เป็นอีกความเดือดร้อนของผู้คนในสังคมไทยที่มีโอกาสตกมาเป็นเหยื่อของกลุ่มแก๊งมิจฉาชีพ ใช้กลวิธีการต่างๆเข้ามาหลอกลวงผู้เสียหายหลงเชื่อสูญเสียทรัพย์สินในหลากหลายรูปแบบล่าสุดผู้เสียหายขอความช่วยเหลือตำรวจ กก.3 บก.ป.ว่าถูกกลุ่มแก๊งคนร้ายเข้ามาปลอมแปลงข้อมูลสวมบัตรเครดิตเพื่อนำไปผูกกับแอปพลิเคชันซื้อขายสินค้าออนไลน์ แล้วนำไปรูดซื้อสินค้าที่มีมูลค่าสูงเป็นเงินกว่า 1.2 ล้านบาทพล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่ง พล.ต.ต.วิทยา ศรีประเสริฐภาพ ผบก.ป. จัดชุดสืบสวนขยายผลพบว่า ทำกันเป็นขบวนการแบ่งหน้าที่กันทำชัดเจน ตั้งแต่คนติดต่อเจ้าหน้าที่ธนาคารเปลี่ยนแปลงข้อมูลคนที่มานำข้อมูลของบัตรเครดิตผูกบัญชีแอปพลิเคชันซื้อขายสินค้าออนไลน์ รูดซื้อสินค้า คนที่รับพัสดุปลายทาง กองปราบปรามรวบรวมพยานหลักฐานขออำนาจศาลออกหมายจับผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้อง 3 รายพ.ต.อ.สุริยศักดิ์ จิราวัสน์ ผกก.3 บก.ป. พ.ต.ต.พงศธร รัชตวัชรางกูร สว.กก.3 บก.ป ตามจับผู้ก่อเหตุได้ 2 ราย เหลือ นายนฤมิตร มิ่งมิตร คนทำหน้าที่คอยรับกล่องพัสดุสินค้า ผู้ต้องหารายเดียวหลบหนีเป็นผู้ต้องหาสำคัญเนื่องจากสืบสวนขยายผลพบว่า นายนฤมิตรเคยทำงานอยู่ร่วมกับเครือข่ายแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ทำให้มีความระมัดระวังตัวสูงในการหลบซ่อน ปกปิดที่อยู่ เปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์ตลอด ทำให้ยากต่อการติดตามตัวเจ้าหน้าที่แกะรอยติดตามจับกุมนายนฤมิตรตามหมายจับศาลอาญากรุงเทพใต้ สอบสวนนายนฤมิตรรับสารภาพว่า อยู่ร่วมขบวนการทำหน้าที่เป็นคนรับพัสดุ และเป็นคนโทร.ไปหลอกเจ้าหน้าที่ธนาคารปลอมเป็นผู้เสียหาย รวมถึงยังเป็นคนตัดต่อข้อมูลของกลุ่มผู้เสียหายที่ได้มาส่งให้ธนาคารนายนฤมิตร ผู้ต้องหา ฝากเตือนประชาชนหากมีเบอร์โทร.แปลกโทร.เข้ามา ถ้าไม่จำเป็นไม่ต้องรับสายเพราะอาจตกเป็นเหยื่อของมิจฉาชีพได้.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม