ดร.พีระพันธ์ เหมะรัต เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมสวัสดิการและสวัสดิภาพครูและบุคลากรทางการศึกษา (สกสค.) เปิดเผยว่า ตามที่ สกสค.ได้เดินหน้าแก้ไขปัญหาหนี้สินของครูและบุคลากรทางการศึกษาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเริ่มตั้งแต่เมื่อ 1 มี.ค.2567 ปรากฏว่ามีครูและบุคลากรทางการศึกษาที่กู้เงินโครงการสวัสดิการเงินกู้การฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษา (ช.พ.ค.) และการฌาปนกิจสงเคราะห์ช่วยเพื่อนครูและบุคลากรทางการศึกษากรณีคู่สมรสถึงแก่กรรม (ช.พ.ส.) อยู่จำนวน 334,795 บัญชี เป็นยอดเงินรวมทั้งสิ้น 273,838 ล้านบาท โดยมีการประชุมและได้รับความร่วมมือจากธนาคารออมสินช่วยประสานงานกับบริษัทประกันภัย เพื่อลดอัตราค่าเบี้ยประกัน โดยการไม่บังคับทำประกันแต่ให้เป็นไปโดยความสมัครใจตามเงื่อนไขของธนาคารเลขาธิการ สกสค. กล่าวอีกว่า ธนาคารออมสินลดดอกเบี้ยเงินกู้ให้กับสมาชิกโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.-ช.พ.ส. เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อน ลดภาระค่าครองชีพแก่ครูและบุคลากรทางการศึกษา สมาชิกโครงการสวัสดิการเงินกู้ ช.พ.ค.- ช.พ.ส. และสินเชื่อโครงการเกื้อกูลผู้ประกอบวิชาชีพทางการศึกษา ระหว่างวันที่ 1 ก.ค.-31 ธ.ค.2567 เป็นระยะเวลา 6 เดือน ซึ่งมีครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับความช่วยเหลือในครั้งนี้ 230,000 ราย ช่วยลดภาระ ดอกเบี้ยรวมปีละ 1,600 ล้านบาท นอกจากนี้ สกสค.เปิดให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่ได้รับความเดือดร้อนลงทะเบียนอิเล็กทรอนิกส์แสดงความจำนงขอเข้าร่วมโครงการแก้ไขปัญหาหนี้สิน และได้ส่งข้อมูลให้ธนาคารออมสินพิจารณาให้ความช่วยเหลือ ซึ่งธนาคารออมสินได้แจ้งผลการพิจารณาให้ทราบว่าได้แก้ไขสำเร็จไปแล้วทั้งสิ้น 8,868 ราย คิดเป็นมูลค่าความช่วยเหลือรวมประมาณ 14,917 ล้านบาท ทั้งนี้ในการแก้ไขปัญหาหนี้สินครู สกสค. และธนาคารออมสินยังเห็นร่วมกันว่าครูที่เข้าโครงการปรับโครงสร้างหนี้ และไม่ขาดการชำระหนี้จะได้รับสิทธิพิเศษด้วยการปรับดอกเบี้ยชำระหนี้เหลือ 0% ในอัตราคงที่เป็นระยะเวลา 1 ปีด้วย.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่