ถ้าสังเกตให้ดีมาถึงวันนี้รัฐบาล “แพทองธาร ชินวัตร” นายกรัฐมนตรี บรรยากาศดูไม่ค่อยดีนักคล้ายกับต่างคนต่างอยู่ต่างคนต่างรับผิดชอบงานของตัวเองเท่านั้นไม่มีภาพว่าจะล่มหัวจมท้ายกันอย่างเริ่มต้นเข้ามาบริหารประเทศใหม่ๆพูดง่ายๆอารมณ์ร่วมไม่ปรากฏให้เห็นมีแต่ “เพื่อไทย” เพียงพรรคเดียวเท่านั้นที่ยังเกาะกลุ่มกันเพื่อตอบโต้การถูกโจมตีหัวหน้าพรรคและ “พ่อหัวหน้าพรรค”ปกติจะเห็น “อนุทิน ชาญวีรกูล” เป็นตัวเชื่อมสร้างความร่วมมือร่วมใจเป็นหมู่คณะปรากฏให้เห็นบ่อยๆแต่วันนี้ “เสี่ยหนู” เปลี่ยนบทบาทของตัวเองและไม่ค่อยทำตัวให้เป็นข่าวมากนักก็ไม่รู้เป็นเพราะอะไร?ความจริง ณ วันนี้รัฐบาลประสบปัญหาต่างๆหลายเรื่อง โดยเฉพาะยังจมปลักกับเรื่องเศรษฐกิจซึ่งเป็นเรื่องใหญ่การรอเวลาเจรจากับสหรัฐฯเรื่องการขึ้นภาษีที่ยังไม่รู้ว่าผลจะออกมาอย่างไร ไม่ใช่แค่รัฐบาลเท่านั้นประชาชนและภาคธุรกิจเอกชนก็ลุ้นอยู่เหมือนกันเพราะมันเกี่ยวข้องกับพวกเขาเต็มๆที่สำคัญก็คือต่างก็ไม่เชื่อว่ารัฐบาลจะเจรจาแล้วเกิดผลดี แก่ประเทศมันเป็นอย่างนั้นเสียด้วยปัญหาการเมืองมี 2 เรื่องใหญ่คือฮั้วเลือกตั้ง สว. และชั้น 14 รพ.ตำรวจ ซึ่งเป็นเรื่องที่ส่งผลต่อการเมืองไทยทั้งระบบโดยเฉพาะ “เพื่อไทย”-“ภูมิใจไทย”ตรงนี้แหละที่ทำให้เกิดความบาดหมางระหว่าง 2 พรรคคือ “เพื่อไทย”-“ภูมิใจไทย” ชัดเจนขึ้น เนื่องจากได้รับผลกระทบโดยตรง“เพื่อไทย” ก็คงอยากเห็น สว.ถูกดำเนินคดี“ภูมิใจไทย” ก็คงอยากเห็น “ทักษิณ” กลับเข้าคุกแม้จะไม่แสดงออกโดยตรง แต่ในใจคงคิดไปอย่างนั้นทำให้เกิดปัญหาด้านความรู้สึกจนไม่สามารถฝืนได้ความจริงทางการเมืองนั้น “ภูมิใจไทย” ไม่เคยคิดว่า “ทักษิณ” จะได้กลับบ้านในลักษณะนี้ แต่เมื่อกลับมาทำให้ “เพื่อไทย” ได้ชีวิตใหม่เป็นคู่แข่งที่ประมือได้ยาก!ความหวังที่ “อนุทิน” จะก้าวสู่เก้าอี้นายกรัฐมนตรีเลือนรางทันทีเห็นได้จากสถานการณ์การเมืองในปัจจุบันที่ “ทักษิณ” นั้นเหนือชั้นกว่ามาก แต่ก็พยายามประคับประคองไม่ให้ขัดแย้งรุนแรงจนเข้าหน้ากันไม่ติดแต่อีกด้านก็ต้องปล่อยอาวุธเพื่อหาคะแนนนิยมทำให้ขัดแย้งกับ “ทักษิณ”คือเล่นบทสองหน้า!แค่ครั้งสองครั้งพอรับกันได้ แต่ถ้าหลายๆครั้งมันก็รับกันไม่ได้“แพทองธาร” นายกรัฐมนตรี น่าจะทราบเรื่องนี้เป็นอย่างดีเพราะเป็นคนกลางโดยพยายามประนีประนอมอย่างการปรับ ครม.ที่ยังทำไม่ได้ก็เพราะ “พ่อ-ลูก” มีความเห็นต่างกันทำให้ขยับอะไรไม่ได้ในรัฐบาลจนทำให้เกิด “สุญญากาศ”เป็นรัฐบาลได้แต่บริหารไม่ได้ถ้าถามว่า “ทักษิณ” อยาก “ยุบสภา” หรือไม่ ตอบง่ายๆว่า “อยาก” เพราะทุกวันนี้อึดอัดเต็มทนแล้วทำอะไรก็ไม่ได้แต่เหตุผลสำคัญก็คือ“ยุบสภา” แล้วจะชนะเลือกตั้งหรือไม่ เขายังหาคำตอบไม่ได้!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม