เรื่องราว นายเอกลักษณ์ ขุนพรหม อายุ 42 ปี หรือ “เอก สายเต๊าะ” ที่มีพฤติกรรมก่อความเดือดร้อนรำคาญ ก่อกวนคนในหมู่บ้าน จอดรถยนต์กีดขวางทางเข้า-ออกหมู่บ้าน ไลฟ์สดก่อกวนผู้อื่น ไลฟ์สดอาวุธมีดปืนไม่คิดกลัวเกรงกฎหมายเพื่อนบ้านย่านดอนเมืองหลายคนพยายามคิดขายบ้านหนี พล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น.ให้ พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. ลงไปดำเนินการเรื่องนี้พล.ต.ต.ธีรเดช ฝากผ่านสื่อบอก “เอก สายเต๊าะ” ว่า “ไม่ต้องห่วงไม่ต้องกังวล สืบนครบาลไปหาแน่นอน ส่วนตัวมองว่าผู้ที่ควรออกจากหมู่บ้านไม่ควรเป็นคนดี แต่ควรเป็นคนที่นิสัยไม่ดี ที่สร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้อื่น ยืนยันจะส่งคนที่เจ้าตัวอยากพบอยากเจอมากที่สุดเข้าไปหา”สน.ดอนเมือง สืบนครบาล และ สืบนครบาล 2 นำหมายค้นเข้าค้นบ้าน “เอก สายเต๊าะ” ย่านดอนเมืองหลังไลฟ์ท้าทายระบบ ท้าทายตำรวจข้ามคืน ตรวจค้นภายในบ้านพบอาวุธปืนยาวบีบีกัน และมีดยาวหัวตัดล่าสุดมีผู้เสียหายซึ่งเป็น รปภ.ของหมู่บ้านย่านดอนเมืองที่ถูก “เอก สายเต๊าะ” พยายามใช้มีดฟัน และลักเอากระเป๋า ภายในมีกระเป๋าสตางค์ บัตรประชาชน สมุดธนาคาร เล่มทะเบียนรถ จยย. เข้าแจ้งความดำเนินคดีช่วงที่นายเอกถูกชุดตำรวจเข้าควบคุมตัวออกไปจากหมู่บ้าน ชาวบ้านที่อยู่ในหมู่บ้านต่างปรบมือขอบคุณตำรวจที่เข้ามาจัดการ โห่ร้องแสดงความดีใจที่นายเอกถูกจับกุมตัว และบางคนบอกว่าอยากให้ตำรวจขังลืมทำให้ลดความหวาดกลัวพ.ต.ต.เทพพุทธิพงศ์ สินสิบภูมี สว.(สอบสวน) สน.ดอนเมือง ควบคุม “เอก สายเต๊าะ” สอบปากคำเพิ่มและนำตัวขึ้นรถควบคุมผู้ต้องหานำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญารัชดา ข้อหา “ชิงทรัพย์โดยใช้อาวุธมีด”พนักงานสอบสวน สน.ดอนเมือง คัดค้านการประกันตัว เนื่องจากเป็นบุคคลอันตรายที่ศาลอาญารัชดา มีลูกบ้านและผู้เสียหายรวมตัวกันไปยื่นขอคัดค้านให้ประกันตัว “เอก สายเต๊าะ”ล่าสุดศาลไม่อนุญาตให้ประกันตัว เนื่องจากเกรงว่าจะออกมายุ่งเหยิงกับพยานหลักฐานบางส่วนของลูกบ้านบอกว่า “เป็นอีกคนที่ได้รับผลกระทบการกระทำของ “เอก สายเต๊าะ” ยอมรับว่าทนไม่ไหวถึงขั้นต้องประกาศขายบ้าน อยากขอร้องเจ้าหน้าที่ของรัฐช่วยแก้ปัญหาความเดือดร้อนให้หมดไปเสียที”เชื่อว่าหากได้ประกันตัวออกมา ไม่เข็ดหลาบและออกมากระทำรุนแรงมากกว่าเดิมความจริงเรื่องนี้ไม่น่าจะปล่อยให้ยืดยาวมานาน ความเดือดร้อนของชาวบ้านที่พักอาศัยอยู่ในหมู่บ้านเป็นเรื่องราวมานานและต่อเนื่อง เจ้าของผู้รับผิดชอบโครงการสมควรเข้ามาดำเนินการแก้ไขปัญหาไม่ควรปล่อยให้เป็นภาระของลูกบ้าน."เพลิงพยัคฆ์"pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม