โคตรเซียนการตลาดวาดหวังช็อตประเดิมโกเวทีอินเตอร์ของนายกฯ คนสุดท้องตระกูลชิน หามแห่ลูกสาวไต่ระดับเบอร์ใหญ่ตามรอยพ่อ “ผู้ครอบครอง”แต่กลายเป็นโดนปักหมุดภาพจำ “ผู้นำโพย-การทูตไอแพด”เมื่อเจอหักอารมณ์จังๆ มันก็ต้อง “ของขึ้น” เป็นธรรมดา อาการแบบที่ “นายกฯอิ๊งค์” น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โต้กลับเกรียนคีย์บอร์ด แสดงปฏิกิริยาตอบโต้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ไล่พวกเหน็บแนมให้ไปศึกษาหาข้อมูลก่อนด่า เปิดใจกว้างๆ ลดอคติแสบลึกตามสัญชาตญาณ ความถนัดบทบู๊ในสงครามตอบโต้เกรียนคีย์บอร์ดไม่เป็นรองใคร ลีลาเชือดเฉือนสมรภูมิโซเชียลฯไม่ต้องมีสคริปต์ปฏิบัติการไอโอ “Cyber Warfare” นายกฯเพื่อไทยไม่ถอยคนละอารมณ์กับ “นายกฯอิ๊งค์” ที่ออดอ้อน “ขาใหญ่” ก๊วนพันธมิตรฯเสื้อเหลือง อย่าเพิ่งปลุกม็อบลงถนนไล่กันแต่หัววันผู้นำเด็กยังไม่พร้อม “มีเรื่อง” กับ “โจทก์เก่า” ของพ่อตีไพ่หมอบไม่ตอบโต้เกมมวลชนรุ่นโบราณ เพราะประสบการณ์จากยุทธการล้มกระดาน “ระบอบทักษิณ” ยังหลอน “ต่อมผวา”ยิ่งในสถานการณ์ “สงครามเก้าทัพ” เวอร์ชันใหม่ ไม่ใช่แค่ยี่ห้อ “แป๊ะลิ้ม” แห่งท่าพระอาทิตย์ ที่ประกาศรบทิ้งทวนครั้งสุดท้าย แต่ยังมี “ตุ๊ดตู่” นายจตุพร พรหมพันธุ์ ตัวพ่อของ นปช.เสื้อแดง ที่แปลงกายเป็นหัวขบวนคณะหลอมรวมประชาชน ประกาศชน “นายใหญ่” ขวาง “บ่อนพนันเสรี” กินรวบประเทศไทยบังเอิญจงใจเหมือนแตะมือส่งไม้กันโดยมีกองทัพสันติอโศก นักรบ “แววตาแข็ง” สาวกอดีตสมณะโพธิรักษ์ในนามเครือข่ายนักศึกษาประชาชนปฏิรูปประเทศไทย (คปท.) เป็นแนวหน้าเคลื่อนพลล้มรัฐบาลเพื่อไทย โค่นกระดานระบอบทักษิณเหลือง แดง สลิ่ม “สนธิกำลัง” จังหวะแปรรูปขบวนต่อชนวนระเบิดไปพ่วงกับอารมณ์แค้นฝังหุ่นของคนบ้านป่าฯที่ซุ่มจังหวะรอเอาคืน ในอาการกัดฟันกลืนเลือด “บิ๊กป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าค่ายพลังประชารัฐ เล่นบทนิ่งเป็น “ภูเขาทอง” ปล่อยให้ “เด็จพี่” นายพร้อมพงศ์ นพฤทธิ์ หัวหมู่ทะลวงฟันของ “นายใหญ่” เฉี่ยวไปเฉี่ยวมาแบบรายวันแล้วก็เป็นนายไพบูลย์ นิติตะวัน เลขาธิการค่ายพลังประชารัฐ เบอร์หนึ่งในขบวน “นักร้องเสียงทอง” ของเมืองไทย ปล่อยสัญญาณควันให้จับตาวันที่ 10 ตุลาคมนี้ จะมีปมใหญ่เกี่ยวกับพรรคเพื่อไทยไม่ได้บอกใบ้ปม “วีไอพีชั้น 14” หรือที่ดิน “ยายเนื่อม” สนามกอล์ฟอัลไพน์แต่ขู่กันถึงขั้นพลิกคว่ำพลิกหงาย ส่อล้มกระดานได้เลยแนวรบด้านตะวันตกอยู่ในวงล้อม “นิติสงคราม” แนวรบด้านตะวันออกจ่อปะทะม็อบไล่ระดมลงถนน โดนโจทก์เก่าพ่อล้อมกรอบ นายกฯคนสุดท้องของตระกูลชินไม่ผวาสะดุ้งก็แปลกแต่ทั้งนี้ทั้งนั้น มันก็ยังแค่กระตุกอาการ “แพนิก” อ่อนๆ ไม่ถึงขั้นต้องกลัวลนลาน ตามเงื่อนไขสถานการณ์ที่ผู้คนในสังคมยังไม่เห็นถึงจุดอันตรายจุดไฟกลางสายฝนติดยาก ปลุกม็อบห้วงน้ำท่วมไม่มีทางลุกพึ่บง่ายๆตราบใดที่ไม่มีหัวเชื้อไวไฟ “ทุจริตคอร์รัปชัน” กินรวบประเทศไทยณ จุดที่เชื่อได้ว่า “นายกฯอิ๊งค์” ต้องระมัดระวังตัวเต็มที่ โดยเฉพาะการ “ตั้งด่าน” สกัดทางเข้าออกคฤหาสน์ “จันทร์ส่องหล้า” ที่เป็นเป้าหมายปลายทางของเหล่า “นักวิ่ง” ชิงกันพุ่งทะลุกำแพงแบบที่ล่าสุดกลิ่นทะแม่งๆ โชยมาจากตึกสูงริมถนนวิภาวดี แยกลาดพร้าว พร้อมๆ กับการติดประกาศรับสมัครบุคคลเพื่อรับการคัดเลือกเข้าดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท ปตท.น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) เฟ้นซีอีโอยักษ์ใหญ่ ปตท. (โออาร์) คนใหม่จังหวะปลุกผี “แก๊งทุจริตปาล์มอินโดฯ-ก๊วนบี 100 ทอนสลึง” ที่คดียังค้างเติ่งอยู่ในชั้นสอบสวนของตำรวจ ยื้อยุดฉุดกระชากกับกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ฟื้นคืนชีพ จ้องยึดขุมทรัพย์ ปตท.โออาร์เพื่อเคลียร์คัตตัดจบ พร้อมลุยกอบโกยกันใหม่แก๊งเล่นกับ “น้ำมันไวไฟ” เชื้ออันตรายลามไวพึ่บพั่บ.ทีมข่าวการเมืองคลิกอ่านคอลัมน์ “วิเคราะห์การเมือง” เพิ่มเติม