จากการกวาดล้างแก๊งคอลเซ็นเตอร์ของตำรวจกัมพูชาร่วมกับตำรวจไทยได้เปิดปฏิบัติการจับกุมคนไทย 119 คน ส่งตัวกลับมาดำเนินคดีในไทย รมว.มหาดไทยกัมพูชาสั่งให้ตำรวจกัมพูชาค้น 2 จุด เมืองปอยเปตทลายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ที่ตั้งเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทย ทำหน้าที่จัดหาคนไทยเข้ามาเปิดบัญชีม้า บัญชีคริปโต สแกนหน้าเพื่อหลอกลวงเหยื่อคนไทย เป็นที่ตั้งกลุ่มคนไทยขายชาติหลอกคนไทยด้วยกัน จับกุมคนไทย 63 คนตำรวจกัมพูชานำคนไทย 7 คน คาดว่าเป็นระดับสั่งการขยายผลดำเนินคดี และส่งคนไทย 56 คน กลับมาดำเนินคดีในไทย พล.ต.อ.ธัชชัย ปิตะนีละบุตร จตช.และ ผอ.ศปอส.ตร. พล.ต.ท.ไตรรงค์ ผิวพรรณ ผบช.สอท. พล.ต.ท.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบช.ภ.2 พล.ต.ต.พงษ์สยาม มีขันทอง รอง ผบช.ทท. พล.ต.ต.ทินกร รังมาตย์ รอง ผบช.สอท. พล.ต.ต.ธีระชัย ชำนาญหมอ ผบก.สส.ภ.2 เข้าร่วม ตรวจสอบพบมีหมายจับ 5 คนผู้ต้องหาเกี่ยวข้อง case ID จำนวน 1,154 คดี ความเสียหาย 709,495,881 บาท ผู้ต้องหาส่วนใหญ่มีพฤติการณ์คล้ายกันคือเริ่มต้นจากการถูกชักชวนผ่านสื่อโซเชียลให้ไปทำงาน ถูกพาไปเปิดบัญชีธนาคารรับค่าจ้างเปิดบัญชีทุกคนต้องเดินทางข้ามชายแดนผ่านช่องทางธรรมชาติไปฝั่งปอยเปต อยู่ในที่พักคอยจัดเตรียมไว้ผู้รับจ้างเปิดบัญชีธนาคารออนไลน์และบัญชีทรัพย์สินดิจิทัล เพื่อใช้ในการถ่ายเททรัพย์สินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ บช.สอท.รวบรวมหลักฐานขอศาลอาญาอนุมัติออกหมายจับ 54 คน ตามคำร้องของตำรวจข้อหา “ร่วมกันมีส่วนร่วมในองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติ ร่วมกันฉ้อโกงประชาชนและร่วมกันนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์”นโยบาย พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผบ.ตร. ตรวจเข้มคนไทยถูกส่งกลับมาทำให้แก๊งคอลเซ็นเตอร์คนไทยไม่สามารถใช้ช่องคัดแยกเหยื่ออ้างเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์ เพื่อหลุดรอดไม่ให้ต้องถูกดำเนินคดีเพื่อให้ได้รับโทษตามกฎหมาย.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.th คลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม