"พีช" หอบเงิน 2 แสนบาท เตรียมจ่ายค่ารักษาลุงป้าที่โรงพยาบาล แต่กลับวืดอีกรอบญาติคู่กรณีจ่ายเงินไปแล้วกว่า 1.3 แสนบาท และกำชับห้ามเข้าเยี่ยม พีชเขียนจดหมายถึงลุงป้า "ขอโทษกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นพร้อมรับผิดชอบค่าใช้จ่ายทั้งหมด" ขณะที่ “กัน จอมพลัง” แจงควักเงินจ่ายค่ารักษาไปก่อน ยอมถอยคนละก้าวให้ทั้ง 2 ฝ่ายพูดคุยกัน ส่วนเรื่องโพสต์พาดพิงมองว่าเป็นแค่เด็กน้อยภายหลังตำรวจ สภ.ลำลูกกา จ.ปทุมธานี แจ้งดำเนินคดีนายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช หลีนวรัตน์ อายุ 28 ปี ผู้สมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) ต.ธัญบุรี อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี ขับรถเก๋งบีเอ็มดับเบิลยู สีขาว ป้ายแดง ทะเบียน ท-6523 กรุงเทพมหานคร ชนรถกระบะที่นายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65ปี เป็นคนขับ และนางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี ภรรยานั่งข้างได้รับบาดเจ็บที่ถนนกาญจนาภิเษกหมายเลข 9 บางนา-บางปะอิน มุ่งหน้าบางปะอิน กม.22 อ.ธัญบุรี จ.ปทุมธานี รวม 4 ข้อหา ประกอบด้วยทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บสาหัส (กรณีนายประจักษ์) ทำร้ายร่างกายผู้อื่นได้รับบาดเจ็บ (กรณีนางสมศรี) ขับรถไม่คำนึงถึงความปลอดภัย และทำให้เสียทรัพย์ แล้วปล่อยตัวชั่วคราว ขณะที่กัน จอมพลัง พาลูกสาวและลูกชายลุงป้าคู่กรณีมาเจรจาเยียวยาและรับการขอโทษ จังหวะนายพีชถือพวงมาลัยนั่งคุกเข่าแต่กลับวืด กัน จอมพลังดึงตัวลูกสาวผู้เสียหายออก บอกว่า “ทำอย่างนี้ก็มัดมือชก” ส่วนพีชน้ำตาคลอยืนยันผิดไปแล้วเรื่องลุกลามถึงพ่อแม่ วอนสังคมหยุดด่าความคืบหน้าเมื่อเวลา 13.35 น. วันที่ 20 เม.ย. นายกฤษฎา หลีนวรัตน์ หรือนายกเบี้ยว นายก เทศมนตรีตำบลธัญบุรี จ.ปทุมธานี และนายสมิทธิพัฒน์ หรือพีช ลูกชาย เดินทางมาที่โรงพยาบาลบางปะกอก -รังสิต 2 จ.ปทุมธานี เพื่อติดต่อขอเข้าเยี่ยมนายประจักษ์ ดวงใย อายุ 65 ปี คนขับ และนางสมศรี ดวงใย อายุ 64 ปี ลุงป้าที่เป็นคู่กรณี แต่ทางญาติผู้บาดเจ็บแจ้งไว้ยังไม่ให้นายกเบี้ยวและนายพีชเข้าเยี่ยม จากนั้นนายกเบี้ยวและนายพีชเดินลงมาที่จุดบริการข้อมูลค่ารักษาพยาบาล เพื่อสอบถามค่ารักษาพยาบาลของลุงป้า ตั้งแต่เข้ามารับการรักษาตัวตั้งแต่วันที่ 16 เม.ย.จนถึงวันที่ 20 เม.ย. มีความประสงค์ชำระค่ารักษาพยาบาลเบื้องต้นให้กับโรงพยาบาล นายพีชสอบถามค่ารักษาพยาบาลทราบว่าจนถึงวันนี้ค่ารักษาพยาบาลของนายประจักษ์กว่า 8 หมื่นบาท และนางสมศรีกว่า 4 หมื่นบาท รวมประมาณ 130,000 บาท แต่ญาติลุงป้าชำระแล้วในช่วงเช้าของวันที่ 20 เม.ย.