ภูมิใจไทยชิ่งเอาตัวรอด มติเอกฉันท์ไม่ร่วมสังฆกรรมแก้รัฐธรรมนูญ “เสี่ยหนู” อ้างไม่สามารถรับความเสี่ยงทำขัดคำวินิจฉัยศาล รธน. ให้ สส.ไปเซ็นชื่อแต่ไม่เข้าประชุม แจ้งนายกฯแล้ว ย้ำเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค ไม่ใช่เรื่องพรรคร่วมรัฐบาล “ชูศักดิ์” ห่วงมีบางพรรคแตะมือ สว.บอยคอตวอล์กเอาต์ ยันพิจารณาตามวาระได้ ส่วนใครจะยื่นตีความก็ทำคู่ขนานกันไป วิปวุฒิสภาชี้เป็นสิทธิ สว.ที่จะโหวต สว.โอดครวญกล่าวหารับงาน ทีมกฎหมายวุฒิยันต้องทำประชามติ 3 ครั้ง “วันนอร์” เฉ่งยับ “บิ๊กโจ๊ก” อัดคลิปไว้แล้วเอามาปล่อย “เสียมารยาทลูกผู้ชาย” “เท้ง” สอบคลิปหลุดตรงไปตรงมา เย้ยนายกฯชิงปรับ ครม.ก็หนีซักฟอกไม่พ้น โปรดเกล้าฯ “สุชาติ” ประธาน ป.ป.ช.พรรคภูมิใจไทยเอาตัวรอด มติเอกฉันท์ไม่ร่วมสังฆกรรมพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในวันที่ 13-14 ก.พ. อ้างไม่อยากทำผิดรัฐธรรมนูญ ขัดต่อคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ยืนยันแจ้งเจตนารมณ์ให้นายกฯทราบแล้ว เป็นเรื่องของฝ่ายนิติบัญญัติล้วนๆภท.เอกฉันท์ไม่สังฆกรรมแก้ รธน.เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 12 ก.พ.ที่พรรคภูมิใจไทย (ภท.) มีการประชุม สส.พรรคเพื่อพิจารณาท่าทีการเข้าร่วมประชุมรัฐสภาเพื่อพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 ในวันที่ 13-14 ก.พ. นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.มหาดไทย หัวหน้าพรรค ภท. ให้สัมภาษณ์หลังประชุมว่า ที่ประชุมมีมติเอกฉันท์ ไม่ร่วมพิจารณาการแก้ไขรัฐธรรมนูญ เพราะการบรรจุวาระนี้มีความขัดแย้งกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ ที่กำหนดให้ทำประชามติก่อน เห็นว่ามีความสุ่มเสี่ยง พรรค ภท.ไม่สามารถรับความเสี่ยงนั้นได้ เมื่อถามว่าจะไม่เข้าร่วมประชุมเลยใช่หรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไปร่วมประชุมเซ็นชื่อเข้าประชุม แต่ไม่ร่วมพิจารณาในวาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ต้องแจ้งประธานรัฐสภารับทราบถึงแนวทางปฏิบัติของเรา เรื่องนี้ไม่ได้คุยกับแกนนำพรรครัฐบาล เป็นเรื่องของแต่ละพรรค การเมือง ไม่ได้ผ่านมติ ครม. ไม่มีมติพรรคร่วมรัฐบาล รวมถึงไม่มีการหารือกัน ถือเป็นเอกสิทธิ์ของแต่ละพรรค เป็นเรื่องของสภาล้วนๆ ไม่เกี่ยวข้องกับรัฐบาลไม่ขอเสี่ยงทำผิด ก.ม.-รัฐธรรมนูญผู้สื่อข่าวถามว่ากลัวถูกมองว่าขวางการแก้ไขรัฐธรรมนูญหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ไม่ได้ขวางการแก้รัฐธรรมนูญ แต่ต้องการแก้รัฐธรรมนูญให้ถูกต้องตามบทบัญญัติ ไม่ต้องการทำผิดกฎหมาย เป็นพรรคการเมืองทำผิดกฎหมายไม่ได้ ในพรรคมีทีมกฎหมาย ทุกคนในที่ประชุมให้ความเห็นตรงกันหมดว่าเสี่ยงไม่ได้ เพราะขัดต่อรัฐธรรมนูญชัดเจน สส.