“ไอ้วิน” มือยิงถึงกับเข่าทรุดร่ำไห้ก้มกราบเท้าย่าผู้มีพระคุณเลี้ยงดูตั้งแต่เด็ก พูดได้เพียงแค่คำขอโทษ หลังตำรวจ สน.ทุ่งมหาเมฆ-สืบ 5 -สืบนครบาล พร้อมชุดสอบสวนคดีทลายแก๊งอาชีวะทมิฬ คุมตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รวดเดียว 9 จุด เตรียมนำตัวไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันที่ 22 ธ.ค. เจ้าตัวเผยสาเหตุต้องวิ่งไปยิงเหยื่อซ้ำเพราะต้องการแก้แค้นให้เหมือนกับที่เพื่อนถูกยิงซ้ำเสียชีวิตก่อนหน้านี้จากกรณีตำรวจนครบาลเปิดปฏิบัติการกวาด ล้างแก๊งอาชีวะทมิฬ หลังก่อเหตุยิงนักศึกษาสถาบันคู่อริเสียชีวิต นอกจากนี้ยังทำให้ครูสอนคอมพิวเตอร์ ชั้น ม.ต้น โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ที่เดินผ่านมาถูกลูกหลงกระสุนเจาะหน้าผากเสียชีวิต โดย พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส.บช.น. นำกำลังเปิดปฏิบัติการปิดเมืองล่าแก๊งทมิฬติดต่อกัน 3 ครั้ง รวบตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้กว่า 20 คน กระทั่งตามจับกุมนายอนาวิน แก้วเก็บ อายุ 20 ปี มือปืนลั่นไกยิงเหยื่อได้ที่อุทยานแห่งชาติดอยสุเทพ-ปุย จ.เชียงใหม่ พร้อมนายกฤติ ล้ำเลิศ หรือทิว อายุ 23 ปี เพื่อนร่วมแก๊ง ก่อนถูก พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. สอบสวนจนต้องเปิดปากรับสารภาพเป็นผู้ก่อเหตุยิงจริงความคืบหน้า ที่กองบังคับการตำรวจนครบาล 5 (บก.น.5) เมื่อเวลา 06.00 น. วันที่ 21 ธ.ค. พล.ต.ต.วิทวัฒน์ ชินคำ ผบก.น.5 พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า รอง ผบก.น.5 (ดูแลงานสอบสวน) พ.ต.อ.พนม เชื้อทอง ผกก.สน.ทุ่งมหาเมฆ พร้อมพนักงานสอบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ชุดสืบสวน สน.ทุ่งมหาเมฆ ตำรวจ กก.สส.บก.น.5 และตำรวจ บก.สส.บช.น. คุมตัวนายอนาวิน แก้วเก็บ อายุ 20 ปี มือปืน ผู้ก่อเหตุยิงนายธนสรณ์ หรือหยอด ห้องสวัสดิ์ นศ.สถาบันคู่อริและครูเจี๊ยบ-น.ส.ศิรดา สินประเสริฐ ครูสอนคอมพิวเตอร์ โรงเรียนพระหฤทัยคอนแวนต์ ออกจาก บก.น.5 เพื่อนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพ รวม 9 จุด ท่ามกลางการคุ้มกันจากตำรวจอย่างแน่นหนาเพื่อป้องกันเหตุไม่คาดคิดจุดแรกนายอนาวินชี้จุดจอดรถ จยย.อยู่ห่างจากจุดยิงที่หน้าธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) สาขาคลองเตย ถนนสุนทรโกษา ประมาณ 5 เมตร ทั้งนี้ นายอนาวินให้ข้อมูลว่าหลังจากลงรถ จยย. ที่มีนายอับดุลเลาะ หรือเลาะ ดือราแม อายุ 23 ปี เป็นผู้ขับขี่ เจ้าตัวชักปืนออกจากเอววิ่งเลาะฟุตปาทตามกลุ่มผู้เสียชีวิตไป ก่อนใช้ปืนยิงเล็งไปที่กลุ่มของคู่อริ แต่กระสุนนัดแรกพลาดไปโดนครูเจี๊ยบซึ่งอยู่ห่างไปประมาณ 2 เมตร จากนั้นหันปืนมายิงนายหยอด 1 นัดจนล้มลง แล้ววิ่งหนีไปซ้อนท้ายรถ จยย.