ในมหาสงครามประจัญบานทางการค้าระหว่างจีนกับสหรัฐอเมริกา ก็ไม่ต้องแปลกใจ คนไทย (เชื้อสายจีน) แบบผม ถ้าให้เลือก ผมก็คงเลือกจีนและหากมีคำถามรบกันชนิดฝุ่นตลบโลกอย่างนี้ จะให้ทายว่า ใครชนะ?ผมแน่ใจ คนอย่างสี จิ้นผิง ผู้นำจีน ขึ้นใจ พิชัยสงครามซุนวู ข้อที่ 1 ชัยชนะที่ได้มาโดยไม่ต้องรบ กลยุทธ์ที่คุณสีกำลังใช้สู้ไอ้บ้าทรัมป์... ผมจะตอบทันที “จีนชนะ”ในหนังสือเล่มใกล้มือ คารมคมปัญญา (สำนักพิมพ์สุขภาพใจ พิมพ์ พ.ศ.2568) บทที่ 3 จับปลาบนยอดไม้ เรื่องนี้ ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม เรียบเรียงจากคัมภีร์เม่งจื๊อ ยุคจั้นกว๋อ (พ.ศ.67-322) ครับครั้งหนึ่ง ปรัชญาเมธี นามเม่งจื๊อ ถามเจ้าแห่งรัฐฉี (รัฐมหาอำนาจตอนนั้น) ว่า“ฝ่าบาทก่อสงครามกับรัฐอื่น สร้างความทุกข์ยากมากมายให้แก่ขุนนางและทวยราษฎร์ เจ้าผู้ครองแคว้นอื่นๆก็โกรธแค้นชิงชังหรือว่าต้องการทำเช่นนี้ ฝ่าบาทมีความสุข” “มิใช่เช่นนั้น” อ๋องแห่งรัฐฉีตอบ“ข้าเพียงแต่ต้องการบรรลุเจตนารมณ์อันยิ่งใหญ่เท่านั้น”เม่งจื๊อถามต่อว่า “หรือว่าฝ่าบาทยังมีอาหารไม่เพียงพอรับประทาน มีอาภรณ์ไม่เพียงพอสวมใส่ มีผู้รับใช้ไม่เพียงพอปรนนิบัติ ท่านต้องการสิ่งเหล่านี้ใช่หรือไม่?” “ข้าไม่ได้ต้องการเช่นนั้น”“ฝ่าบาทต้องการขยายเขตแดน ต้องการให้รัฐอื่นๆมาสวามิภักดิ์ ยกย่องฝ่าบาทให้เป็นเจ้าเหนือรัฐทั้งแผ่นดิน แต่วิธีการที่ฝ่าบาททรงใช้ เปรียบเหมือนการปีนขึ้นต้นไม้ไปจับปลาบนยอดไม้ยิ่งกว่านั้น ผลเสียยังมีอีกหลายเท่า เพราะการจับปลาบนยอดไม้ เพียงแค่ไม่ได้ปลาส่วนการทำสงครามเพื่อให้บรรลุเป้าหมาย นำมาซึ่งเภทภัยอันใหญ่หลวง”จบเรื่องเก่าแก่ใกล้สองพันห้าร้อยปี ประสิทธิ์ ฉกาจธรรม เขียนอธิบายขยายความต่อว่า ต่อมาคนรุ่นหลังจึงหยิบสำนวน จับปลาบนยอดไม้ มาใช้เปรียบเทียบกับการใช้วิธีการที่ไม่เหมาะสมย่อมไม่สามารถประสบความสำเร็จมีแต่จะเสียแรงเปล่าเท่านั้นวิธีการมีความสำคัญ ไม่แพ้เป้าหมาย เสียดายที่หลายคนมักเข้าใจผิด โดยหยิบยกเอาประโยคสำคัญของเติ้ง เสี่ยวผิงว่า“ แมวขาวหรือดำ จับหนูได้ก็ใช้ได้”อันที่จริง เติ้ง เสี่ยวผิง เพียงต้องการให้ผู้คนไม่ยึดติดกับเปลือกนอกอย่างผิวเผิน เป้าหมายของระบอบเศรษฐกิจก็เพื่อให้ประชาชนพ้นจากความยากจน ได้กินอยู่อย่างสุขสบายทั้งระบบทุนนิยมและสังคมนิยม ต่างมีข้อด้อยและข้อดีที่ควรจะเรียนรู้ซึ่งกันและกัน ไม่ควรถกเถียงเรื่องชื่อ จนหลงลืมเนื้อหาที่เป็นสาระสำคัญส่วนผู้ที่สนใจแต่ความสำคัญ ต้องการบรรลุจุดประสงค์โดยไม่คำนึงถึงวิธีการนั้น ดูจะเลยเถิดไปกว่าแนวคิดของเติ้ง เสี่ยวผิง เป็นอันมากลองคิดดูง่ายๆ น้ำใสบริสุทธิ์กับน้ำครำดำสนิท จะใช้ซักผ้าให้ขาวสะอาดเหมือนกันได้อย่างไร?อ่านข้อคิดของประสิทธิ์ ฉกาจธรรม จบ ผมก็ยิ่งแน่ใจ ในทางสองแพร่งที่โลกต้องการให้เราเลือก...มีเหตุปัจจัยผสมกลมกลืนมากมาย...ไม่ว่าอย่างไร เราก็ต้องเลือกข้างจีนแต่ระหว่างที่กำลังคิดว่าจะรณรงค์หาพวกพ้อง ก่อตั้งชมรมคนเกลียดฝรั่ง...เจอหน้าที่ไหนต้องหาเรื่องเตะฝรั่งฝากไปถึงไอ้บ้าทรัมป์ (ทีพวกมันยังหาเรื่องทำร้ายคนเอเชียได้นี่นา!) ภาพตึก สตง.ถล่มจมยัง 94 ชีวิตแรงงานไทย ก็โผล่เจิดจ้าขึ้นมาในมโนเขาเรียกคนพวกนั้น “จีนเทา” แต่ก็ยังผ่อนความรู้สยดสยอง ผลงานของ “จีน” ไม่ลงเกลียดฝรั่ง แต่ก็กลัวจีน จะหันหน้าไปพึ่งผู้นำของเราเอง...โธ่เอ๋ย! ท่านก็ออกท่าหมดเรี่ยวหมดแรง นอนใส่แว่นรักษาตัวเสียแล้ว ทีนี้คนไทยจะหันหน้าไปพึ่งใคร?เล่าเออ!กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม