นโยบายรัฐบาลเปลี่ยนรูปแบบการเกณฑ์ทหารเป็นแบบสมัครใจ และให้หน่วยต่างๆ พิจารณาสนับสนุนให้ทหารกองประจำการสามารถประกอบอาชีพอื่นต่อได้นั้น ซึ่งเป็นแนวทางที่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. เล็งเห็นถึงความสำคัญของการรับสมัครสอบทหารกองประจำการ มาทดแทนกำลังพลตำรวจที่ขาดแคลนทหารกองประจำการเป็นกำลังพลที่ผ่านการฝึกฝน มีวินัย เพื่อเข้ามาทำหน้าที่ทดแทนกำลังตำรวจพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. อนุมัติเปิดการรับสมัครและคัดเลือกทหารกองหนุนที่เคยรับราชการในกองประจำการ หรือทหารเกณฑ์ จำนวน 500 อัตรา เข้ามาบรรจุและแต่งตั้งเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจเข้ารับการฝึกอบรมเมื่อสำเร็จการฝึกอบรมจะทำการแต่งตั้งลงในหน่วยงานสังกัด กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน ซึ่งเป็นหน่วยงานมีหน้าที่สอดคล้องกับภารกิจของทหารมีความคุ้นเคยกับระบบการฝึกการใช้อาวุธต่างๆ อยู่แล้วการรับทหารกองหนุนเข้ามาเป็นนักเรียนนายสิบตำรวจนั้น ลดเวลาการฝึกอบรมให้สั้นลงเหลือเพียงประมาณ 6 เดือน ทำให้ช่วยประหยัดงบประมาณทหารกองหนุนที่จะรับสมัคร คุณสมบัติจะต้องจบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลาย หรือประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเท่า มีอายุระหว่าง 18-27 ปี บริบูรณ์ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ต้นสังกัดรับรองความประพฤติพล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ข้อดีคือ ทหารเหล่านี้ได้รับการฝึกฝนทางด้านระเบียบวินัย การใช้อาวุธและความรู้พื้นฐานมาแล้ว จะทำให้กำลังพลตำรวจเข้ามาใหม่ลดระยะเวลาในการฝึกอบรมลงมาได้จากเดิมสำนักงานตำรวจแห่งชาติจะต้องใช้ระยะเวลาในการผลิตข้าราชการตำรวจ ตามหลักสูตร 1 ปีครึ่งหรือ 18 เดือน จะทำให้ลดเวลาลงมาเหลือเพียง 6 เดือน ซึ่งจะช่วยทดแทนการขาดแคลนกำลังพลตำรวจได้ช่วยประหยัดงบประมาณในการฝึกอบรม และยังเป็นการสนับสนุนนโยบายการสมัครใจเกณฑ์ทหารของรัฐบาลอีกด้วย ทั้งนี้กระบวนการสอบคัดเลือกทั้งภาควิชาการ ทดสอบร่างกาย ตรวจสอบสุขภาพจิตการคัดกรองด้านอื่นๆ ยังคงเข้มข้น และเป็นไปตามมาตรฐานเช่นเดิมสำหรับขั้นตอนและการประกาศรับสมัคร สำนักงานตำรวจแห่งชาติ มอบหมายให้ กองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน และ กองบัญชาการศึกษา ดำเนินการกำหนดขั้นตอนในรายละเอียดการรับสมัครคาดว่าจะเปิดรับสมัครในเดือน มี.ค.“เพลิงพยัคฆ์”pluengpayak@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “เลขที่1 วิภาวดีฯ” เพิ่มเติม