ย้ายด่วนครูชายวิตถารแต่งตัว ประหลาด สวมหน้ากากแบทแมน เปลือยท่อนล่างในห้องเรียน โพสต์ภาพคลิปโชว์ว่อนโซเชียล ทำครู ผู้ปกครองผวากลัวลูกหลานไม่ปลอดภัย จี้สอบเอาผิดถึง ผอ.หลังพบพฤติกรรมปกป้อง พูดขู่ครูและนักเรียนหน้าเสาธงห้ามนำเรื่องฉาวในโรงเรียนไปร้องเรียน สนง.เขตพื้นที่การศึกษาตั้งกรรมการสอบพบมีมูลจริงสั่งเด้งทั้งคู่เข้ากรุทันที ด้านคุรุสภาบี้สอบจรรยาบรรณซ้ำ หากผิดเจอเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครูร้องเอาผิดครูชายวิตถารแต่งตัวประหลาดสวมหน้ากากแบทแมน โซ่คล้องคอ แก้ผ้า นำสิ่งของบางอย่างมาห้อยตรงอวัยวะเพศ เปิดเผยเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 24 ก.พ. ที่กระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือกัน จอมพลัง พร้อมทีมงานช่วยเหลือเด็ก สตรี และผู้ยากไร้ เข้าพบ พล.ต.อ.เพิ่มพูน ชิดชอบ รมว.ศึกษาธิการ เพื่อร้องเรียนให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีผู้ปกครองนักเรียนโรงเรียนประถมศึกษาแห่งหนึ่งในพื้นที่ อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี พบครูชายมีพฤติกรรมประหลาดถ่ายคลิปวิตถารในห้องเรียนและสถานที่ต่างๆในโรงเรียนลงโซเซียล ในภาพเห็นครูใส่หน้ากากแบทแมนแล้วแก้ผ้ามีโซ่คล้องคอแถมมีอะไรห้อยอยู่ตรงอวัยวะเพศ อีกทั้งมีภาพแก้ผ้าในห้องเรียน และคลิปวิดีโอเป็นจำนวนมาก ขณะที่ผู้อำนวยการโรงเรียนดังกล่าวกลับออกมาพูดชี้แจงหน้าเสาธงกับครูและนักเรียนทุกคนว่าไม่ให้เอาเรื่อง และพูดขู่อีกว่ามีนักเรียนเอาเรื่องไปแจ้งกัน จอมพลัง ให้รอรับผลตามมาให้ดี ถ้าเอาเรื่องไปบอกต่อก็ระวังนักข่าวจะไปถามพ่อแม่ และจะสร้างความวุ่นวายให้กับโรงเรียนทั้งนี้ นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (กพฐ.) เป็นผู้รับเรื่องดังกล่าวแทน รมว.ศึกษาธิการ โดนนายกัณฐัศว์ หรือ กัน จอมพลัง กล่าวว่า เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งนักเรียนครูและผู้ปกครองเกิดความไม่สบายใจมาขอให้ตนช่วยเหลือ จากการตรวจสอบพบภาพชายแต่งกายคล้ายครูถอดเสื้อผ้าเป็นชุดข้าราชการเหลือแต่กางเกงใน อีกทั้งยังมีภาพใส่หน้ากากซุปเปอร์ฮีโร่ ท่อนล่างล่อนจ้อนไม่สวมใส่เสื้อผ้า ถ่ายคลิปเดินสี่ขาน้องชายเด้งไปเด้งมาริมทางเดินภายในอาคารของโรงเรียน บุคคลดังกล่าวถ่ายโพสต์ภาพและคลิปลงในโซเชียล ดังนั้นผู้ปกครองและนักเรียนห่วงเรื่องที่เกิดขึ้น เนื่องจากผู้อำนวยการโรงเรียนสั่งห้ามไม่ให้ใครในโรงเรียนไปพูดหรือร้องเรียนถึงกรณีที่เกิดขึ้น ตนเห็นว่าไม่ถูกต้องหากนักเรียนไปพบเจอพฤติกรรมของบุคคลดังกล่าวจะทำอย่างไร เพียงเพราะแค่ห่วงชื่อเสียงของโรงเรียน ตนมีคลิปและรูปภาพหลักฐานบุคคลดังกล่าวครบหมดทุกอย่าง อยากถามว่า ศธ.จะปล่อยบุคคลลักษณะแบบนี้มาสอนอยู่ในโรงเรียนอีกหรือไม่ เพราะบุคลากรในโรงเรียนทั้งครูและนักเรียนกลัวความไม่ปลอดภัยนายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาฯ กพฐ. กล่าวว่า ขณะนี้เขตพื้นที่การศึกษาสั่งย้ายครูออกจากโรงเรียนดังกล่าวแล้วและตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงถึงเรื่องที่เกิดขึ้น จะตรวจสอบข้อเท็จจริงอย่างรอบด้าน พร้อมให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย รวมถึงจะตรวจสอบไปถึงผู้อำนวยการโรงเรียนด้วยว่ามีความบกพร่องในเชิงบริหารงานหรือไม่ เรายึดความปลอดภัยของผู้เรียนเป็นสำคัญ นอกจากนี้จะประสานคุรุสภาดูเรื่องใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู หากประเด็นนี้ตรวจสอบแล้วเป็นเรื่องส่วนตัวก็จะมีบทลงโทษของการเป็นเรื่องส่วนตัว