เพิ่งลาสิกขาหลังตัดสินใจบวชเงียบๆที่วัดป่า จ.สกลนคร นักร้องนักแสดงหนุ่มอารมณ์ดี “ก้อง-อัครเดช ยอดจำปา” หรือ “ก้อง ห้วยไร่” ได้มุมมองชีวิตหลายอย่าง ล่าสุดก้องแสดงนำในภาพยนตร์ “คฤหาสน์ผีปอบ” ผลงานหนังออริจินอลทาง TrueID (ทรูไอดี) เดินทางมาร่วมพบปะแฟนๆย่านอนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เล่าเรื่องราวการตัดสินใจบวช เริ่มจากเพิ่งลาสิกขามา?“เป็นช่วงชีวิตที่ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จจนกลัว กลัวว่าถ้าวันนึงความสำเร็จมันโดนสอยจากสิ่งที่เรามองไม่เห็น ด้วยความที่เราเป็นคนพุทธ เชื่อในกฎแห่งกรรม ชีวิตช่วงนี้มันดี มันราบรื่นจนน่าตกใจ งั้นเลยขอชิงทำบุญให้กับเจ้ากรรมนายเวร และถือโอกาสพักจิตตัวเองจริงๆเพราะทุกคืนต้องออกไปเจอผู้คนมากมายและต้องเป็นในสิ่งที่พี่ๆ น้องๆ อยากเห็นเราในแบบนั้น เราไม่เคยได้ใช้ชีวิตที่เป็นตัวเองเลย ก็เลยตัดสินใจบวช ถ้าไปจำศีลก็คงจะอีกแบบนึง ถ้าบวชต้องถือศีล 227 ข้อของพระพุทธองค์ ก็น่าจะเป็นอีกกรอบนึงให้เราได้อยู่กับตัวเองมากขึ้น เลยตัดสินใจบวชเงียบๆ”ทำไมบวชเงียบ?“ด้วยความที่เรามีกัลยาณมิตรที่เค้าทำมาก่อนแล้วมันดี ไม่ต้องวุ่นวายพ่อแม่เราต้องไปเตรียมกับข้าวให้ใครกิน ไม่ต้องวุ่นวายว่าจะต้องใส่ชุดอะไร แต่ให้พ่อแม่พี่น้องตั้งจิตว่าลูกชายจะไปบวช ก็ทำแค่ข้าวหม้อแกงหม้อ พาพ่อแม่ไปบวชกันแถวบ้านเลย 2-3 วันแรกเรายังหาความเพลินอยู่เพราะเรามีความสุขกับการใช้ชีวิตข้างนอก อายุเรา 36 ปีแล้ว มันสนุกกับการมีหนังให้ดู เบื่อก็ไปนวด เซ็งก็ไปเตะบอล วัฏจักรเราเป็นมาแบบนี้ พอเราได้เข้ามาบวชจริงๆมันมีแค่เรากับเรา วัดที่ไปบวชเป็นวัดที่อยู่ในป่า ไม่มีการใช้โทรศัพท์มือถือ ด้วยความที่เราไม่เข้าใจ เลยไปถามครูบาอาจารย์ที่เป็นพระอุปัชฌาย์ว่าทำไมเวลาที่ผมอยู่ในที่บวชเวลาถึงเดินช้าจัง ผมจำวัดไป 3 ครั้งแล้วยังไม่มืดซะที ไม่เหมือนตอนผมออกไปทำงานแป๊บเดียวก็จะมืดแล้ว ท่านเลยบอกว่าเราอยู่กับความเพลินจนชิน เราอยู่กับความสุขจนชิน ความสุขที่เป็นกิเลส แต่ถ้าเราอยู่กับตัวเองจริงๆจะไม่มีความเพลิน เรื่องที่อยู่ในจิตคือเดี๋ยวก็แก่ พรุ่งนี้ก็ตาย นี่คือสิ่งที่วนเวียนอยู่ในจิตอยู่แบบนี้ทำให้เวลาเดินช้ามากครับตอนบวช”7 วันที่บวชได้อะไรกลับมาบ้าง?“ได้ความไม่เที่ยงครับ เช่น ก่อนจะไปบวชมีงานเข้ามา 1 ชิ้น สึกออกมาเค้าได้เป็นคนอื่นไปแล้ว นี่คือความไม่แน่นอนที่มันเกิดขึ้น” ตอนบวชมีคิดถึงชีวิตทางโลกบ้างมั้ย?