แฟนๆขา ประจำลุ้นหวยรวยเบอร์แทบจะทุกงวดจะมี “เลขเด็ด” ที่เกี่ยวกับ “แม่ผึ้ง” พุ่มพวง ดวงจันทร์ ราชินีลูกทุ่งของประเทศไทยให้ลุ้นอยู่ตลอด หากย้อนไปเมื่อครั้งครบรอบ 30 ปีแห่งการจากไปในปีที่แล้ว...เลขทั้งหมดที่ขายดีก็จะมี 13, 30, 31, 61, 04 ปีนี้...วันที่ 13 มิถุนายน 2566 ครบรอบการจากไป 31 ปี “ราชินีลูกทุ่ง” แม้แม่ผึ้งจะอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ แต่ก็มีความพยายามการจดจำอันยอดเยี่ยม ทำให้ “พุ่มพวง” เจิดจรัส จนเป็นลูกทุ่งสาวคนแรกที่ได้ขึ้นแสดงบนเวทีหรู โรงแรมดุสิตธานีบนเส้นทางความฝัน “รำพึง จิตรหาญ” หรือ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” เกิดเมื่อ 4 สิงหาคม พ.ศ.2504 เป็นลูกคนที่ 5 ของครอบครัว จากเด็กน้อยที่ร้องเพลงในไร่อ้อย ระหว่างช่วยครอบครัวทำงาน เสียงร้องที่อ่อนหวาน ทำให้พ่อเห็นแวว จนพาเธอไปแข่งขันตามเวทีประกวดตั้งแต่อายุ 8ขวบโดยใช้ชื่อว่า “น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย”จากเสียงร้องอันแว่วหวานทำให้ “น้ำผึ้ง ณ ไร่อ้อย” กวาดรางวัลทุกการประกวด พ่อจึงพาไปฝากเป็นลูกบุญธรรม “ราชาเพลงแหล่” ไวพจน์ เพชรสุพรรณ เมื่ออายุ 15 ปี และได้อัดแผ่นเสียงเพลงแก้วรอพี่ ก่อนครูมนต์เมืองเหนือเห็นแวว จึงได้นำมาปลุกปั้นให้เจิดจรัส ด้วยชื่อ พุ่มพวง ดวงจันทร์ บนเส้นทางที่ต้องไต่เต้าไปสู่ราชินีลูกทุ่ง ช่วงแรกไม่ประสบความสำเร็จ โดยร้องเพลง “รักไม่อันตราย” แก้เพลงของนักร้องรุ่นพี่คือ ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด ที่ร้องเพลง “รักอันตราย”ความล้มเหลวครั้งนั้นเป็นบทเรียนสำคัญ ทำให้สาวจากไร่อ้อยต้องยุบวงดนตรี แต่ยังไม่คิดหันหลังให้แสงไฟหรือกลับคืนบ้านนาดั่งเพลงที่ร้องไว้ กระทั่ง “นายห้าง” ประจวบ จำปาทอง สนับสนุนทำให้เริ่มมีเพลงติดหูคนฟัง และต่อมาได้ร่วมตั้งวงดนตรีกับรุ่นพี่จากเมืองสุพรรณคือ “เสรี รุ่งสว่าง”แม้ว่ายุคสมัยที่เปลี่ยนไปจะทำให้กระแสเพลงลูกทุ่งลดบทบาทลง ถูกแทนที่ด้วยเพลงสตริง ทว่า...“พุ่มพวง” จากที่เคยมีเพลงหวาน เช่น สาวนาสั่งแฟน คนดังลืมหลังควาย ได้เปลี่ยนโฉมหน้าวงการลูกทุ่ง ด้วยทำนองเพลงป๊อปและเนื้อเพลง ตามแบบฉบับสาวยุคใหม่ ที่พร้อมจะต่อปากต่อคำ...