ในพรรคบางคนให้ความเห็นว่าไม่ควรไปเซ็นชื่อในที่ประชุมด้วยซ้ำ แต่ตนเห็นว่าไม่ได้เพราะต้องไปทำงาน ทั้งนี้จะมี สว.คิดแบบพรรค ภท.หรือไม่ ไม่ทราบ แต่นี่คือแนวทางของ ภท.พรรคเดียว จะเป็นแพะหรือเป็นอะไรไม่ได้สนใจตรงนั้น แต่มั่นใจว่าทำในสิ่งที่ถูกต้อง เมื่อถามว่าจะมีปัญหากับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า ต้องแยกระหว่างฝ่ายบริหารกับฝ่ายนิติบัญญัติ ตรงนี้เป็นเรื่องนิติบัญญัติล้วนๆ พรรค ภท.เคยเสนอกฎหมายกัญชาเข้าไปพรรคอื่นก็ไม่เห็นด้วย ไม่โวยวายก็รับสภาพไป และแจ้งให้นายกรัฐมนตรีทราบเรียบร้อยผ่านนายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกฯ เมื่อถามว่าพรรคภูมิใจไทยจะเป็นหัวหอกไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความหรือไม่ นายอนุทินตอบว่า เป็นเรื่องของพรรค ที่ สส.ในพรรคต้องรักษาอนาคตตัวเอง ขอย้ำว่าไม่เกี่ยวข้องกับความเป็นพรรคร่วมรัฐบาล แต่ละพรรคที่เสนอญัตติเข้าไปก็ไม่ได้มาถาม ต่างคนต่างเสนอพท.ห่วงพวกบอยคอตวอล์กเอาต์ขณะที่นายชูศักดิ์ ศิรินิล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย (พท.) กล่าวว่า การประชุมรัฐสภาในวันที่ 13-14 ก.พ. มีข้อห่วงกังวลว่าจะมีการโต้แย้งกันในที่ประชุม ว่าการบรรจุวาระการประชุมนี้ไม่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ จนอาจมีการบอยคอตหรือวอล์กเอาต์โดย สส.บางพรรค หรือ สว.ที่ยืนกรานว่าต้องยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความก่อนว่าต้องทำประชามติก่อนที่รัฐสภาจะพิจารณาแก้ไขหรือไม่ แต่ส่วนตัวเห็นว่ารัฐสภาสามารถพิจารณาวาระดังกล่าวไปได้เลย เพื่อให้กระบวนการนับหนึ่ง จากนั้นยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความสอบถามไปด้วย ตามที่บางฝ่ายรู้สึกไม่สบายใจ แต่หากตั้งแง่ไม่ดำเนินการใดๆเลย ยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความก่อน ก็อาจเกิดปัญหาเช่นเดิม คือเรื่องยังไม่เกิดไม่สามารถวินิจฉัย ความจริงเรื่องนี้ผ่านการพิจารณาจากที่ประชุมที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมายประธานสภาผู้แทนราษฎรแล้ว เสียงข้างมากในที่ประชุมเห็นว่าสามารถบรรจุได้ ดังนั้นเพื่อให้กระบวนการเดินหน้าขับเคลื่อนไป รัฐสภาควรมีการประชุม“จาตุรนต์” บอกดีทำให้ชัดเสียทีนายจาตุรนต์ ฉายแสง สส.บัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย โพสต์เฟซบุ๊กถึงแนวทางการแก้ไขรัฐธรรมนูญระบุว่า การที่ประธานรัฐสภาบรรจุร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 256 โดยไม่รอการทำประชามติ สอดคล้องกับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมาตรา 256 เป็นมาตราว่าด้วยการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ปัจจุบันไม่มีเนื้อหาเกี่ยวกับการร่างใหม่ทั้งฉบับ ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยไว้ว่าหากรัฐสภาต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ ต้องไปทำประชามติเสียก่อน คำถามสำคัญจึงอยู่ที่รัฐสภาต้องการแก้ไขทั้งฉบับหรือยัง ขณะนี้ยังไม่ได้ต้องการแก้ไขทั้งฉบับ จึงไม่มีอำนาจไปบอกให้ กกต.