หน่วยพิทักษ์ชายแดน BGF ออกแถลงการณ์ หลังให้ความร่วมมือในการปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์-ขบวนการค้ามนุษย์ ช่วยเหลือเหยื่อได้จำนวนมาก แต่กำลังประสบปัญหา ต้องแบกรับภาระดูแลเหยื่อกว่า 7 พันคน จี้นานาประเทศมารับพลเมืองของตัวเองกลับโดยเร็วที่สุด พร้อมขอความเห็นใจไทย ยกเลิก “มาตรการ 3 ตัด” หลังถูกตัดไฟ-ตัดเน็ต-งดส่งน้ำมันเชื้อเพลิง ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประจำวันของประชาชนผู้บริสุทธิ์ตามแนวชายแดนหลังจากรัฐบาลไทยใช้มาตรการตัดไฟ-ตัดสัญญาณอินเตอร์เน็ต-งดส่งน้ำมันเชื้อเพลิงให้บางพื้นที่ของเมืองเมียวดี และเมืองพญาตองซู ประเทศเมียนมา ซึ่งมีแนวชายแดนติดกับ อ.แม่สอด จ.ตาก และ อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี ตามลำดับ เพื่อกดดันให้ทางการเมียนมาและกองกำลังกะเหรี่ยงที่ดูแลพื้นที่ดังกล่าวร่วมกันปราบปรามแก๊งคอลเซ็นเตอร์และขบวนการค้ามนุษย์ในพื้นที่มาครบเดือน จนสามารถช่วยเหลือพลเมืองของนานาประเทศที่ตกเป็นเหยื่อออกมาได้จำนวนมาก ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวจีนที่ทางการจีนมารับพลเมืองของตัวเองกลับไป ผ่านทางประเทศไทยเป็นที่เรียบร้อยแล้วต่อมาเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 2 มี.ค. มีรายงานจาก อ.แม่สอด จ.ตาก ว่า หน่วยพิทักษ์ชายแดน (รัฐกะเหรี่ยง) BGF ได้ออกแถลงการณ์ ลงวันที่ 1 มี.ค.2568 ที่ผ่านมา เป็นภาษาเมียนมาและภาษาอังกฤษ ระบุว่า กองกำลังพิทักษ์ชายแดน (รัฐกะเหรี่ยง) ได้ออกมาประกาศอย่างเป็นทางการเพื่อให้ความร่วมมือกับรัฐบาลนานาชาติในการปราบปรามกวาดล้างเรื่องต่างๆที่เกิดขึ้นจากผลลัพธ์อันเลวร้ายที่ไม่เคยคาดหวังมาก่อน ซึ่งเป็นผลพวงของกิจการเพื่อการพัฒนาท้องถิ่น แต่ยังมีบางประเทศและสำนักข่าวที่ไร้จรรยาบรรณ รวมทั้งตัวบุคคลบางส่วนทำการเพิกเฉยต่อสภาพความเป็นจริง กล่าวหาผู้นำหน่วยพิทักษ์ชายแดน (รัฐกะเหรี่ยง) เยี่ยงเป็นผู้ต้องหา กล่าวหาโจมตีส่วนบุคคลที่เป็นครอบครัวของผู้นำ ซึ่งเป็นผู้บริสุทธิ์ ทำให้เกิดความเสียหายและเกิดความมัวหมองในแถลงการณ์ระบุอีกว่า สิ่งที่เลวร้ายที่สุดคือมาตรการ 3 ตัด คือตัดกระแสไฟฟ้า ตัดน้ำมันเชื้อเพลิง และตัดสัญญาณสื่อสาร ซึ่งประชาชนพลเมืองเมียนมาต้องอาศัยจากประเทศตรงข้ามในการใช้ชีวิตประจำวัน ทำให้ไฟฟ้าดับ การขาดแคลนเชื้อเพลิง และการหยุดชะงักของการสื่อสารอย่างต่อเนื่อง อย่างไร้จิตมนุษยธรรม ซึ่งเป็นการดำเนินการอันส่งผลกระทบต่อประชาชนผู้บริสุทธิ์โดยตรงหน่วยพิทักษ์ชายแดน (รัฐกะเหรี่ยง) BGF ได้ดำเนินการเอาเรื่องตามคำประกาศของพวกเราอย่างรวดเร็วและแน่นอน ได้บุกตรวจค้นกิจการนอกกฎหมาย ได้จับกุมผู้ต้องหา ได้ช่วยเหลือผู้ตกเป็นเหยื่อการค้ามนุษย์อย่างทุ่มเทเต็มที่ ได้ส่งมอบต่อผู้มีหน้าที่ของฝ่ายรัฐบาลประจำท้องถิ่น จนถึงขณะนี้ต้องให้ความช่วยเหลือด้านการเลี้ยงดู ด้านความปลอดภัย ด้านสุขภาพ ท่ามกลางความยากลำบากต่างๆ แก่ชาวต่างชาติกว่า 7,000 คน จาก 30 กว่าประเทศ และได้เตรียมพร้อมเพื่อส่งมอบคืนแก่ประเทศต้นทางของพวกเขาโดยเร็วที่สุด อย่างไรก็ตาม การตัดกระแสไฟฟ้า การตัดน้ำมันเชื้อเพลิง การตัดระบบการสื่อสารไม่ให้เข้าสู่เมืองเมียวดีของประเทศตรงข้าม ได้ส่งผลทำให้เกิดความยากลำบากในภารกิจการให้การดูแลช่วยเหลือเพื่อมนุษยธรรมแก่พลเมืองชาวต่างชาติเหล่านั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ดังนั้น จึงใคร่อยากขอร้องไปยังประเทศต่างๆ ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทั่วทุกมุมโลก อยากขอให้ท่านรีบดำเนินการมารับพลเมืองของท่านโดยเร็วที่สุด พร้อมกันนั้น อยากขอให้ยกเลิกการปิดกั้นตัดขาดอย่างไร้มนุษยธรรม ซึ่งได้ส่งผลกระทบต่อคุณภาพชีวิตประจำวัน ของประชาชนผู้บริสุทธิ์ ที่อยู่ท้องถิ่นชายแดนประเทศเมียนมา ในส่วนของหน่วยพิทักษ์ชายแดน (รัฐกะเหรี่ยง) ขอประกาศให้ทราบอีกครั้งว่า พร้อมจะร่วมมือกับรัฐบาลและนานาชาติ เพื่อการแก้ไขการกระทำต่างๆ ที่เป็นกิจการในการหลอกลวงอย่างผิดกฎหมาย และกิจการที่เป็นการค้ามนุษย์ พร้อมลงชื่อคณะที่ปรึกษาและฝ่ายควบคุมส่วนกลาง หน่วยพิทักษ์ชายแดน BGF (รัฐกะเหรี่ยง) เมืองเมียวดี รัฐกะเหรี่ยงอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่