ในสุนทรพจน์แรกของการกลับคืนสู่บัลลังก์ผู้นำสหรัฐอเมริกาวาระที่ 2 อย่างเป็นทางการ นายโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศวิสัยทัศน์และนโยบายสำคัญนำประเทศให้กลับมายิ่งใหญ่ เกรียงไกร เป็น “ยุคทองของอเมริกา”ในระหว่างสุนทรพจน์ยาว 30 นาที ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ลำดับที่ 47 สัญญาว่าจะมี “การเปลี่ยนแปลง” อเมริกาจะกลับคืนสู่สถานะประเทศทรงอิทธิพลมากที่สุด เป็นที่เคารพนับถือมากที่สุด สร้างความเกรงขามและชื่นชมให้กับคนทั้งโลก ขณะที่ย้ำถึงความตั้งใจอย่างจริงจังที่จะเปลี่ยนชื่อ “อ่าวเม็กซิโก” เป็น “อ่าวอเมริกา” ตามใจฉันหลังจากเคยเสนอไอเดียนี้มาตั้งแต่ช่วงต้นเดือน ม.ค.ที่ผ่านมา ให้เหตุผลว่าเป็นชื่อที่ไพเราะเสนาะหู และเหมาะสมด้วยประการทั้งปวง กระทั่งนางคลอเดีย เชนบาม ประธานาธิบดีเม็กซิโก สวนคืนทันทีทันใดโดยแนะให้เรียกอเมริกาเหนือเป็น “América Mexi cana” หรือ “Mexican America” เม็กซิกัน อเมริกาน่าจะเหมาะสมกว่าส่วนจะทำได้หรือไม่และมีนานาชาติรับรองหรือไม่นั้น ปัจจุบันยังไม่มีข้อตกลงหรือพิธีสารระหว่างประเทศอย่างเป็นทางการสำหรับการตั้งชื่อพื้นที่ทางทะเล เช่นเดียวกับยังไม่มีหน่วยงานระหว่างประเทศใดมีอำนาจตัดสินใจขั้นสุดท้ายในประเด็นดังกล่าว แม้ว่าสำนักงานอุทกศาสตร์ระหว่างประเทศ จะพยายามสร้างมาตรฐานและแก้ไขข้อพิพาทก็ตาม ดังนั้นในทางทฤษฎีสหรัฐฯสามารถเปลี่ยนชื่ออ่าวเม็กซิโกในเอกสารทางการภายในประเทศได้แต่ประเทศ อื่นๆไม่จำเป็นต้องทำตามที่ผ่านมาเคยมีประเด็นพิพาทไม่ลงรอยเรื่องชื่อของน่านน้ำระหว่างประเทศ อย่างเช่น น่านน้ำที่แยกอิหร่านออกจากซาอุดี อาระเบีย ซึ่งอิหร่านเรียกว่า “อ่าวเปอร์เซีย” ส่วนซาอุดีอาระเบียเรียก “อ่าวอาหรับ” ขณะที่เกาหลีใต้เดินสายล็อบบี้ให้เรียกน่านน้ำระหว่างคาบสมุทรเกาหลีและหมู่เกาะญี่ปุ่นว่า “ทะเลตะวันออก” แทน “ทะเลญี่ปุ่น”.อมรดา พงศ์อุทัยคลิกอ่านคอลัมน์ “หน้าต่างโลก” เพิ่มเติม