จัดทำประชามติ แต่หากรัฐสภารับหลักการสามารถส่งเรื่องให้ กกต.ทำประชามติได้ ส่วนที่อาจมี สส.เข้าชื่อส่งเรื่องให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยนั้น หากรัฐสภาเห็นชอบให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญ ก็ต้องชะลอการพิจารณาไว้ก่อนจนกว่าศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยมาให้ชัดเจน เป็นเรื่องดีที่จะทำให้หมดข้อสงสัยและมีข้อยุติเรื่องทำประชามติเสียทีวิปวุฒิให้เป็นสิทธิ สว.โหวตแก้ รธน.นายพิสิษฐ์ อภิวัฒนาพงษ์ สว.โฆษกวิปวุฒิสภา กล่าวว่า ในที่ประชุมวิปวุฒิสภาเมื่อวันที่ 11 ก.พ. มีการหารือและแจ้งวาระการประชุมรัฐสภา วันที่ 13-14 ก.พ. วุฒิสภาได้เวลาอภิปรายรวม 6 ชั่วโมง จึงต้องจัดสรรเวลาให้ผู้ที่ต้องการอภิปราย ส่วนทิศทางการพิจารณาแก้ไขรัฐธรรมนูญ ให้เป็นสิทธิของ สว.ตัดสินใจ ส่วนที่ นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว.กลุ่มสีขาว เตรียมยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภาขอให้ส่งศาลรัฐธรรมนูญตีความเกี่ยวกับการแก้ไขรัฐธรรมนูญนั้น ที่ประชุมวิปวุฒิสภาไม่ได้หารือเรื่องดังกล่าว ไม่ทราบว่า ญัตติดังกล่าวได้ยื่นไปแล้วหรือไม่ยังไม่ยื่นญัตติส่งศาล รธน.ตีความนายเศรณี อนิลบล สว. กล่าวถึงกรณี นพ.เปรมศักดิ์ เพียยุระ สว. นำรายชื่อ สว.ยื่นญัตติต่อนายวันมูหะมัด นอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ขอให้รัฐสภามีมติให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยปัญหาหน้าที่และอำนาจของรัฐสภา ในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญว่า เมื่อวันที่ 11 ก.พ. ได้เข้าพบนายวันมูหะมัดนอร์เพื่อหารือถึงกระบวนการยื่นญัตติดังกล่าว แต่ยังไม่มีการยื่นญัตติ ในฐานะ สว.ใหม่หากจะเดินหน้าทำอะไรต้องศึกษาข้อมูลให้รอบด้าน การพูดคุยได้คำตอบในใจแล้ว ส่วนทิศทางจะเป็นอย่างไรต้องหารือกันในกลุ่มอีกครั้ง ขอให้สื่อมวลชนสอบถามความชัดเจนอีกครั้งในวันที่ 13 ก.พ. แม้ไม่ได้ยื่นญัตติต่อประธานรัฐสภาโดยตรง ก็สามารถยื่นต่อที่ประชุมรัฐสภาได้ เป็นการเสนอด้วยจาจา และมีผู้รับรอง 40 คนโอดโดนกล่าวหาว่ารับงานใครมานายเศรณีกล่าวว่า ยืนยันว่าการยื่นญัตติดังกล่าวไม่ได้รับงานใครมา รู้สึกแย่มากที่ถูกมองเช่นนั้น การแก้รัฐธรรมนูญต้องถามความรู้สึกประชาชนส่วนใหญ่ ถ้าต้องการแก้ไขรัฐธรรมนูญจริงควรพิจารณาเป็นรายมาตราหรือเป็นเรื่องๆ สิ่งที่พรรคเพื่อไทย และพรรคประชาชนเสนอเป็นเรื่องเร่งด่วนหรือไม่ แก้แล้วทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น ประชาชนอิ่มท้องหรือไม่ ขณะนี้ปัญหาเร่งด่วนที่ประชาชนอยากให้แก้ คือราคาสินค้าเกษตรตกต่ำ ราคาสินค้า ราคาน้ำมันแพง ทำไมไม่เร่งแก้ก่อน รัฐธรรมนูญฉบับนี้ไม่ดีตรงไหน ถ้าคิดจะแก้ควรไว้หลังจากแก้ปัญหาความเดือดร้อนประชาชนแล้ว ส่วนตัวไม่ถึงกับไม่เห็นด้วยกับการแก้ไขแต่มองว่ายังไม่ถึงเวลาทีม ก.ม.วุฒิให้ทำประชามติ 3 ครั้งผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า สำนักกฎหมาย สำนักงานเลขาธิการวุฒิสภา ได้ทำความเห็นเรื่องร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่...) พ.ศ. ... ที่เสนอแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 การจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ แจ้งต่อนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา ถึงแนวทางการยกร่างรัฐธรรมนูญใหม่ระบุว่า สำนักกฎหมายวุฒิสภาพิจารณาแล้วมีความเห็นต้องออกเสียงประชามติ 3 ครั้ง ประกอบด้วย ครั้งที่ 1 ถามประชาชนก่อนว่าต้องการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ ครั้งที่ 2 ถ้าผ่านครั้งที่ 1 ให้นำร่างรัฐธรรมนูญฉบับที่เสนอแก้มาตรา 256 และเพิ่มหมวด 15/1 เสนอที่ประชุมร่วมรัฐสภา ถ้ารัฐสภาเห็นชอบจึงทำประชามติอีกที ครั้งที่ 3 ถ้าผ่านครั้งที่ 2 แล้วตั้งสภาร่างรัฐธรรมนูญ (ส.ส.ร.) มาร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้ว เสนอต่อรัฐสภาพิจารณา จึงทำประชามติย้ำคำวินิจฉัยศาล รธน.ชัดเจนแล้วสำนักงานกฎหมาย วุฒิสภา ยังอ้างอิงคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 18-22/2555 วันที่ 13 ก.ค.2555 และคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญที่ 4/2564 วันที่ 11 มี.ค.2564 ที่เป็นคำวินิจฉัยกลางระบุว่า “รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ได้ โดยต้องให้ประชาชนผู้มีอำนาจสถาปนารัฐธรรมนูญ ได้ลงประชามติเสียก่อนว่าประชาชนประสงค์จะให้มีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้วต้องให้ประชาชนลงประชามติเห็นชอบหรือไม่กับร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง” คำวินิจฉัยชัดเจนว่าการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ด้วยวิธีการแก้ไขเพิ่มเติมให้มีหมวด 15/1 มีผลเป็นการยกเลิกรัฐธรรมนูญปี 2560 ต้องจัดให้ประชาชนออกเสียงประชามติก่อนว่าสมควรมีรัฐธรรมนูญฉบับใหม่หรือไม่ (ครั้งที่ 1) และเมื่อจัดทำร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่เสร็จแล้วต้องให้ประชาชนลงมติเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบร่างรัฐธรรมนูญฉบับใหม่อีกครั้งหนึ่ง (ครั้งที่ 3) ส่วนการออกเสียงประชามติครั้งที่ 2 เป็นไปโดยบทบัญญัติเฉพาะของรัฐธรรมนูญมาตรา 256 (8) ความเห็นดังกล่าวคาดว่าจะใช้เป็นท่าทีของ สว.