นับแต่แพ้เกมการเมืองเรื่องเลือกตั้งนายกรัฐมนตรีเป็นต้นมา ดูเหมือนว่าพรรคก้าวไกลจะมีชัยชนะที่น่าชื่นชมเพียงครั้งเดียว คือการเลือกตั้งซ่อม สส.ระยอง เมื่อต้นเดือนกันยายน ต่อจากนั้นเริ่มดวงตกมาโดยตลอด เริ่มต้นด้วยข่าวอื้อฉาว สส.ของพรรคถูกร้องเรียนกล่าวหา คุกคามทางเพศเป็นข้อหาที่ร้ายแรงสำหรับพรรคของคนรุ่นใหม่ที่ยึดมั่นในอุดมการณ์ เชิดชูความเสมอภาคทางเพศ นักวิชาการบางคนวิจารณ์ว่าพรรคก้าวไกลล้มเหลวในการคัดกรองคนเข้าพรรค เริ่มต้นด้วย สส.ต่างจังหวัด โดนข้อหาคุกคามทางเพศ พรรคตรวจสอบแล้วพบว่ามีมูลความจริง จึงสั่งลงโทษด้วยการตัดสิทธิไม่ให้ทำหน้าที่สำคัญๆในพรรค และคาดโทษว่า ถ้าทำผิดซํ้าจะขับออกจากพรรค ข้อหาคุกคามทางเพศลามมาถึง สส.กทม.ที่อยู่ฝั่งธนบุรี ถูกหญิงสาว 3 คนร้องเรียน กล่าวหาว่า สส.พาเข้าไปดื่มในสถานบันเทิง ตามด้วยการมอมด้วยเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การลวนลามและขอมีสัมพันธ์ทางเพศแต่ผู้เสียหายไม่ยอมเล่นด้วย และร้องเรียนถึงพรรค นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคชี้แจงว่า การคุกคามทางเพศ เป็นการกระทำผิดร้ายแรง ยืนยันว่าจะตรวจสอบและลงโทษ ยืนยันพรรคจะไม่สร้างวัฒนธรรมปกปิด และปกป้องผู้กระทำความผิดแน่ แต่โทษสูงสุดน่าจะเป็นการขับจากพรรคที่อาจไม่ใช่การลงโทษนักการเมืองรุ่นเก่าๆ ถือว่าการขับจากพรรคเป็นการลงโทษที่รุนแรง ไม่มีพรรครับเข้าเป็นสมาชิก แต่พรรครัฐบาลชุดก่อนบางพรรค มี สส.ร้องขอให้พรรคขับไล่ เพื่อจะได้ยกพวกเข้าพรรคใหม่ทั้งกลุ่ม และมี สส.พรรค ก.ก.คนหนึ่งยอมให้พรรคขับ เพื่อย้ายเข้าพรรคอื่น เพื่อรักษาเก้าอี้ สส.และรองประธานสภาการขับออกจากพรรค แทนที่จะเป็นการลงโทษ สส. แต่กลายเป็นการปูนบำเหน็จความชอบตามวัฒนธรรมการเมือง ใหม่ ต่างจากวัฒนธรรมการเมืองเก่าแก่ ผู้ที่ถูกขับจากพรรคถือว่าทำผิดร้ายแรง ไม่มีพรรคใดรับเข้าพรรค ซํ้ายังถูกจารึกชื่อบนหนังสุนัขประจานต่อธารกำนัลเพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างขณะนี้พรรค ก.ก.เริ่มถูกแซวผ่านทางเฟซบุ๊กว่า “วันนี้ก้าวไกลโกหกอะไร” จึงต้องระมัดระวังอย่างยิ่ง พรรคก้าวไกลแพ้เกมการเมืองในการเลือกนายกรัฐมนตรี เพราะเชื่อมั่นว่าตนเป็น “ผู้ชนะ” ได้ สส.มากสุดถึง 151 ที่นั่ง แต่ไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ สส. และไม่ถึงกึ่งหนึ่งของ 2 สภา เป็นเสียงข้างน้อยและเป็นผู้แพ้.คลิกอ่านคอลัมน์ "บทบรรณาธิการ" เพิ่มเติม