพสต์เฟซบุ๊กส่วนตัว ระบุว่า “ขอทิ้งท้ายว่ากูไม่กลัวมึง ไอ้J...” “ตัวเจ” หมายถึงใคร โดยนายมนัสนันท์ระบุสั้นๆว่า “ไม่มีอะไร ให้มันจบเถอะครับ” ผู้สื่อข่าวพยายามสอบถามว่า ได้พูดคุยกับนายสรวงศ์ เทียนทอง รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา เลขาธิการพรรค พท.แล้วหรือไม่ นายมนัสนันท์นิ่งไปสักพัก แต่ไม่ตอบคำถาม ก่อนขึ้นรถออกจากพรรคไปทันทีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่