ส่วนใหญ่ในการประชุมวันที่ 13-14 ก.พ.นี้สว.สีน้ำเงินเดินเกมชงยื่นตีความผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า มีความเคลื่อนไหว ของ สว.กลุ่มสีน้ำเงิน ตั้งแต่วันที่ 11 ก.พ. พยายามปล่อยประเด็นว่าการพิจารณารัฐธรรมนูญในครั้งนี้ขัดต่อจริยธรรม เตรียมวางเกมในการประชุมรัฐสภาวันที่ 13 ก.พ. ให้ สว.ในกลุ่มเสนอญัตติด่วนว่าควร ส่งเรื่องการแก้ไขรัฐธรรมนูญให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยชี้ขาดประเด็นการทำประชามติก่อนหรือไม่ ถ้าญัตตินี้โหวตแล้วแพ้ สว.จำนวนหนึ่งจะไม่ร่วมสังฆกรรมในการพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญครั้งนี้ เพราะจากการซาวเสียงแล้วมี สว.ไม่ถึง 1 ใน 3 หรือ 67 คน ที่จะสนับสนุนให้แก้รัฐธรรมนูญ ไม่สามารถผ่านด่านขั้นรับหลักการในวาระแรกได้“เท้ง” สอบคลิปหลุดตรงไปตรงมาที่ จ.ปัตตานี นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ ผู้นำฝ่ายค้านและหัวหน้าพรรคประชาชน (ปชน.) กล่าวถึงกรณีมีการปล่อยคลิปเสียงนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา กับนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ผู้ได้รับเลือกจากที่ประชุม ป.ป.ช. ให้เป็นประธานกรรมการ ป.ป.ช. หลุดว่อนอินเตอร์เน็ตว่า ผู้ที่จะชี้แจงได้ดีที่สุดคือนายวันมูหะมัดนอร์ เมื่อถามว่าจะมีการตรวจสอบหรือไม่ เพราะมีผู้มีส่วนได้เสียในการแต่งตั้งประธาน ป.ป.ช. นายณัฐพงษ์ตอบว่า ในฐานะเป็นกรรมการสรรหาองค์กรอิสระด้วย จะดำเนินการตรงไปตรงมา แต่ตอนนี้ยังให้รายละเอียดอะไรมากไม่ได้ เมื่อถามว่าเป็นไปได้หรือไม่ที่จะมีเจตนาเขย่าเก้าอี้ประธานรัฐสภา นายณัฐพงษ์ตอบว่า มีความเป็นไปได้ที่จะมีการต่อรองทางการเมือง ไม่สามารถตอบแทนประธานรัฐสภาได้ แต่การทำหน้าที่ตรงไปตรงมาจะตอบโจทย์ประชาชนมากที่สุด ในฐานะผู้นำฝ่ายค้านจะทำเรื่องนี้ให้ถูกต้องที่สุดเย้ยชิงปรับ ครม.หนีซักฟอกไม่พ้นนายณัฐพงษ์กล่าวถึงข่าวการปรับ ครม. ที่มีกระแสว่า ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรมจะกลับมานั่ง รมว.เกษตรและสหกรณ์ว่า เป็นเรื่องที่รัฐบาลหรือนายกฯต้องตัดสินใจ เมื่อถามว่าหาก ร.อ.ธรรมนัสกลับมานั่งรัฐมนตรีจะติดเงื่อนไขเรื่องจริยธรรมหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า มีโอกาสเป็นไปได้ แต่เรื่องกรอบกลไกการตรวจสอบจริยธรรม ควรเป็นหน้าที่ขององค์กรนั้นๆ เชื่อว่าหากปรับ ครม.แล้วค้านสายตาประชาชน ตอนนั้นเสถียรภาพรัฐบาลก็คงไม่มั่นคง เมื่อถามถึงการชิงปรับ ครม.