ก่อนโควิด-19 มีคนจีนเกิน 100 ล้านคนเป็นนักท่องเที่ยวในต่างประเทศ ทำให้เกิดการกระตุ้นทางเศรษฐกิจ ไม่ว่าจะเป็นสหรัฐฯ แคนาดา ยุโรป ออสเตรเลีย แม้แต่ไทยช่วงโควิด-19 ระบาดหนัก และหลังจากโควิด-19 บรรเทาเบาบางลงแล้ว คนจีนก็ยังไม่นิยมไปท่องเที่ยวในต่างประเทศ ทำให้เศรษฐกิจโลกซบเซาจีนเปิดประเทศปลาย ค.ศ.2022 พร้อมทั้งประกาศรายชื่อกลุ่มประเทศปลายทางที่ให้นักท่องเที่ยวเดินทางแบบกรุ๊ปทัวร์เป็นกลุ่มแรกได้เมื่อเดือนมกราคม 2023 จำนวน 20 ประเทศ (มีไทยรวมอยู่ด้วย) ส่วนรายชื่อกลุ่มประเทศที่สองที่จีนประกาศนั้น ประกาศในเดือนมีนาคม 2023 มีทั้งหมด 40 ประเทศ และขณะนี้มีการประกาศรอบที่สามโดยกระทรวงท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของจีน การเปิดให้นักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ออกไปเยือนต่างประเทศรอบที่สามนี้มีสหรัฐฯ อังกฤษ เยอรมนี ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น (พวกนี้เป็นกลุ่มประเทศที่รวมตัวกันต่อต้านจีน)ทันทีที่มีประกาศจากกระทรวงการท่องเที่ยวและวัฒนธรรมของจีน หุ้นของกลุ่มสายการบินและการเดินทางของเกาหลีใต้ก็พุ่งกระฉูดส่งตูดจัมโบ้ขึ้นทันที หุ้นของบริษัทลอตเต้ทัวร์ ดีเวลลอปเมนท์ ซึ่งเป็นบริษัททัวร์ใหญ่ของเกาหลีใต้พุ่งขึ้นมากกว่าร้อยละ 25 หุ้นของโฮเทล ชิลลา บริษัทโรงแรมหรูจากเกาหลีใต้ พุ่งขึ้นร้อยละ 17 หุ้นของบริษัทสายการบินเอเชียนา แอร์ไลน์ พุ่งขึ้นร้อยละ 7 หุ้นของสายการบินโคเรีย แอร์ไลน์ พุ่งขึ้นร้อยละ 3.1ค.ศ.2017 รัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศติดตั้งระบบป้องกันขีปนาวุธในพื้นที่พิกัดสูง (THAAD) ซึ่งเป็นระบบที่พัฒนาโดยสหรัฐฯ รัฐบาลจีนตอบโต้ด้วยการห้ามจัดกรุ๊ปทัวร์ชาวจีนไปเยือนเกาหลีใต้ ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม และสายการบินของเกาหลีใต้หลายแห่งพังพาบ บางแห่งถึงกับเผชิญภาวะล้มละลายเพราะเงินจากนักท่องเที่ยวชาวจีนมีส่วนสำคัญในการพยุงเศรษฐกิจและอุตสาห กรรมการท่องเที่ยวของเกาหลีใต้ การเปิดให้นักท่องเที่ยวจีนแบบกรุ๊ปทัวร์เดินทางไปเกาหลีใต้ได้ในครั้งแรกหลังจาก ค.ศ.2017 นี้ จะช่วยเศรษฐกิจเกาหลีใต้ได้อย่างมากทันทีที่ชื่อของญี่ปุ่นปรากฏหราในบัญชีกลุ่มประเทศที่จีนอนุญาตให้จัดกรุ๊ปทัวร์ชาวจีนเข้าไปได้ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวของญี่ปุ่นก็มีการกระดิกพลิกตัวอย่างลิงโลดโดดเด่น หุ้นสายการบินเจแปนแอร์ไลน์และสายการบินออลนิปปอนแอร์เวย์พุ่งขึ้น หุ้นของบริษัททัวร์ดังของญี่ปุ่นอย่างบริษัท เอช.ไอ.เอส. ขึ้นร้อยละ 3.4 และบริษัท แอร์ทริป ขึ้นร้อยละ 2.9องค์การการท่องเที่ยวแห่งชาติของญี่ปุ่น (JNTO) ประกาศทันทีว่า อ้า นี่คือข่าวดีอย่างแท้จริง ก่อนหน้าที่จะเกิดโควิด-19 นักท่องเที่ยวจีนเดินทางเข้าไปเยือนญี่ปุ่นปีละเกือบ 10 ล้านคน เช่น ค.ศ.2019 นักท่องเที่ยวจีนเข้าไปเยือนญี่ปุ่นมากถึง 9.59 ล้านคน เป็นสัดส่วนมากถึงร้อยละ 30 ของนักท่องเที่ยวรวมที่เข้าญี่ปุ่นสหรัฐฯ อังกฤษ ออสเตรเลีย เกาหลีใต้ และญี่ปุ่น รวมกลุ่มกันเล่นงานจีน กะให้จีนล้มคว่ำคะมำหงายทางเศรษฐกิจและทางสังคม แต่โดยแท้ที่จริงประเทศเหล่านี้ก็ยังต้องพึ่งจีน ก็ไม่รู้ว่าเป็นนโยบายที่ถูกหรือผิด ที่พวกนี้พยายามกระหน่ำซ้ำจีน ซึ่งถ้าจีนย่ำแย่ เศรษฐกิจของประเทศตัวเอง รวมทั้งเศรษฐกิจโลกก็พลอยแย่ไปด้วยแต่อยากจะเรียนครับ แม้จีนจะเปิดให้นักท่องเที่ยวแบบกรุ๊ปทัวร์ออกไปต่างประเทศ แต่คราวนี้ผมขอทำนายทายทักว่าอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวจะไม่คึกคักเหมือนก่อนโควิด-19 ระบาด เพราะเศรษฐกิจจีนอ่อนแอกว่าเดิม โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคอสังหาริมทรัพย์ บ้านและคอนโดสร้างไม่เสร็จบานเบอะเยอะแยะ ฟันเฟืองหลักในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของจีนหลายตัวอ่อนแอลงอย่างคาดไม่ถึง ตอนนี้ทุกคนตระหนักแล้วว่าเศรษฐกิจจีนเข้าสู่ภาวะเงินฝืดคนจีนที่ออกไปท่องเที่ยวต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นคนจีนชั้นกลาง ปัจจุบันรายได้ของคนจีนชั้นกลางน้อยลง คนที่เข้ามาทำมาหากินในประเทศจีนอย่างผู้เขียนเปิดฟ้าส่องโลกสามารถสัมผัสได้ โดยที่ไม่ต้องไปดูคำทำนายจากสำนักเศรษฐศาสตร์สำนักไหน.นิติการุณย์ มิ่งรุจิราลัยsonglok1997@gmail.comคลิกอ่านคอลัมน์ "เปิดฟ้าส่องโลก" เพิ่มเติม