เหตุการณ์ สภาล่ม ไม่แคร์สื่อของ สภาผู้แทนราษฎร เป็นการชี้ให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงของ การเมืองอำนาจนิยม ที่ไม่แคร์ความรู้สึกของประชาชน เพราะ นักการเมือง เปลี่ยนทัศนคติทางการเมือง สามารถใช้เงินซื้อทุกอย่างที่ขวางหน้าได้อย่างถูกกฎหมาย จึงไม่มีความจำเป็นที่จะต้องระมัดระวังการประพฤติปฏิบัติในฐานะตัวแทนที่ประชาชนเลือกเข้ามา ถ้ามีเงินซื้อหัวคะแนน ซื้อข้าราชการ ซื้อสื่อ เป็นพวกกับผู้มีอิทธิพลได้ก็จบที่สำคัญคือไม่มีสัจจะวันนี้จึงเห็นการเปลี่ยนแปลงในพรรคการเมืองต่างๆที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ เอาตรงๆก็คือเราไม่รู้จัก สส.ในสภา เราไม่รู้จักที่ไปที่มาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง รมต. สส. เราไม่รู้ว่ามีต้นทุน มากน้อยแค่ไหน จู่ๆก็ได้เป็น สส. เป็น รมต. มีตำแหน่งทางการเมือง ไม่ว่าจะเป็นตัวแทนบ้านใหญ่ ผู้มีอิทธิพลในท้องถิ่น หรือนักธุรกิจสีเทาๆทุนการเมือง เป็นปัจจัยสำคัญในการขับเคลื่อนทางการเมืองพรรคเพื่อไทย กำลังจะมีการผลัดใบ เสนอคนรุ่นใหม่เข้ามาแทนคนรุ่นเก่า เกิดความไม่พอดี ระหว่าง บ้านใหญ่ กับ การเมืองใหม่ และ ผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ ทำให้การทำงานในเพื่อไทยมีศักยภาพที่จำกัด ภายใต้การนำของ แพทองธาร ชินวัตร ที่จะต้องถ่วงดุลอำนาจระหว่างเก่ากับใหม่ บนทางสองแพร่ง เพื่อไทยจะก้าวข้ามไปสู่อนาคต หรือจะถอยหลังไปอยู่กับอดีตคนเสื้อแดง ที่เป็นกำลังหลักของเพื่อไทย ถดถอย ไปทุกขณะ คนที่ร่วมอุดมการณ์เพื่อไทยในการต่อต้านเผด็จการทหารในอดีตมี ส่วนหนึ่งรับกรรม อีกส่วนหนึ่ง รับรางวัล ส่วนหนึ่งติดคุก หนีไปต่างประเทศ ครอบครัวลูกเมียได้รับความเดือดร้อน บ้านแตกสาแหรกขาด ทุกข์แสนสาหัส แต่บางส่วนพ้นคุก ได้รับการปูนบำเหน็จรางวัลต้องยอมรับว่าคนที่มีอุดมการณ์ คนที่ร่วมอุดมการณ์กับเพื่อไทยในอดีตกำลังจะถูกทิ้ง เพราะสถานการณ์ทางการเมืองที่เปลี่ยนไป ทำให้คนที่ร่วมอุดมการณ์มาในอดีต และคนที่อยู่ในอุดมการณ์ปัจจุบัน ที่ยอมรับความเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นไม่ได้ ต้องถอยออกมาเป็นฝ่ายตรงกันข้าม เพื่อไทยจะไม่เหมือนเดิมในทุกมิติพลังประชารัฐ ภายใต้การนำของ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เตรียมที่จะผลัดใบเช่นกัน ภารกิจสำคัญที่รับมอบหมายมา สิ้นสุดไปพร้อมกับ รัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา การขับเคลื่อนให้พลังประชารัฐเดินหน้าต่อไปในสถานการณ์ที่เปลี่ยนไป ไม่สะดวกราบรื่น เหมือนเมื่อตอนที่ พลังประชารัฐ มีอำนาจรัฐอยู่ในมือการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างในพรรคพลังประชารัฐในช่วงหัวเลี้ยวหัวต่อ ปัจจัยสำคัญขึ้นอยู่กับ บุคลากรและความเป็นเอกภาพในพลังประชารัฐเอง การจะสร้างความสมดุลระหว่างคนที่เข้ามาใหม่กับรุ่นบุกเบิก ในยามที่ขาดแคลนบุคลากรหลัก จะเดินต่อก็ลำบาก ไม่ไปต่อก็ลำบากประชาธิปัตย์ผลัดใบไปแล้ว แต่ลำต้นและรากฐานไม่แข็งแรง จิตและวิญญาณของประชาธิปัตย์ถดถอยไปพร้อมกับบุคลากรที่มีคุณภาพ เช่นเดียวกับรวมไทยสร้างชาติ ขาด พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เป็นเสาหลัก แพก็แตกส่วนก้าวไกลกำลังหาเน็ตไอดอลคนใหม่มาปั้นแทนคนเก่าอยู่.หมัดเหล็กmudlek@thairath.co.thคลิกอ่านคอลัมน์ “คาบลูกคาบดอก” เพิ่มเติม