จีบฝ่ายชาย...ไม่เขินอายเหมือนยุคก่อน ดังเช่นเพลงหนูไม่รู้, หนูไม่เอา, พี่ไปดู หนูไปด้วย, ขอให้รวย13 มิถุนายนนี้ ครบ 31 ปี การจากไปของราชินีลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ มีการจัดงานรำลึกที่ “วัดภาษี” เอกมัย และอีกที่ “วัดทับกระดาน” จ.สุพรรณบุรี ความพิเศษปีนี้ มีการตั้งหุ่น “แม่ผึ้ง” ใหม่เป็นตัวที่ 13 พร้อมไขปริศนา ทำไมต้องแก้บนด้วยโต๊ะเครื่องแป้งตามความเชื่อและโต๊ะเครื่องแป้งนำไปไหน ด้วยความที่ปีนี้เป็นปีที่ 31 ของการจากไป เลยมีการจัดงานที่ยิ่งใหญ่กว่าทุกปี การจัดงานเป็นธรรมเนียมในวันแรกๆจะมีการจัดงานประกวดร้องเพลง ส่วนคอนเสิร์ตมีด้วยกัน 3 เวที ด้วยมีศิลปินกว่า 300 ท่าน แจ้งความจำนงในการเดินทางมาร่วมแสดงตลอดงาน 9 วัน 9 คืนแต่ละวัน...ยังคงเนืองแน่นไปด้วยประชาชน แม้จะเป็นวันทำงานตามปกติ แต่ก็ยังมีคนเดินทางมากราบไหว้ขอพร รวมถึงเขย่าเซียมซีเสี่ยงทายหาเลขเด็ดกันไม่ขาดสายนับรวมไปถึงมีผู้นำสิ่งของมาแก้บนกันมากมาย แต่ในงานที่จะเห็นมากเป็นพิเศษคือประชาชนที่มาไหว้พุ่มพวง มักจะแต่งกายด้วยชุดลายเสือเพื่อมากราบเคารพพุ่มพวง โดยมีกลุ่มหนุ่มสาวเดินทางจากกรุงเทพฯแต่งกายด้วยชุดลายเสือ บางคนใส่เสื้อลายเสือ บางคนใส่กางเกงลายเสือมาเที่ยวงานถามไถ่มักได้ความว่า ทุกๆคนนัดกันแต่งชุดให้มีลายเสือมา เพราะแม่ผึ้ง พุ่มพวงชอบ เลยใส่มาไหว้แน่นอนว่าบรรยากาศจะยิ่งคึกคัก แฟนเพลงค่อนข้างตื่นตัวมาก ในการมาร่วมรำลึกการจากไปครั้งนี้ “วัดทับกระดาน” จุดที่แฟนเพลงนิยมมาไหว้เพื่อรำลึกถึงพุ่มพวง ดวงจันทร์ คือจุดตั้งหุ่นที่ 1, 2, 4, 5 ภายในวัดโดยมีหุ่นแม่ผึ้ง ตั้งไว้ทั้งหมด 13 จุด กระจายอยู่ทั่วบริเวณวัดสำหรับ “หุ่นตัวที่ 13” เป็นตัวสุดท้าย ที่น้องสาวและลูกของแม่ผึ้งสร้างขึ้นมาใหม่ จึงมีความสวยงาม ขณะที่พื้นที่ในการตั้งหุ่นเป็นเงินที่ได้รับจากการบริจาคของแฟนเพลง จนทางวัดสามารถซื้อพื้นที่ส่วนนี้ได้ 6 ไร่ นำมาทำเป็นสถานปฏิบัติธรรม ถือว่าเป็นสถานที่แห่งความรักและศรัทธาต่อพุ่มพวง ดวงจันทร์น่าสนใจว่าทุกจุดที่ตั้งหุ่นภายในวัดล้วนมีความผูกพันกับแม่ผึ้ง ยกตัวอย่างเช่นจุดที่ 1 บริเวณต้นไทร เป็นจุดที่พุ่มพวง ดวงจันทร์ เคยมาเล่นคอนเสิร์ตเมื่อตอนยังมีชีวิตอยู่น่าสนใจว่าด้วยความศรัทธาที่มีต่อ “พุ่มพวง” ทำให้ผู้คนเดินทางมาขอพรให้สมปรารถนาในหลายๆเรื่อง แน่นอนว่าเมื่อสำเร็จสมดังหวังตั้งใจแล้วก็กลับมาแก้บน โดยมีเครื่องสำอาง เสื้อผ้า แต่...