AirPods หูฟังไร้สายที่ได้รับความนิยมที่สุดในโลก เป็นหนึ่งในผลิตภัณฑ์ที่ถูกอัปเกรด ล่าสุดแอปเปิลแนะนำ AirPods Pro รุ่นที่ 2 มาพร้อมเคสชาร์จด้วย MagSafe (USB–C)แม้ว่าหน้าตาจะเหมือน AirPods Pro รุ่นที่ 2 ที่เปิดขายเมื่อปีที่แล้ว แต่ภายในถูกอัปเกรดใหม่ภาพรวมดีขึ้นในทุกด้านทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์เพื่อการใช้งานฟังเพลง เล่นเกม ประชุม โทรศัพท์และเฟสไทม์ เป็นต้นหลังจากแอปเปิลได้แนะนำ iPhone 15 ซีรีส์ ที่หนึ่งในการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ก็คือระบบการชาร์จได้เปลี่ยนมาใช้พอร์ต USB-C จาก Lighting ซึ่งมีการชาร์จเหมือนเป็นเพาเวอร์แบงก์ที่นำไปชาร์จหูฟังไร้สายรุ่นใหม่นี้ได้โดยตรง อีกทั้งรองรับการชาร์จไร้สายแบบ MagSafe ร่วมกับที่ชาร์จของ Apple Watch นอกจากนี้แล้วรองรับมาตรฐาน IP54 ทนฝุ่นเพิ่มเติม กันเหงื่อและกันน้ำ ช่วยนำออกไปใช้งานสมบุกสมบัน เป็นเพื่อนยามออกกำลังกายได้เพลินๆสำหรับซอฟต์แวร์เมื่อใช้งานร่วมกับระบบปฏิบัติการ iOS17 ได้ความสามารถใหม่ๆ เพิ่มขึ้นฟีเจอร์ใหม่ๆ ช่วยการใช้หูฟังเพื่อความบันเทิงและการใช้งานมีความสะดวก พร้อมกับการใช้อย่างง่ายๆ เพียงให้หูฟังเรียนรู้กับระบบที่เราใช้งานและจะปรับให้อัตโนมัติบทสรุป AirPods Pro รุ่นที่ 2 (USB-C) วางจำหน่ายในราคา 8,990 บาท ประสิทธิภาพเสียงของการฟังเพลง ขณะที่แบตอยู่ในระดับเดียวกับรุ่นเดิม แต่ที่ดีกว่าอย่างเห็นได้ชัดคือการตัดเสียงรบกวน หรือ Active Noise Cancellation (ANC) ดีขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า การใช้งานสะดวกยิ่งขึ้นระบบของหูฟังจะเรียนรู้การใช้งานของผู้ใช้ และปรับระดับเสียงที่ชอบ เวลาสนทนากับผู้อื่นเสียงในหูฟังจะปรับเบาอัตโนมัติ และจะกลับสู่ปกติเมื่อหยุดสนทนา ช่วยทำให้ประสบการณ์ใช้งานดีขึ้น หูฟังไร้สายรุ่นใหม่ดังกล่าวจัดเต็มแม้การดีไซน์หน้าตาจะเหมือนเดิม ก้านหูฟังเหมือนรุ่นเดิม มาพร้อมจุกซิลิโคนที่ 4 คู่คือ XS, S, M และ L ให้เลือกพอดีกับหูผู้ใช้โดยสามารถเข้าไปทดสอบบน iPhone ได้ ที่เปลี่ยนไปคือสายชาร์จ USB-C รองรับคำสั่งเสียง “หวัดดี Siri” สั่งให้เล่นเพลง โทรศัพท์ ฟังพยากรณ์อากาศ เปิดแผนที่นำทางเป็นต้น แบตเตอรี่งานฟังเพลงได้นานสูงสุด 6 ชั่วโมง ผ่านเคสชาร์จ 30 ชั่วโมงการควบคุมการใช้งานผ่านนิ้วมือผ่านก้านหูฟังเลื่อนขึ้นลง ปรับ-ลดวอลลุ่มเสียงบีบครั้งหนึ่งเพื่อเล่นเพลงหรือหยุด รับสายบีบสองครั้ง ข้ามเพลงไปข้างหน้า วางสายบีบสามครั้ง ย้อนกลับบีบค้าง สลับโหมดการฟัง iOS17 ได้อัปเกรด 3 ฟีเจอร์ใหม่1.Adaptive audio เสียงที่ปรับตามสภาพแวดล้อม ฟีเจอร์ใหม่นี้เอาโหมดการตัดเสียง ANC และโหมดฟังเสียงภายนอก (Transparency mode) มารวมกันโดยชิป H2 จะช่วยปรับระดับการควบคุมเสียงรบกวน ตามเสียงในสภาพแวดล้อมของผู้ใช้ เช่น เสียงพูดคุยในออฟฟิศจะสามารถรับรู้และได้ยินเสียงที่เกิดขึ้นได้แม้จะเปิดในโหมดการตัดเสียง ระบบจะเรียนรู้การใช้กันตลอด2.Personalize Volume จะคอยปรับเสียงที่เราชอบปรับ โดยใช้การเรียนรู้ของระบบ แต่จะเก็บไว้ในเครื่องเป็นข้อมูลส่วนตัว ของผู้ใช้ 3.Conversation Awareness จะช่วยดึงเสียงรอบๆ ที่เราฟังทำเสียงให้ดังขึ้น ได้ยินเสียงของคนที่ผู้ใช้ทำการสนทนาด้วย เช่น สั่งกาแฟในร้านกาแฟ เสียงเพลงที่ฟังในหูฟังจะเบาลงอัตโนมัติ และเสียงเพลงกลับมาดังขึ้นหลังจากสั่งกาแฟแล้ว ช่วยให้ไม่ต้องถอดหูฟังเพื่อการสนทนาบ่อยๆนอกจากนี้ ฟีเจอร์ Mute หรือ Unmute เพื่อให้ควบคุมการโทร.ได้มากขึ้น สะดวกยิ่งขึ้น เพียงแค่แตะที่ก้านหูฟังครั้งเดียว และแตะสองครั้งเพื่อวางสาย ส่วนฟีเจอร์สลับอุปกรณ์อัตโนมัติ หรือ Automatic Switching ใช้ฟังสลับอุปกรณ์ในอีโคซิสเต็ม เช่น iPhone, iPad, iMac สลับไปมาได้สะดวกรวดเร็ว ขณะเดียวกันยังได้เปิดตัวเสียงแบบ Lossless เมื่อใช้คู่กับอุปกรณ์ Apple Vision Pro ที่จะเริ่มวางจำหน่ายในปีหน้า โดยการฟังเพลงแบบ Lossless ที่มีความหน่วงต่ำเป็นพิเศษ ชิป H2 ร่วมกับโปรโตคอลเสียงไร้สายจะปลดล็อกระบบเสียงแบบ Lossless 24 บิตที่ระดับ 48 kHz พร้อมลดความหน่วงเสียงลงอย่างมาก จะทำให้เพลิดเพลินกับการฟังเสียงแบบไร้สายที่ล้ำสมัยที่สุดระบบการเรียนรู้ของแอปเปิลจากชิป H2 ช่วยให้ AirPods Pro รุ่นที่ 2 มาพร้อมเคสชาร์จด้วย MagSafe (USB–C) มีความฉลาดขึ้น เรียนรู้จากการใช้งานผู้ใช้และปรับการใช้อัตโนมัติให้ใช้อย่างง่ายๆ. คลิกอ่านคอลัมน์ "บทความไซเบอร์เน็ต" เพิ่มเติม
