ดีเอสไอหอบนำสำนวนคดีอุ้มทรมานลุงเปี๊ยก ให้รับสารภาพฆ่า “ป้ากบ” พร้อม 8 ผู้ต้องหาตำรวจ โรงพักอรัญประเทศ ส่งอัยการปราบปรามการทุจริต ภาค 2 พิจารณา ด้านรองโฆษก อสส. เผย ดีเอสไอส่งสำนวนพร้อมความเห็นสมควรฟ้องตำรวจทั้งหมดปฏิบัติหน้าที่มิชอบมาตรา 157- พ.ร.บ.อุ้มหาย นัดฟังคำสั่ง 20 พ.ย.นี้กรณีกรมสอบสวนคดีพิเศษ หรือดีเอสไอ รับคดีตำรวจ สภ.อรัญประเทศ 8 นาย ระดับสัญญาบัตร 5 นาย และชั้นประทวน 3 นาย ถูกกล่าวหาว่าบังคับหรือทรมานให้นายปัญญา หรือ “ลุงเปี๊ยก” คงแสนคำ รับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุในคดีฆาตกรรมนางบัวผัน ตันสุ หรือ “ป้าบัวผัน” หรือ “ป้ากบ” ที่ถูกเยาวชนรุมทำร้ายจนเสียชีวิตเป็นคดีพิเศษ เนื่องจากเข้าข่ายความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 หรือ พ.ร.บ.อุ้มหายฯ ไว้สอบสวนเป็นคดีพิเศษที่ 9/2567 โดยแจ้งข้อกล่าวหาทั้ง 8 นาย ไปเมื่อวันที่ 9 พ.ค. รวมทั้งเปิดโอกาสให้ผู้ถูกกล่าวหานำพยานหลักฐานเข้าหักล้างและรวบรวมเข้าสำนวนการสอบสวนตามที่เสนอข่าวไปนั้นความคืบหน้าล่าสุด เมื่อเวลา 10.30 น. วันที่ 14 ส.ค. นายอังศุเกติ์ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ผู้อำนวยการกองกิจการอำนวยความยุติธรรม หัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 9/2567 มอบหมายนายคณพ ปิ่นทอง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ และนายธีรนิติ จันทร์ประวิตร ผู้ช่วยเลขานุการ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ นำสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษที่ 9/2567 พร้อมผู้ต้องหาเจ้าหน้าที่ตำรวจทั้ง 8 ราย ส่งพนักงานอัยการสำนักงานคดีปราบปรามการทุจริตภาค 2 หลังรวบรวมพยานหลักฐานและทำสำนวนการสอบสวนเสร็จสิ้น เพื่อให้พิจารณาสำนวนเเละมีคำสั่งต่อไปวันเดียวกัน ที่สำนักงานอัยการสูงสุด นายวัชรินทร์ ภาณุรัตน์ รองอธิบดีอัยการสำนักงานการสอบสวน หัวหน้าคณะทำงานตรวจสอบหรือกำกับการสอบสวน ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย (อุ้มหาย) ในฐานะรองโฆษกสำนักงานอัยการสูงสุด เผยว่า วันนี้คณะพนักงานสอบสวนกรมสอบสวนคดีพิเศษนำโดย นายคณพ ปิ่นทอง พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการพิเศษ และนายธีรนิติ จันทร์ประวิตร พนักงานสอบสวนคดีพิเศษชำนาญการ พร้อมคณะ นำสำนวนคดีพิเศษที่ 9/2567 ภายใต้การกำกับและตรวจสอบของสำนักงานอัยการสูงสุด พร้อมความเห็นสมควรสั่งฟ้องเเละนำตัวผู้ต้องหาตำรวจ สภ.อรัญประเทศ ระดับ ผกก. รอง ผกก.สส. สว.สส. รอง สว.สส.และตำรวจชั้นประทวน ในความผิดข้อหาปฏิบัติหน้าที่มิชอบตาม ป.อาญามาตรา 157, ข้อหาตาม พ.ร.บ. อุ้มหาย เเละความผิดต่อเสรีภาพกรณีหน่วงเหนี่ยวกักขัง มาส่งมอบให้กับพนักงานอัยการ สำนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 2นายวัชรินทร์กล่าวต่อว่า คดีนี้เป็นกรณีนายปัญญา หรือลุงเปี๊ยก คงแสนคำ ถูกตำรวจดำเนินคดีอาญาโดยมิชอบด้วยกฎหมาย ในคดีฆาตกรรมนางบัวผัน หญิงสติไม่ดี วัย 47 ปี เเละตำรวจภูธรอรัญประเทศ จ.สระแก้ว ดำเนินคดีนายปัญญาในข้อหาฆาตกรรม เเจ้งว่านายปัญญาให้การรับสารภาพ เป็นคนลงมือฆ่าเเละกระทำด้วยความมึนเมา ต่อมามีการปรากฏภาพจากกล้องวงจรปิดที่สื่อมวลชนหามาได้จากจุดเกิดเหตุเปิดเผยความจริงว่า ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการฆาตกรรมนางบัวผันเป็นกลุ่มเยาวชน 5 คน ในจำนวนนี้มี 2 คนที่เป็นลูกตำรวจใน จ.สระแก้ว มีพฤติการณ์เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำให้บุคคลสูญหาย พ.ศ.2565 และความผิดฐานอื่นที่เกี่ยวข้อง โดยพนักงานอัยการสำนักงานอัยการปราบปรามทุจริตภาค 2 นัดฟังคำสั่งทางคดี ในวันที่ 20 พ.ย.67อ่าน “คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ” ทั้งหมดที่นี่