“3 วันแรกครับ คิดถึงลูกเมีย คิดถึงความเพลิน พอเข้าวันที่ 4 มันเหมือนจิตของเรามันนิ่งแล้ว ได้เห็นพ่อแม่มากราบไหว้ เอาอาหารมาให้เรายิ่ง ทำให้เราตระหนักว่าเราต้องเป็นพระสงฆ์ที่ดี ต้องไม่ให้ด่างพร้อยเพื่อให้สมกับที่พ่อแม่ที่เราเคารพท่านมากราบเรา อยากให้เขาได้บุญเยอะๆ ไม่ต้องไปลำบากในโลกหน้า ซึ่งมันเป็นความเชื่อส่วนบุคคลอยู่แล้ว ซึ่ง 7 วันผมมองว่ามันยังน้อยไป อยากให้พี่ๆน้องๆทุกคนได้ลองดูสักครั้งในชีวิต เราได้อยู่กับตัวเองจริงๆ”ได้เอาธรรมะมาปรับใช้กับการทำงาน?“ผมมองว่าอาชีพที่ผมทำอยู่ไม่ใช่อาชีพที่ดี อาชีพผมเป็นการชวนชาวบ้านมากินเหล้า มีความรู้สึกว่าอยากจะหยุดมัน แล้วก็ได้เอาเรื่องนี้ไปปรึกษาครูบา อาจารย์ที่เป็นพระ ท่านก็บอกว่าถือว่าตัวเองไปอยู่ในสงคราม แล้วพาคนในสงครามออกมาให้ได้มากได้น้อยเอาที่พอจะทำได้ เวลาไปร้องเพลงก็ไม่จำเป็นต้องบอกทุกคนยกแก้ว ขอให้ 1 ชม.ที่ชมคอนเสิร์ตเราให้เขาวางแก้วลง หยุดดื่ม ก็ถือว่ายังช่วย”ถามถึงที่วันเกิดภรรยาโพสต์ทะเบียนสมรส?“ผมใช้ชีวิตกับเค้ามา 7 ปีแล้ว เค้าเป็นคนน่ารัก ดูแลครอบครัวและคนทางบ้าน ทะเบียนสมรสจดตั้งแต่แต่งงานกันแล้ว ส่วนมากจะเอาออกมาแซวกันเล่นเพื่อให้ชีวิตมีสีสันหน่อย สำหรับของขวัญ ผมว่าการที่เราได้อยู่ด้วยกันแบบมีลมหายใจมันพิเศษมากๆเลยครับ จะคุยกับเค้าตลอด ฟีลผู้ชาย ไปเตะบอลภรรยาไปด้วย กลัวยุงกัดอะไรกัด เค้าเลยบอกว่าให้อยู่ด้วยเถอะ ไม่รู้ว่าจะตายจากกันวันไหน เราก็เลยโอเคไปไหนไปกัน ทุกวันนี้ถ้าจะไปทำงานทั้งในและต่างประเทศ ผมต้องขอมีตั๋วเพิ่ม 1 ใบของภรรยา ก็จะมีตั๋วศิลปิน ตั๋วผู้จัดการของผมต้องมีตั๋วภรรยาด้วย ถ้าไม่จ่ายค่าตัวให้ก็ฝากเดินเรื่องวีซ่าให้หน่อย เพราะทำไม่เป็น ที่เลือกโชว์ทะเบียนสมรสอีกครั้งมันเหมือนเป็นสมบัติ พยานรักที่ไม่ใช่แค่ลูก ที่จะเตือนใจเราเองว่าเราอยู่ในกรอบ อยู่ในสิ่งที่ต้องกลัวบ้าง เตือนใจผมเองครับ ผมจะลงแบบนี้ ทุกปี เป็นสมบัติความรักของเราที่จะติดตัวเราตลอดนะ” ไม่ได้ถือเคล็ด?“ไม่ครับ แต่เมื่อก่อนที่แต่งงานกัน 3 รอบ ก็โดนแซวว่าแต่งงานเอาซอง แต่จริงๆคือแต่งงานเอาเคล็ดเพราะเราเชื่อในพญานาค คือเค้ามีทุกอย่างแต่เค้าจะมีปมคือไม่ประสบความสำเร็จในความรักต้องแต่งงาน 7 ครั้ง แต่นี่ไม่อยาก ได้เมีย 7 คน อยากได้เมียคนเดียว แต่งซ้ำๆ นี่แหละ”พูดถึงที่เราเป็นไวรัลที่จีน มีโอกาสจะได้ไปร้องเพลงที่จีนมั้ย?“อันนี้คือเซอร์ไพรส์มากเลยครับในติ๊กต่อกจีน ทุกวันนี้มีแฟนเพลงชาวจีนมาถ่ายไลฟ์สไตล์ชีวิต เอาเรื่องราวเราไปที่จีน ก็มีแซวนะแต่เราไม่รู้ภาษาจีนเลย ไม่รู้ว่าเค้าอยากจะให้เราไปร้องเพลงที่จีนหรือคัฟเวอร์เพลงที่เป็นภาษาจีนบ้าง อนาคตก็น่าจะทำ”.