สิ่งที่มีจำนวนมากคือ โต๊ะเครื่องแป้ง กล่าวได้ว่าเกิดขึ้นจากการบอกปากต่อปากของคนที่มา ว่าแม่ผึ้งมีอุปนิสัยรักสวยรักงาม เลยมีการนำโต๊ะเครื่องแป้งมาแก้บน พอนานเข้ามีจำนวนมาก คนทั่วไปที่มาแก้บนก็อยากมอบสิ่งของที่มีขนาดใหญ่ เมื่อสมปรารถนาเลยทำให้วัดมีโต๊ะเครื่องแป้งจำนวนมากนับตั้งแต่ต้นปีมานี้ก็มีคนนำโต๊ะเครื่องแป้งมาแก้บนจำนวนมากแล้ว โดยมีขนาดและรูปแบบแตกต่างกันออกไป ซึ่งคนที่นำมาแก้บนจะมีการเขียนชื่อตัวเองไว้ด้านหลังเพื่อเป็นบุญกุศล ในการมอบให้กับวัดด้วยความที่มี “โต๊ะเครื่องแป้ง” จำนวนมาก ทางวัดมีการบอกกล่าวแม่ผึ้งก่อนทุกครั้ง ในการนำโต๊ะเครื่องแป้งไปจำหน่ายแก่ผู้สนใจ โดยนำเงินที่ได้มามอบเป็น “ทุนการศึกษา” ให้กับนักเรียนยากไร้ ในช่วงครบรอบวันเสียชีวิตทุกปีฝากไว้ว่าแฟนเพลงที่จะนำโต๊ะเครื่องแป้งมาแก้บนสามารถนำมาไว้บริเวณที่ตั้งหุ่นตัวที่ 1 และจุดที่ 2 ซึ่งจะมีสถานที่กว้างขวางสามารถตั้งได้ แต่ไม่ให้นำมาตั้งจุดที่ 13 เนื่องจากมีสถานที่คับแคบ และเป็นพื้นที่ปฏิบัติธรรม พลิกแฟ้มปูมประวัติ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ที่เป็นจุดเปลี่ยนสำคัญ หลังจากมีชื่อเสียงก็กลับเก็บตัวเงียบห่างหายจากเวที จนวันที่ 20 มีนาคม 2535 ได้เดินทางจากเชียงใหม่ เพื่อเข้ารักษาอาการป่วยในโรงพยาบาลที่จังหวัดจันทบุรี ต่อมาได้ย้ายมารักษาที่โรงพยาบาลศิริราช...แพทย์วินิจฉัยว่าเป็นโรคเอสแอลอีหรือ...โรคแพ้ภูมิตัวเอง อาการขั้นรุนแรงลุกลามไปถึงไตด้วยอาการป่วยทรุดหนักจึงตัดสินใจออกจากโรงพยาบาลศิริราช เพื่อไปรักษาตัวด้วยแพทย์ทางเลือกที่จังหวัดพิษณุโลก เมื่อถึงที่หมายได้แวะกราบพระพุทธชินราชในช่วงบ่าย หลังจากนั้นเกิดอาการช็อกหมดสติ ญาติได้นำส่งโรงพยาบาลพุทธชินราช แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้“พุ่มพวง”...ราชินีลูกทุ่ง จึงจากไปเมื่อเวลา 20.55 น. วันที่ 13 มิถุนายน 2535 ด้วยวัย 31 ปี และในปีนี้ก็เป็นปีที่ครบรอบการจากไป 31 ปีพอดิบพอดี.