เมื่อวันเสาร์ที่ 3 มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวัน “มหามงคล” สำหรับประชาชนชาวไทยถึง 2 ประการ เพราะเป็นทั้ง “วันวิสาขบูชา” วันสำคัญยิ่งของพุทธศาสนา และ “วันเฉลิมพระชนมพรรษา” สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดาฯ พระบรมราชินีควบคู่กันนั่นเอง...พี่น้องชาวกรุงเทพมหานคร ทางซีกตะวันออกไปจรดถึงชาวสมุทรปราการก็ได้รับของขวัญชิ้นใหญ่ ชิ้นหนึ่งที่สมควรแก่การบันทึกไว้นั่นก็คือการออกทดลองเดินรถให้ประชาชนนั่งฟรีของ “รถไฟฟ้าสายสีเหลือง” ซึ่งมีฉายาที่เรียกกันมาล่วงหน้าอย่างติดปากว่า “น้องเก๊กฮวย” จาก สถานีหัวหมาก ใกล้สี่แยกถนนศรีนครินทร์ตัดถนนพัฒนาการ กทม. ไปสู่ สถานีสำโรง จังหวัดสมุทรปราการ รวมทั้งสิ้น 13 สถานีเที่ยวแรกออกจากสถานีต้นทางปลายทางทั้ง 2 แห่งพร้อมกันเวลา 09.00 น. และเที่ยวสุดท้ายจะออกจากสถานีต้นทางปลายทางพร้อมกันเวลา 20.00 น.ผมทราบข่าวและตัดสินใจเขียน “ต้อนรับ” ในทันที จาก “ไลน์” ของครอบครัวผมน่ะครับ เมื่อลูกๆ หลานๆ ซึ่งพักอยู่ใกล้ๆเส้นทาง ยกขบวนกันไปขึ้นนั่งโดยสารฟรีเป็นประเดิมแล้วโพสต์มาอวดปู่ย่าพร้อมบรรยายใต้ภาพมาว่าออกจากสถานีหัวหมากต้นทาง เมื่อเวลา 09.22 น. ผู้คนมารอขึ้นแน่นมาก และเมื่อไประหว่างทางก็ยิ่งแน่นขึ้นอีก แสดงว่าพี่น้องประชาชนย่านนี้รู้ข่าวคราวต่างมารอขึ้นเอาฤกษ์เอาชัยหลายพันคนในภาคเช้า“น้องเก๊กฮวย” วิ่งไปทั้งหมด 13 สถานี ได้แก่ หัวหมาก, กลันตัน, ศรีนุช, ศรีนครินทร์ 38, สวนหลวง ร.9, ศรีอุดม, ศรีเอี่ยม, ศรีลาซาล, ศรีแบริ่ง, ศรีด่าน, ศรีเทพา, ทิพวัล, และ สำโรงรวมระยะทาง 17.8 กม. ใช้เวลา 34 นาที รวมทั้งเวลาหยุดรับส่งผู้โดยสารแต่ละสถานีด้วยนอกจากผมจะได้รับ “ไลน์” จากหลานๆแล้ว ต่อมาก็ได้อ่านข่าวที่มีการแถลงอย่างเป็นทางการว่า “สายสีเหลือง” หรือ “น้องเก๊กฮวย” ออกวิ่งให้บริการฟรีตั้งแต่ 3 มิถุนายน ไปจนถึงวันที่ 30 มิถุนายนจากนั้นจะมีการประเมินผลและจะมีการทดลองวิ่งต่อให้ครบทั้ง 23 สถานี โดยจะย้อนจาก สถานีหัวหมาก ไปสู่สถานี ศรีกรีฑา, แยกลำสาลี, บางกะปิ, ลาดพร้าว 101, มหาดไทย, ลาดพร้าว 83, ลาดพร้าว 71, โชคชัย 4, ภาวนา และสุดท้ายที่สถานีใหญ่ ลาดพร้าว รวมตลอดทั้งสาย 28.7 กิโลเมตรในการทดลองส่วนหลังนี้จะเริ่มขึ้นเมื่อใดโปรดติดตามกันต่อไปผมไม่แน่ใจว่าการเริ่มต้นก่อสร้างรถไฟฟ้าสาย “เก๊กฮวย” จะเริ่มขึ้นเมื่อใดจำได้คร่าวๆว่า น่าจะไม่ต่ำกว่า 4 ปีมาแล้วนับเป็น “วิบากกรรม” ของพี่น้องประชาชนที่อยู่อาศัยในถนนลาดพร้าวไปจนถึงถนนศรีนครินทร์จนเข้าสู่จังหวัดสมุทรปราการอย่างแสนสาหัส ที่ต้องเจอปัญหารถติดระหว่างก่อสร้างจากบ้านผมย่านบางกะปิเข้า ไทยรัฐ หรือจากไทยรัฐกลับบ้านต้องใช้เวลาเดินทาง 2-3 ชั่วโมงในช่วงเช้าเย็น จนผมต้องหนีไปใช้ถนน เกษตรนวมินทร์ อ้อมเข้าวิภาวดี ที่ระยะทางไกลกว่าแต่อยู่ในวิสัย 45 นาที หรือไม่เกินชั่วโมงเป็นอย่างมากขณะเดียวกันในวันหยุดรถว่างผมก็หาโอกาสผ่านเข้าลาดพร้าวด้วยความคิดถึง ซึ่งก็พบว่าตึกแถวจำนวนมากถูกปิดตายกลายเป็นตึกร้างอย่างน่าเศร้าใจในระหว่างก่อสร้างไม่แน่ใจว่าจะฟื้นกลับมาได้หรือไม่?อดนึกไม่ได้ว่าทำไมการเข้าสู่ความเจริญจะมีรถไฟฟ้าใช้กับเขาสักสายหนึ่ง นอกจากจะต้องลงทุนมหาศาลแล้ว ยังต้องสูญเสียต้นทุนดั้งเดิมไปอีกมากและประเมินค่ามิได้เช่นนี้หนอแต่ก็เอาเถอะเมื่อจำเป็นจะต้องเดินหน้าเพื่อไปสู่ความเจริญและแก้ปัญหาการจราจรก็ต้องยอมผมเองแม้จะยังไม่ได้ไปขึ้นกับลูกหลานแต่ก็เคยนั่งรถผ่านขณะที่มีการซ้อมเดินรถก่อนหน้านี้มาหลายครั้ง ยังจำภาพ “น้องเก๊กฮวย” ซึ่งเป็น โมโนเรล ผลิตจากจีน ขนาดเล็กกว่า BTS สามารถต่อตู้ได้เต็มที่ถึง 7 ตู้ แต่ธรรมดาจะวิ่ง 4 ตู้ แล่นผ่านศีรษะไปติดตาแต่ละตู้บรรจุผู้โดยสาร 356 คน และเชื่อว่ารองรับผู้โดยสารได้ 15,000 คนต่อชั่วโมงต่อทิศทาง ตามที่เคยแถลงไว้ขอต้อนรับ “น้องเก๊กฮวย” อีกครั้ง และขออวยพรให้ประสบความสำเร็จ ขอให้พี่น้องประชาชนมาใช้กันมากๆ และไม่ประสบ ภาวะขาดทุน เหมือนบางสายที่มีข่าวว่าทุกวันนี้ยังแย่อยู่เลยเปิดใช้จากสถานีบางกะปิมาลาดพร้าว หรือแม้แต่จะไปสำโรงเมื่อไร ผมจะรีบไปขึ้นเป็นประเดิมเลยนะครับ.“ซูม”