ในหนังสือ “ปากพูดหูเพี้ยน” (เพชรประกาย พิมพ์ พ.ศ.2553) สังคีต จันทนะโพธิ ให้ความรู้เรื่องของ “ไม้เท้า” ไว้สองตอน ถ้าไม่อ่านตอนที่สอง ผมคงไม่รู้ที่เรียกๆ “ไม้เท้า” นั้น คนละอันกับไม้ตะพดคุณสังคีตเกริ่นนำเรื่องไม้เท้า หมายถึงไม้ที่ผู้สูงอายุหรือคนพิการใช้ค้ำพยุงร่างกาย เพื่อควบคุมการทรงตัวเดิมทีเรียกว่า “ไม้-สักกะเท้า”ไทยดำในเวียดนามเชื้อสายคนไทยในจีน ภาษาไทยดำหรือไทยเดิมบางคำอาจฟังแปลกประหลาด เช่น “ถ้ำทับเถ้า” คำนี้หมายถึงภายในถ้ำมีขี้เถ้าเป็นกองไหลออกมาคนภาคกลางเรียกถ้ำทับเถ้า แต่คนล้านนาพูดตัว ถ เป็นตัว ต และ ตัว ร เป็น ตัว ฮ เสื่อเรียกสาด พัดใช้เป็นวีถ้ำขุนตานเดิมเรียก “ขุนธาร” เมื่อคนล้านนาพูดขุนธารเป็นขุนตาล แต่สะกดเป็น “ขุนตาน” มาจนทุกวันนี้ล้านนาภูมิประเทศเป็นขุนเขามากกว่าพื้นราบ การเดินขึ้นเนินและภูเขามักจะลื่นไหลล้ม คนล้านนาจึงใช้ไม้ขนาดพลองลูกเสือ ความยาวตามความสูงของผู้ถือ เสี้ยมปลายไม้ให้แหลมเวลาเดินขึ้นเนินดิน เนินเขา ก็ใช้ไม้แทงลงดิน เรียกว่า “สัก” แล้วโหนตัวหรือดึงเหนี่ยวตัวขึ้นไปแล้วก็สักไม้ต่อไปจนกว่าจะพ้นที่ลื่นไถลล้ม ไม้นี้เรียกว่า ไม้กันลื่นล้ม คำเมืองล้านนาเรียกคำล้มว่า “ต้าว” ไม้สักเป็นคำกริยาหมายถึงแทงในดิน กัน (ป้องกัน) ต้าว (ล้ม) เรียกกันเต็มๆว่า ไม้สักกันต้าวเพี้ยนกันไปจนเป็น “ไม้สักกะเท้า” และที่สุด ก็เป็น “ไม้เท้า”ในรามเกียรติ์ไม้เท้าของพระนารทฤาษีมีฤทธิ์มาก ตอนถูกหนุมานไปลองดี พระนารทฤาษีเสกไม้เท้าเป็นปลิงเกาะคางหนุมาน หนุมานแกะเท่าไหร่ก็ไม่หลุด ดิ้นจนหมดฤทธิ์ยอมแพ้ไม้เท้าหลวงพ่อแช่ม วัดฉลอง ภูเก็ต ขลังมาก เรื่องเล่ามีว่า สาวน้อยคนหนึ่งปวดท้องมาก กินยาอะไรก็ไม่หาย หลุดปากบนปิดทองของลับหลวงพ่อ แต่พอหายแล้วอายไม่แก้บนไม่ช้าก็ปวดอีกเมื่อพ่อแม่รู้ก็พาไปหาหลวงพ่อ หลวงพ่อต้องใช้ไม้เท้าสอดใต้ขานั่งทับไว้ แล้วก็ให้เด็กสาวปิดทองที่ปลายไม้เท้า...จึงหายปวดท้อง สิ้นเคราะห์ไปได้ความเชื่อของคนจีนโบราณ ไม้เท้าของบิดาที่ตายเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ถือติดตัวป้องกันภัยได้ พงศาวดารจีนเล่าว่าเมื่อซินซกโปตาย ซินฮวยเง็ก บุตรชาย นุ่งขาวถือไม้เท้าพ่อออกรบจึงเอาชนะมีดวิเศษของศัตรูประเพณีจีน กำหนดอายุผู้มีสิทธิ์ถือไม้เท้าไว้ดังนี้ อายุ 50 ปี ถือไม้เท้าได้ในบ้าน อายุ 60 ปี ถือไม้เท้าได้ในตำบล อายุ 70 ปี ถือไม้เท้าได้ในเมือง จนเมื่ออายุ 80 ปี มีสิทธิ์ถือไม้เท้าเข้าพระราชฐาน“ซิ่ว” หนึ่งในสามของ ฮก ลก ซิ่ว เทวดาจีน ตอนเป็นมนุษย์ อายุ 800 ปี ตามรูปจึงถือไม้เท้าหัวมังกรในหนังจีนชุด ขุนศึกตระกูล หยาง คุณย่าของตระกูลถือไม้เท้าหัวมังกร เรียกนายกกังฉินมาตีได้เต็มไม้เต็มมือในนิทานกรีกก็มีเรื่องเล่าของไม้เท้า...เล่ากันว่า สฟิงซ์สัตว์ประหลาด ตัวใหญ่ ชอบตั้งปัญหาถามคนเดินทางผ่านเข้าเมือง “สัตว์อะไร? เดินสี่ขาตอนเช้า เดินสองขาตอนเที่ยงและเดินสามขาตอนเย็น”ใครตอบไม่ได้ สฟิงซ์ตะครุบเข้าปากกินไปนับไม่ถ้วนแต่เมื่อชายหนุ่มชื่อโอดิปุสตอบว่า...สัตว์ที่ว่าก็มนุษย์นี่ล่ะ!ตอนเป็นทารกคลานสี่ขา (สองมือสองเท้า) ตอนโตเดินสองขาพอถึงตอนแก่ก็ยักแย่ยักยันเดินไม่ไหวต้องใช้ไม้เท้าเท่ากับเดินสามขาเอาชนะสฟิงซ์ผ่านเข้าเมืองได้ ชายหนุ่มโอดิปุสผู้รู้ความลับว่าคนแก่มีสามขา จึงขึ้นชั้นเป็นพระเอกของเรื่อง ไต่เต้าเป็นเจ้าเมืองได้ แถมได้เมียสวยอีกคนผมอายุ 80 ปี อ่านเรื่องของคุณสังคีตแล้ว ติดใจไม้เท้าหัวมังกรครับ เสียดายถ้าได้เกิดเมืองจีนจะลองหาโอกาสตีนายกที่เล่นบทไม่ได้ดังใจดูสักที อยากรู้จะมันมือแค่ไหน? ยังไง?กิเลน ประลองเชิงคลิกอ่านคอลัมน์ “ชักธงรบ” เพิ่มเติม