24 ม.ค.67...อีกวันที่ “ก้าวไกล” ต้องลุ้นผลว่าศาลรัฐธรรมนูญจะวินิจฉัยออกมาอย่างไรถือเป็นวิบากกรรมที่เป็นอย่างอื่นไม่ได้อยู่ที่ว่าจะเป็น “ของขวัญ” ปีใหม่ในลักษณะไหนเท่านั้นซึ่งมีอยู่ 2 เรื่อง 2 ประเด็นที่มีผลต่อพรรคอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้1.คดี “หุ้นสื่อ” ของ “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคอันนี้เป็นเรื่องเฉพาะตัว2.คดีที่เกี่ยวกับ ม.112 อันนี้มีผลต่อพรรคและกรรมการบริหารพรรคทั้งชุด“อนาคตใหม่” เคยตกอยู่ในภาวะไม่ต่างกันที่มีผลต่อหัวหน้าพรรคคือ “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” จนต้องถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี และพรรคถูกยุบทำให้ “ก้าวไกล” ถือกำเนิดขึ้นมาแต่วันนี้กำลังจะหวนกลับไปอยู่ตรงจุดนั้นอีกแล้ว เพียงแต่ว่าผลจะออกมาอย่างไรจะเหมือนกันหรือต่างกันก็เป็นอีกเรื่องหนึ่งทว่าวันนี้ “ก้าวไกล” ได้เข้าสู่ถนนการเมืองอย่างเป็นทางการในภารกิจฝ่ายค้านเต็มตัวโดย “ชัยธวัช ตุลาธน” หัวหน้าพรรคได้รับโปรดเกล้าฯให้ดำรงตำแหน่งผู้นำฝ่ายค้านอย่างเป็นทางการทำหน้าที่หัวขบวนตรวจสอบการบริหารงานของรัฐบาลจากจุดที่จะเป็นรัฐบาลกลับต้องมาเป็นฝ่ายค้านก็เพราะจุดยืนทางการเมืองในเรื่อง ม.112 ทำให้พรรคอันดับ 1 ต้องเปลี่ยนสถานภาพจากบทบาทหนึ่งมาเป็นอีกบทบาทหนึ่งแต่กว่าจะมายืนตรงจุดนี้ได้ก็ต้องเสียลูกพรรคไป 1 คน คือ “ปดิพัทธ์ สันติภาดา” ที่เลือกจะเป็นรองประธานสภาด้วยการใช้วิธีที่ไม่โสภาเท่าใดนักโดยพรรคได้มีมติขับเขาออกจากพรรคแล้วไปสังกัดพรรค “เป็นธรรม”ทำให้เป็น สส.และมีตำแหน่งเป็นรองประธานสภาคนที่ 1 ซึ่งเรื่องนี้กลายเป็น “งูกินหาง” เกี่ยวพันไปถึง สส.ของพรรคอีก 2 คนที่ถูกขับออกมาเช่นกันโดยถูกกล่าวหาว่า “คุกคามทางเพศ” และต่างก็ไปสังกัดพรรคอื่นแล้ว แต่ก็เป็นรอยด่างทำให้มีการตั้งคำถามการขับออกจากพรรคใน 2 กรณีนี้ถูกต้องและเป็นธรรมหรือไม่?วันนี้ “ก้าวไกล” ก็เลยมี สส.เหลืออยู่เพียง 148 เสียง จาก 151 เสียง และต้องลุ้นในปีหน้าว่า “พิธา” จะรอดจากคดี “หุ้นสื่อ” หรือไม่และ “ก้าวไกล” จะถูกคำสั่ง “ยุบพรรค” หรือไม่ หากผ่านพ้นบ่วงกรรมต่างๆไปได้ก็ยังทำหน้าที่ฝ่ายค้านอย่างเต็มรูปแบบ (เชิงรุก)แต่ถ้า “ถูกยุบ” อนาคตก็คงไม่ต่างไปจาก “อนาคตใหม่” และ สส.ส่วนหนึ่งก็ต้องหาพรรคใหม่สังกัดซึ่งคงจะมีการเตรียมการ หาทางออกไว้แล้วเรียกว่า “อนาคตใหม่”–“ก้าวไกล” มีท่วงทำนองไม่ต่างกันทว่ามองในแง่ดีเอาไว้ก่อนหมายถึงว่ารอดพ้นจากคดีความต่างๆยืนอยู่ในฐานะฝ่ายค้านเต็มตัวคงทำให้รัฐบาลสั่นไหวพอสมควรเพราะ “ขุนพล” ของ “ก้าวไกล” นั้น ไม่ธรรมดาเป็นคนหนุ่มที่มีความรู้ความสามารถและมีความกล้าหาญทางการเมืองที่จะตรวจสอบอย่างเข้มข้นแน่ขอให้เป็นไปเช่นนั้นจริงๆเถอะ...เพราะประโยชน์ที่ได้นั้นจะเป็นของประเทศชาติและประชาชนที่มีฝ่ายค้านทำหน้าที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะชาติประชาชนถูกนักการเมืองทำระยำมานานแล้วการเมืองนั้นมันต้องเป็นไปตามครรลองและจังหวะก้าวมิอาจมาก่อนกาลเวลาได้ความคิดและแนวปฏิบัติต่างๆต้องคู่ขนานกันไปความจริงกับความฝันมันต่างกัน!“สายล่อฟ้า”คลิกอ่านคอลัมน์ “กล้าได้กล้าเสีย” เพิ่มเติม