จากการที่ สี จิ้นผิง ประธานาธิบดีสาธารณรัฐประชาชนจีน เดินหน้าปราบปรามทุจริตคอร์รัปชัน โดยใช้มาตรการเด็ดขาด ถึงขั้นประหารชีวิตเจ้าหน้าที่รัฐและผู้เกี่ยวข้องกับการทุจริต ทำให้กลุ่มทุนและแก๊งชาวจีนที่จ่ายส่วยให้เจ้าหน้าที่รัฐของจีนแลกกับการเอื้อประโยชน์ทำธุรกิจผิดกฎหมาย หวั่นเกรงจะโดนกวาดล้างกลุ่มทุนจีนเทาจึงขยับย้ายฐานจากแผ่นดินใหญ่มายังประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยเฉพาะประเทศไทย ที่รัฐบาลเปิดกว้างให้นักลงทุนเข้ามาลงทุนในประเทศ หวังกระตุ้นเศรษฐกิจหลังเผชิญวิกฤติโควิด ทำให้กลุ่มทุนจีน ทั้งสีขาว สีเทา สีดำ ยกทัพหลั่งไหลเข้ามาลงทุนทำธุรกิจในไทยกันอย่างคึกคักเอิกเกริกนำมาซึ่งปัญหาการใช้นอมินีที่เป็นคนไทยเข้าไปถือหุ้นในบริษัทที่มีเจ้าของเป็นชาวจีน เพื่อหลบเลี่ยงข้อกฎหมายในการซื้ออสังหาริมทรัพย์ ที่ดิน บ้าน อาคารพาณิชย์ อพาร์ตเมนต์ คอนโดมิเนียม รวมทั้งการขออนุญาตเพื่อประกอบกิจการต่างๆ ทั้งร้านอาหาร สถานบริการ ผับ บาร์ ตลอดจนเข้าร่วมประมูลงานก่อสร้างของรัฐแต่ปัญหาเหล่านี้ก็ไม่ได้รับความสนใจจากภาครัฐ เพราะเป้าหมายของทุกรัฐบาล คือต้องการดึงเงินลงทุนเข้าประเทศเพื่อฟื้นเศรษฐกิจ จนกระทั่งเกิดปัญหาตึก สตง.ที่กำลังก่อสร้างพังถล่มช่วงเกิดแผ่นดินไหว ประจานเบื้องหลังบริษัทก่อสร้างข้ามชาติจากจีน ซิกแซ็กใช้นอมินีคนไทยถือหุ้นบริษัทประมูลงานรัฐ เข้าข่ายผิดกฎหมายและมีการขยายผลไปถึงกรณีนักลงทุนจีนเข้ามาตั้งโรงงานอุตสาหกรรมในไทย อาทิ โรงงานเหล็ก มีการผลิตและนำเข้าเหล็กไม่ได้มาตรฐานส่งขายในเมืองไทย ซึ่งถูกตั้งข้อสงสัยว่าอาจเป็นสาเหตุหนึ่งที่ทำให้ตึก สตง.พังถล่ม และยังมีโรงงานกลุ่มทุนจีนอีกหลายแห่งที่เป็นต้นตอก่อมลพิษ ทำลายสิ่งแวดล้อม รวมทั้งบุกรุกพื้นที่ป่าการที่กลุ่มทุนจีนมาใช้ไทยเป็นฐานโกยเงินกลับแผ่นดินใหญ่ หรือธุรกิจศูนย์เหรียญ ประเทศไทยไม่ได้ประโยชน์ มีแต่สร้างปัญหาให้ตามแก้ ขณะที่กลุ่มจีนเทาก็มาทำธุรกิจบังหน้า แฝงธุรกิจผิดกฎหมาย ทั้งยาเสพติด ฟอกเงิน ค้ามนุษย์ หลายฝ่ายจึงเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งตรวจสอบและจัดการก่อนที่ปัญหาจะลุกลามหนักยิ่งกว่านี้ขณะที่ผู้ตรวจการแผ่นดินได้ทำรายงานเสนอแนะต่อนายกฯ ประธานสภาฯ ประธานวุฒิสภา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้เร่งออกมาตรการป้องกันกลุ่มทุนต่างด้าวใช้นอมินีอำพรางซื้ออสังหา ริมทรัพย์ ทำธุรกรรมอำพราง สร้างความเสียหายแก่ประเทศ เป็นภัยต่อความมั่นคงทางเศรษฐกิจ รัฐบาลจึงควรต้องเร่งออกกฎเหล็กสกัดกั้นโดยด่วน.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม