สถิติ 7 วัน อันตราย มหกรรมปีใหม่ไทย วันที่ 11-17 เม.ย.2568 ของศูนย์อำนวยการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนช่วงเทศกาลสงกรานต์ ผ่านมา 6 วัน มีผู้เสียชีวิตสะสมจากอุบัติเหตุทางถนน 200 คน บาดเจ็บ 1,362 คน จำนวนอุบัติเหตุ 1,377 ครั้ง สาเหตุส่วนใหญ่ยังวนเวียนอยู่กับการขับรถเร็ว และเมาแล้วขับ ในอัตราไล่เลี่ยกันแม้ภาพรวมจำนวนผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บในปีนี้จะลดลงจากปีที่แล้ว ตรงเป้าหมายต้องการลดตัวเลขความสูญเสียให้เหลือน้อยที่สุด ตามมาตรการเพิ่มความเข้มงวดกวดขัน และบูรณาการความร่วมมือจากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งส่วนกลาง ส่วนภูมิภาค และท้องถิ่น เตรียมแผนป้องกันและลดอุบัติเหตุในช่วงเทศกาลแต่ตัวเลขผู้เสียชีวิต บาดเจ็บและจำนวนอุบัติเหตุยังเกิดขึ้นจำนวนมาก แม้จะเฝ้าระวังอย่างเต็มที่ ทั้งการซ่อมแซมถนนในจุดเสี่ยงที่เกิดอุบัติเหตุบ่อย การตั้งด่านบังคับใช้กฎหมายเข้มงวด การเตรียมความพร้อมช่วยเหลือหลังเกิดอุบัติเหตุ และกำหนดแนวทางป้องกันอุบัติเหตุทางถนนให้ประชาชนปลอดภัยในการเดินทางเมื่อพิจารณาตัวเลขผู้เสียชีวิตช่วง 7 วันอันตรายของเทศกาลสงกรานต์ในทุกปี ยังเป็นเรื่องน่าวิตกอย่างยิ่ง แค่สัปดาห์เดียวเกิดอุบัติเหตุทางถนนเฉลี่ยเกือบ 300 ราย เมื่อนำสถิติทั้งปีมาเปรียบเทียบแล้วก็ยิ่งน่าห่วง มีข้อมูลจากองค์การอนามัยโลกชี้ว่า ประเทศไทยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกที่มีอัตราเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนสูงที่สุดสอดรับข้อมูลนายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและยานพาหนะเกี่ยวกับการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน รัฐสภา ระบุว่า ข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนทั้งปี 2566 ของไทยอยู่ที่ 17,498 ราย หรือเฉลี่ยวันละ 48 รายเป็นตัวเลขที่น่าตกใจ เพราะนอกจากตัวเลขผู้เสียชีวิตเฉลี่ยเกือบ 50 รายต่อวันแล้ว ยังมีตัวเลขของผู้เคราะห์ร้ายที่ต้องกลายเป็นคนพิการตลอดชีวิต เฉลี่ยปีละ 10,000 คน จึงจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องร่วมมือกันทำงานอย่างต่อเนื่อง และเข้มข้นขึ้น เพื่อรณรงค์ทุกฝ่ายให้ตระหนักรู้ถึงการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัยแต่สิ่งสำคัญที่สุดในการป้องกันอุบัติเหตุทางถนน นอกจากการรณรงค์ใช้รถ ใช้ถนนอย่างปลอดภัย การบังคับใช้กฎหมายเข้มงวดแล้ว อยู่ที่การสร้างจิตสำนึกผู้ขับขี่ต้องมีความรับผิดชอบต่อสังคม เคารพกฎจราจร เป็นกฎเหล็กสร้างความปลอดภัยให้ตัวเอง และช่วยป้องกันผู้ร่วมใช้รถใช้ถนนคนอื่นๆไม่ให้ตกเป็นเหยื่อความประมาท.คลิกอ่านคอลัมน์ “บทบรรณาธิการ” เพิ่มเติม