ที่จอดรออยู่ แต่นายเลาะตะโกนสั่งให้กลับไปยิงซ้ำอีก จึงวิ่งกลับไปยิงนายหยอดซ้ำอีก 1 ครั้ง ก่อนซ้อนท้ายรถ จยย.ขี่หลบหนีไปทางสี่แยกตลาดคลองเตยจุดที่สองตำรวจคุมตัวนายอนาวินมาที่ซอย 58/5 ถนนกรุงเกษม แขวงรองเมือง เขตปทุมวัน กทม. ผู้ก่อเหตุให้การว่าเป็นจุดมานั่งกินก๋วยเตี๋ยวก่อนลงมือก่อเหตุ ก่อนตำรวจควบคุมตัวมาที่ถนนประชาสงเคราะห์ 23 แขวงและเขตดินแดง กทม.เป็นจุดที่ 3 ผู้ก่อเหตุให้การว่า ก่อนวันก่อเหตุตนและเพื่อนขโมยแผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย.ที่จอดอยู่ข้างทางและนำแผ่นป้ายทะเบียนรถ จยย.ที่ขโมยมาสวมป้ายใส่รถ จยย.คันที่ใช้ก่อเหตุจากนั้นตำรวจควบคุมนายอนาวินกลับไปที่บ้านในพื้นที่ ต.คลองพระอุดม อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี เป็นจุดที่ 4 เป็นสถานที่นายอนาวินใช้ค้อนปอนด์ทุบทำลายปืนที่ใช้ก่อเหตุ ก่อนคุมตัวไปชี้ที่จุดที่ 5 บริเวณวัดตำหนักเหนือ จ.นนทบุรี ริมแม่น้ำเจ้าพระยา เป็นจุดผู้ต้องหาขว้างเศษซากปืนทิ้งลงน้ำ ต่อมาตำรวจคุมตัวนายอนาวินไปยังจุดที่ 6-8 ใน ต.โคกช้าง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา, อ.บางปลาม้า สุพรรณบุรี, ริมถนนแจ้งวัฒนะ อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ซึ่งเป็นจุดที่นายอนาวินนำรถ จยย.คันก่อเหตุมาพ่นสีเพื่อหลบเลี่ยงการจับกุม ก่อนขึ้นรถกระบะหลบหนีจากนั้นตำรวจคุมตัวนายอนาวินมาทำแผนจุดที่ 9 เป็นจุดสุดท้ายที่บ้านเลขที่ 22/1 ซอยวงศ์สว่าง 19 แขวงวงศ์สว่าง เขตบางซื่อ กทม. เป็นจุดที่กลุ่มผู้ก่อเหตุมาเช่าบ้านและอาศัยอยู่รวมกัน นายอนาวินให้การว่า บ้านหลังนี้เป็นบ้านที่กลุ่มของตนเช่าไว้เพื่อทำกิจกรรมรับน้อง ไม่เกี่ยวกับการวางแผนในการลงมือสังหารครั้งนี้แต่อย่างใดส่วนตัวอยากขอโทษครอบครัวของครูเจี๊ยบและนายหยอด อยากฝากถึงเด็กอาชีวะอย่ามีพฤติกรรมเลียนแบบนี้ ขอให้การก่อเหตุแบบนี้สิ้นสุดลงไม่อยากให้มีวงจรการไล่ทำร้ายกันแบบนี้อีก“สำหรับสาเหตุที่ผมต้องวิ่งลงไปยิงเหยื่อซ้ำเพราะผมต้องการทำให้เหมือนกับตอนที่เพื่อนของผมถูกฝ่ายตรงข้ามยิงซ้ำเสียชีวิต เหตุเกิดพื้นที่ สน.บางกอกน้อย ผมยืนยันว่าไม่เกี่ยวข้องกับคำสั่งของรุ่นพี่แต่อย่างใด” นายอนาวิน กล่าวทั้งนี้ ระหว่างการทำแผนฯ นางชลอ แก้วเกร็ด อายุ 71 ปี ย่าของนายอนาวิน ผู้เลี้ยงดูนายอนาวินตั้งแต่เด็ก เข้ามาขอดูหน้าหลาน ทำให้นายอนาวินถึงกับร่ำไห้ก้มกราบเท้าผู้เป็นย่าและพูดเพียงว่า “ผมขอโทษ ผมขอโทษจริงๆ”หลังการทำแผนประกอบคำรับสารภาพเสร็จสิ้น พ.ต.อ.ภูมิยศ เหล็กกล้า รอง ผบก.น.5 (ดูแลงานสอบสวน) เปิดเผยว่า ตำรวจจะควบคุมนายอนาวินกลับมาที่ บก.น.5 เพื่อสอบปากคำเพิ่มเติม ก่อนคุมตัวนายอนาวิน แก้วเก็บ และนายกฤติ ล้ำเลิศ เพื่อนร่วมแก๊งอาชีวะทมิฬไปฝากขังที่ศาลอาญากรุงเทพใต้ในวันที่ 22 ธ.ค.อ่าน "คอลัมน์หนังสือพิมพ์ไทยรัฐ" ทั้งหมดที่นี่