ก่อนมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ นายณัฐพงษ์ตอบว่า การอภิปรายไม่ไว้วางใจยังคงเดินหน้าต่อได้ นายกฯหนีไม่พ้นอยู่แล้ว เมื่อถามว่าจะนำเรื่องเจ้าหน้าที่ไทยเข้าไปมีส่วนเกี่ยวกับแก๊งจีนเทามาอภิปรายไม่ไว้วางใจหรือไม่ นายณัฐพงษ์ตอบว่า ต้องรอดูยังให้อะไรมากไม่ได้ เรื่องนี้นายกฯต้องเป็นคนที่มีส่วนรับผิดชอบที่สุดคนหนึ่ง การให้ข้อมูลที่โปร่งใสต่อสาธารณะ ต่อประชาชน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ข้อสงสัยที่เราสงสัยกันอยู่ ถ้านายกฯมาตอบชี้แจงด้วยตัวเองจะดีที่สุด“วันนอร์” ฉะ “บิ๊กโจ๊ก” แอบอัดคลิปวันเดียวกัน นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ให้สัมภาษณ์ผ่าน “เนชั่นทีวี” กรณีมีคลิปเผยแพร่ทางสื่อมีการพบปะนายสุชาติ ตระกูลเกษมสุข ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) คนใหม่ เพื่อเจรจายุติเรื่องการล่ารายชื่อประชาชนถอดถอนนายสุชาติออกจากตำแหน่งกรรมการ ป.ป.ช. เนื่องจากมีพฤติการณ์ร่ำรวยผิดปกติ ทุจริตต่อหน้าที่ว่า น่าจะเป็นช่วงหลังปีใหม่ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หักพาล อดีตรอง ผบ.ตร. ติดต่อมาว่าจะขอเข้าพบอวยพรปีใหม่ และคุยเรื่องสมาคมปักษ์ใต้ เรื่องการเมือง เห็นว่าเป็นคนรู้จัก และจะมาคุยเรื่องสมาคมปักษ์ใต้ ในฐานะเป็นคนปักษ์ใต้จึงนัดกัน ครั้งแรกไม่ว่าง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ ขอนัดครั้งที่ 2 มาพบถึงบ้านเกือบ 1 ทุ่มแล้ว แต่นำนายสุชาติมาพบด้วย ยังถามว่าตกลงกันได้แล้วหรือ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์บอกว่ามาขอถอนเรื่องที่เคยให้รัฐสภาส่งเรื่องให้ศาลฎีกาถอดถอนนายสุชาติไว้ เลยบอกว่าดูแล้วเรื่องไม่มีมูล ทาง พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์บอกว่าดีๆ ส่วนนายสุชาติก็นั่งเฉยๆ จากนั้นคุยกันเรื่องอื่น แล้วลากลับ นั่งกันอยู่ 3 คน ไม่รู้ใครอัดเทป ตนและนายสุชาติไม่ได้อัด หน้าตาท่านก็ไม่ได้อยากมาเท่าไร คนที่อัดเทปต้องเป็น พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ซัดเป็นผู้ใหญ่ “ไร้มารยาทลูกผู้ชาย”เมื่อถามว่าได้สอบถามข้อเท็จจริงกับ พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์ หลังมีการเผยแพร่คลิปหรือไม่ นายวันมูหะมัดนอร์ตอบว่า “ไม่รู้จะคุยทำไม คนไม่มีมารยาท ไปคุยก็เสียเวลาเปล่าๆ มันไม่ควรเกิดขึ้น ผู้ใหญ่ไม่ควรประพฤติเช่นนี้ ไม่น่าเสียมารยาทลูกผู้ชายไปอัดเทป พล.ต.อ.สุรเชชษฐ์มาขอพบเพื่ออวยพรปีใหม่ ไม่ได้บอกนัดให้นายสุชาติมาพบ ใช้ไม่ได้ที่มาอัดเทป แล้วตัดคลิปส่งให้สื่อ แบบนี้ไม่ถูกต้อง กรณีการตรวจสอบนายสุชาติ เราตรวจสอบแล้วไม่มีมูลโดยสัตย์จริง ไม่กังวลว่าเรื่องนี้จะกระทบภาพลักษณ์ ตำแหน่งประธานสภา ที่ผ่านมามีคนมาพบจำนวนมาก เป็นนักการเมือง 40 กว่าปี รู้จักคนเยอะ การมาพบไม่เกี่ยวกับเรื่องทุจริตประพฤติมิชอบ ตรวจสอบ ประเด็นนี้อย่างเข้มข้น ฝ่ายกฎหมายตรวจสอบทุกเรื่อง ได้ข้อสรุปว่าเป็นเรื่องเก่าที่ร้องใน ป.ป.ช. ไม่มีมูลพอจะส่งศาลฎีกา”อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่