ขึ้นชื่อว่าเป็นคนยุคอนาล็อก แต่ นก จริยา แอนโฟเน่ นักแสดงรุ่นใหญ่-ผู้จัดละครคนดัง ไม่ยอมตกขบวน กลับนึกสนุกลุยทำรายการ “เม้าท์เขย่าเตียง” ทางช่องยูทูบ แถมแพ็กคู่ จอนนี่ แอนโฟเน่ สามี นั่งแท่นพิธีกรคู่กันครั้งแรก เชื่อไม่มีใครแก่เกินไปที่จะเรียนรู้แถมทำให้ความสัมพันธ์กระชับแน่นขึ้นนกเผยว่า “จริงๆแล้วเราเป็นคนชอบดูรายการ หรือสิ่งที่อยู่ในออนไลน์สักพักแล้ว ลูกๆมาเปิดโลก ดูอันนี้สิ เลยกลายเป็นความรู้สึกสนุกกับสิ่งเหล่านี้และเจอเสน่ห์ของออนไลน์ในความเรียลๆ เสนอได้หลายๆมุมมองมากกว่าทีวีปกติ จังหวะทีวีชะลอบทบาทลงเลยรู้สึกว่าเวลานี้แหละที่เราจะมาเรียนรู้เปิดโลกอีกแบบนึง ไม่อยากอยู่กับแก่แล้วอยู่กับความรู้ใบเดิมมากกว่าเกินไป นกคิดว่าไม่มีใครแก่เกินไปที่จะเรียนรู้ นกเลยคุยกับน้องปุ้ยที่รู้จักว่าพี่อยากทำรายการที่เกี่ยวกับชีวิตคู่ พูดได้ทุกสิ่งทุกอย่างในออนไลน์ไม่ต้องมีกรอบการคุย เลยปรึกษาน้องๆ หากระบวนการทำงานกัน พอเป็นเรื่องราวชีวิตคู่ก็เลยไปคุยกับพี่จอน (จอนนี่ แอนโฟเน่) เราทำรายการด้วยกันมั้ย”พี่จอนนี่กล่อมยากมั้ย“เค้าบอกไม่ได้สมัครใจมาทำแต่ถูกบังคับ (หัวเราะ) จริงๆแล้วประสบการณ์ใช้ชีวิตคู่ของเราหลาย 10 ปี มันมีทุกมุม แต่เราผ่านมาได้ นกมีความรู้สึกว่าชีวิตตอนนี้มันเปราะบางในการใช้ชีวิตคู่ ถ้าเกิดว่าได้แชร์มุมที่เราเรียนรู้มาออกไป เผื่อจะมีประโยชน์กับคนที่กำลังมีชีวิตคู่”ทำรายการพิธีกรคู่พี่จอนนี่เป็นยังไงบ้าง“ครั้งแรกก็เกือบไม่รอด มานั่งทำพิธีกรด้วยกันก็มานั่งเขย่ากันอีก เดี๋ยวเธอแบบนี้นะ ทั้งหมดไม่ใช่การปั้นแต่งออกไป ให้มันเรียลๆ เป็นชีวิตจริง”พอได้ทำรายการแบบนี้ทำให้พี่นกได้ปลดล็อกด้วย“มีนะ วันที่เราถ่ายรายการวันแรกด้วยกัน มีบางมุมหลายคำตอบ และหลายคำพูดที่เรากลับไปคุยกัน เออ เราต้อง วันนี้เราดีนะทำรายการด้วยกัน ด้วยความที่เราทำงานและใช้ชีวิตคนละมุมมาตลอดแต่ตอนนี้เหมือนเราต้องหาอะไรมาทำร่วมกันอีกนิดเพื่อใช้เวลาอยู่ด้วยกัน มันมีสะกิดให้เราเอ๊ะอะ ซึ่งพี่ว่าดีนะ”เหมือนตอนเป็นวัยรุ่นที่จีบกันใหม่ๆ“โอ๊ยๆๆๆ ไม่เลยค่ะ แต่เราเหมือนเพื่อนสนิทกันแล้ว แต่บางครั้งเรามีกำแพงบางอย่างที่บางเรื่องเราไม่ได้คุยกับเขาทั้งหมด พอเริ่มกลับมาคลุกคลีกันในพื้นที่ตรงนี้ มันดันมองหน้ากัน เราเหลือกันแค่นี้แล้วนะ”หลังทำรายการด้วยกันคนได้เห็นมุมน่ารักๆ“ขอบคุณที่เรียกว่าความน่ารัก (หัวเราะ) ความผัวเมียก็มีมุมหยุมๆ จริงๆมันเป็นเรื่องจริง เพราะชีวิตคู่ของพี่ก็ผ่านมาทุกรสชาติ ตอนนี้สงสารเค้าแล้ว เขาบอกว่าไปไหนคนรู้ไส้รู้พุงเค้าไปหมดแล้ว เล่ากันสนุกพอประมาณ แชร์ๆสิ่งที่เราผ่านมาได้ไม่ใช่แค่ปัญหานั้นนะ หนึ่งเราเอาความดีกับความไม่ดีของเขามาเวทกัน สรุปแล้วเขาเป็นพ่อที่ดี เป็นพ่อที่รักลูก เป็นสามีที่ดูแลดีแม้กระทั่งครอบครัวของพี่ เวลาเราเดือดร้อนอะไรเขาเข้ามาซัพพอร์ตเราทุกๆเรื่อง พี่ว่าคนเราไม่มีใครสมบูรณ์ 100% แม้กระทั่งตัวพี่เองยังขับรถชนเค้าเกือบตาย ฉะนั้นอะไรที่เราอภัยได้ มองข้ามได้ ไม่ต้องเก็บมากรี๊ดๆ ทุกปัญหา ยิ่งแก่ขนาดนี้เวลายิ่งมีคุณค่า มีแต่นับถอยหลัง”ตอนนี้เจมส์ลูกชายพี่นกเป็นหนุ่มฮอตในโซเชียลไปแล้ว“เราเป็นพ่อแม่รู้สึกดีใจที่มีคนเอ็นดูลูกเรา เป็นสิ่งที่เขาตั้งใจทำ และมายด์เซตนี้เขาตั้งใจดีเพราะเขาเป็นคนสมาธิสั้น เขาผ่านจุดที่เรียกว่าซึมเศร้า โดยที่พ่อแม่ไม่ทันสังเกต เขาต่อสู้กับความคาดหวัง จนเขามาวิเคราะห์เขาจะหลุดพ้นจากสิ่งนี้ด้วยวิธีไหน หลุดออกมาได้เขาก็เอามาแชร์ กลายเป็นเด็กวัยรุ่นหรือผู้ใหญ่ที่เอ็นดูเค้าเข้ามาชอบ ชื่นชม ชอบจังเลย จะให้ลูกดูด้วยได้เห็นพี่เจมส์เล่าในมุมนี้”มารู้ว่าเจมส์เป็นซึมเศร้าตอนไหน“น้องมาพูดทีหลัง ขนาดเราว่าประกบใกล้ชิดแล้วนะแต่ซึมเศร้าสมัยนี้ไม่ได้เกิดจากเราเลี้ยงดูไม่ดี แต่มันเกิดจากความกดดันจากตัวเขาเอง ด้วยความเขาเป็นลูกดารา คนเห็นเค้าจะต้องถามทำอะไรอยู่ พ่อแม่ยูเก่งมากนะ เป็นสิ่งที่สะสมใส่ตัวเขา ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายเราถึงมารู้ทีหลัง ดีว่าเขาเป็นเดินเข้าไปรักษา ไปหาหมอเอง”.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่