แต่หากพบเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเด็กนักเรียนก็ต้องเจอโทษสูงสุด ดังนั้นกรณีนี้ขอตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนด้านนายพลรพี ทุมมาพันธ์ รองเลขาธิการคุรุสภา เปิดเผยว่า คุรุสภารับทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว จะนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาจรรยาบรรณวิชาชีพครู หากพบว่าการสอบสวนครูมีประพฤติผิดจรรยาบรรณในวิชาชีพ จะเพิกถอนใบอนุญาตประกอบวิชาชีพครู การประพฤติผิดดังกล่าวต้องไปตรวจสอบดูว่าประพฤติผิดจรรยาบรรณในข้อใด ทั้งนี้ เรื่องของจรรยาบรรณมีผลครอบคลุมอย่างมาก คือการกระทำผิดจรรยาบรรณในเรื่องการเป็นแบบอย่างที่ดีของผู้ประกอบวิชาชีพที่ จ.อุทัยธานี วันเดียวกัน นายชาดา ไทยเศรษฐ์ สส.อุทัยธานี เขต 2 พร้อมนายวานนท์ นนทวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานี-ชัยนาท เดินทางไปที่โรงเรียนดังกล่าวตั้งอยู่ใน อ.หนองฉาง เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องที่เกิดขึ้นและสร้างความมั่นใจเรื่องความปลอดภัยให้กับนักเรียนครูและผู้ปกครองที่ร้องเรียนพฤติกรรมครูชายคนดังกล่าว มีการพูดคุยให้กำลังใจครู รวมถึงเรียกประชุมนักเรียนในโรงเรียนกว่า 300 คน พร้อมเปิดโอกาสให้นักเรียนเล่าถึงเรื่องราวดังกล่าว แต่ไม่มีนักเรียนคนใดกล้าพูดถึงพฤติกรรมครูชายที่ก่อเหตุ นายชาดาได้ชี้แจงกับเด็กนักเรียนว่าไม่ต้องกังวล เพราะขณะนี้ผู้อำนวยการโรงเรียนและครูคนดังกล่าวถูกคำสั่งย้าย ห้ามไม่ให้กลับเข้ามาในโรงเรียนอีกนายชาดาเปิดเผยว่า หลังทราบเรื่องรีบลงพื้นที่ดำเนินการในเรื่องนี้ทันที ตอนนี้มีการให้ ผอ.และครูรายนี้ไปปฏิบัติหน้าที่ที่สำนักงานเขตแล้ว เนื่องจากพบครูชายรายนี้มีพฤติกรรมตามที่เป็นข่าวจริงและพบอีกว่ามีการขอถุงเท้า ขอชุดชั้นในนักเรียนชายด้วย เรื่องนี้ได้พูดคุยชี้แจงนักเรียนทั้งโรงเรียนแล้วว่า ให้สบายใจได้ไม่ต้องกังวลว่าจะไม่ได้รับความยุติธรรมหรือไม่ได้รับความปลอดภัย ตนประกาศสั่งห้ามไม่ให้ครูรายนี้เข้าโรงเรียนอีกเด็ดขาด หากผู้ปกครองหรือนักเรียนรายใดที่เห็นครูรายนี้ไปบ้านให้แจ้งกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกเทศมนตรีในพื้นที่ได้ทันที“มองว่าเรื่องแบบนี้ไม่ควรปล่อยผ่านอย่างเด็ดขาด ควรที่จะได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ไม่ควรมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนใดอีก พฤติกรรมเช่นนี้ไม่สมควรที่จะได้เป็นครูอีกแล้ว ไม่ควรทำให้ชุดข้าราชการครูเสื่อมเสียแบบนี้ ตอนนี้สั่งการให้ทุกโรงเรียนในจังหวัดตรวจสอบเรื่องนี้ เพราะจะไม่ยอมให้มีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นในโรงเรียนของจังหวัดอุทัยธานีอีกเด็ดขาด” นายชาดากล่าวขณะที่นายวานนท์ นนทวงค์ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาอุทัยธานี-ชัยนาท เปิดเผยว่า ได้ตั้งกรรมการสอบสวนข้อเท็จจริง เพื่อดำเนินการทางวินัยต่อไป พร้อมสั่งให้ครูที่ก่อเหตุมาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ไม่ให้ครูอยู่ในพื้นที่ ส่วนผู้อำนวยการโรงเรียนก็เช่นกันถูกสั่งให้มาช่วยราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเช่นกัน เพราะมีพฤติกรรมที่ให้การช่วยเหลือหรือปกปิดข้อมูล ตอนนี้ให้ทั้งสองคนย้ายออกไปจากโรงเรียนไปเลย ส่วนเรื่องการสอบสวนถึงสาเหตุของการกระทำดังกล่าวยังอยู่ในขั้นตอนสอบสวนอ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่