ต่อมานายพีชนำเงิน 200,000 บาท เพื่อขอฝากเป็นค่ารักษาพยาบาลของลุงป้าในเบื้องต้น แต่เจ้าหน้าที่ของโรงพยาบาลแจ้งว่าไม่สามารถรับฝากได้ แต่ถ้าอยากจะเขียนจดหมายฝากถึงคุณลุงคุณป้าก็สามารถเขียนฝากไว้ แล้วทางโรงพยาบาลจะนำไปให้คุณลุงคุณป้า นายพีชเขียนจดหมายระบุว่า “ผมนายสมิทธิพัฒน์ หลีนวรัตน์ ได้เดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลกับทางคุณพ่อ ขอให้คุณลุงคุณป้าหายไวๆครับ ผมขอโทษกับเหตุการณ์ครั้งนี้ด้วยครับ วันนี้ผมเดินทางมาเยี่ยมคุณลุงคุณป้า แต่คุณลุงคุณป้ายังไม่อนุญาตให้เยี่ยม และผมได้นำเงินมาเพื่อจะจ่ายค่ารักษา แต่ทางญาติคุณป้าและคุณลุงชำระค่ารักษาพยาบาลแล้วครับ ผมยินดีที่จะจ่ายค่ารักษาพยาบาล คุณลุงคุณป้าจนหายเป็นปกติครับ” จากนั้นนายกเบี้ยวและลูกชายเดินทางกลับต่อมาเวลา 15.00 น. นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” เดินทางมาเยี่ยมลุงป้าที่ รพ.บางปะกอก-รังสิต 2 เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้คุยกับทางครอบครัวของลุงกับป้าเรื่องค่ารักษาพยาบาลแล้ว ก็รู้สึกสงสาร เพราะตอนนี้ทราบว่าค่ารักษาพยาบาลพุ่งไปมากกว่า 134,000 บาทแล้ว ทางครอบครัวเองก็ลำบาก ตนตัดสินใจช่วยเหลือใช้เงินส่วนตัวออกไปจ่ายให้ 47,697 บาท และเงินจากมูลนิธิกันจอมพลังช่วยสู้อีก 26,608 บาท นอกจากนี้ยังมีในส่วนของ พ.ร.บ.ช่วยลุงป้าอีกยอด 60,000 บาท (คนละ 30,000 บาท) รวมเป็นเงิน 134,305 บาท เพิ่งชำระเงินไปเมื่อช่วงเวลา 11 โมงเช้า แต่ปรากฏว่าคู่กรณีเดินทางมาขอจ่ายเงินภายหลัง ส่วนเรื่องจดหมายมองว่าการกระทำสำคัญกว่าคำพูด ฝากไปถึงคู่กรณีถ้าหากอยากจะช่วยจริงๆ ตนก็ยินดีพร้อมเปิดทางให้ ยอมถอยคนละก้าว อยากให้ครอบครัวลุงป้าสบายใจ เชื่อว่าถ้าพูดคุยกันเรื่องทุกอย่างจะดีขึ้นเมื่อถามถึง “เต้ มงคลกิตติ์” ในประเด็นที่โพสต์ว่าฝากถึงน้องกัน จอมพลัง ถอยเถอะน้อง นายใหญ่สั่งพี่ชายนายมาแล้วนายไม่ถอย มัวเชื่อเอฟซีมาก จำบทเรียนของทนายตั้มไว้ เคยดังขีดสุด เอฟซีก็ช่วยไม่ได้นะ คดีจะมาเพียบนั้น กันตอบว่า รู้ว่าพี่ชายรู้จักนิสัยผมดี รู้ว่าผมเป็นคนอย่างไร และพี่ชายก็รู้จักนิสัยผมดีมาก ขอบคุณคุณเต้ที่ออกมาพูด อาจจะเป็นห่วงผม แต่อยากบอกว่าไม่ต้องเป็นห่วงผม อยากให้พี่เต้ไปดูแลโซนพระราม 7 เดี๋ยวผมจัดการตรงนี้เอง ส่วนประเด็นคนใช้ชื่อ “สป.สายไหม” โพสต์เฟซบุ๊กพาดพิงถึงตน มองว่าเป็นแค่เด็กน้อย คนละเบอร์กัน ตนไม่ได้สนใจเพราะทำในสิ่งที่ถูกต้องมีรายงานว่า นางยุพเยาว์ หลีนวรัตน์ แม่นายพีช ผู้สมัครนายกเทศมนตรีตำบลธัญบุรี โพสต์เฟซบุ๊ก ระบุว่า มีคลิปที่นำข่าวเท็จเรื่องลูกพีชเครียดยิงตัวตายมองว่าผู้โพสต์ใช้กระแสข่าวเพื่อหวังแปะลิงก์เว็บพนัน ไม่เป็นความจริงแต่อย่างใด นอกจากนี้ครอบครัวยอมรับผิดกับสิ่งที่เกิดขึ้น และจะดูแลคู่กรณีอย่างดีอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่
