“รองโจ๊ก” แถลงทลาย “แก๊งบังโก้” เงินกู้นอกระบบรายใหญ่ ค้น 12 จุด 5 จังหวัดจับสมุนในเครือข่าย 24 คนพร้อมของกลาง หลังผู้เสียหายร้องเรียนถูกขูดดอกโหดถึงร้อยละ 340 ต่อปี พฤติกรรมจะเข้าไปทิ้งนามบัตรในตลาดนัดหรือชุมชนให้พ่อค้าแม่ค้าผู้ขาดสภาพคล่องกู้ แฉเงินสะพัดกว่า 600 ล้านบาทในระยะแค่ 2 ปี สั่งตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ตัดท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มผู้กระทำผิดให้สิ้นซากทลายแก๊งเงินกู้นอกระบบเครือข่าย “บังโก้” ครั้งนี้เปิดเผยขึ้นเมื่อวันที่ 2 มิ.ย. ที่ บก.ภ.จ.อุดรธานี พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. แถลงข่าว พล.ต.ท.พนัญชัย ชื่นใจธรรม ผู้ทรงคุณวุฒิพิเศษ ตร. และหัวหน้าชุดปฏิบัติการส่วนกลาง ศปน.ตร. พร้อมชุดปฏิบัติการ บก.ปอศ. สนธิกำลังกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ภ.3, ภ.4, ภ.7, ภ.8 และ ภ.9 มากกว่า 100 นาย ทลายเครือข่าย “แก๊งบังโก้” เงินกู้นอกระบบ ปิดล้อมตรวจค้นเป้าหมาย 12 จุด ใน 5 จังหวัด ได้แก่ กาญจนบุรี 3 จุด อุดรธานี 4 จุด ขอนแก่น 2 จุด สุราษฎร์ธานี 1 จุด และสงขลา 2 จุด จับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 24 ราย กล่าวหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต และร่วมกันเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด” ตรวจยึดของกลาง 11 รายการ อาทิ นามบัตร 880,000 ใบ สัญญากู้ 122 ฉบับ เอกสารผู้กู้ 642 ฉบับ แท็บเล็ต 8 เครื่อง สมุดบัญชีธนาคาร 17 เล่ม บัตรเอทีเอ็ม 1 ใบ โทรศัพท์มือถือ 16 เครื่อง เครื่องคิดเลข 8 เครื่อง รถยนต์ 1 คัน จยย. 13 คัน เงินสด 15,200 บาทพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เผยว่า ช่วงปี 2565 มีผู้เสียหายหลายรายแจ้งความร้องทุกข์ กก.5 บก.ปอศ. กรณีกู้เงินจากนายทุนเงินกู้นอกระบบชื่อ “แก๊งบังโก้” มีพฤติการณ์เรียกดอกเบี้ยโหดสูงถึงร้อยละ 340 ต่อปี เป็นเหตุให้ได้รับความเดือดร้อน ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นำโดย พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.และผอ.ศปน.ตร., พล.ต.อ.สมพงษ์ ชิงดวง ที่ปรึกษาพิเศษ ตร. และรอง ผอ.ศปน.ตร. พล.ต.ท.สราวุฒิ การพานิช ผู้ช่วย ผบ.ตร.และรอง ผอ.ศปน.ตร. สั่งการให้ บช.ก. เร่งรัดปราบปราม พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. มอบหมาย บก.ปอศ. โดย พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผบก.ปอศ. สืบสวนจนทราบว่ากลุ่มผู้กระทำผิดดังกล่าวเป็นเครือข่ายเงินกู้รายใหญ่ มีนายเกียรติศักดิ์ จันทร์แจ้ง อายุ 29 ปี หรือบังโก้ เป็นหัวหน้าแก๊งหรือนายทุน มีเครือข่ายกระจายอยู่ตามหัวเมืองต่างๆ เช่น กาญจนบุรี อุดรธานี ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และสงขลา ได้รวบรวมพยานหลักฐานและขออนุมัติหมายจับกลุ่มเครือข่ายของบังโก้ทั้งหมด 14 รายรอง ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า กลุ่มผู้กระทำผิดมีพฤติการณ์เข้าไปตามแหล่งชุมชนต่างๆ ตลาดนัด หรือร้านค้าทิ้งนามบัตรในการติดต่อของกู้เงิน ชักชวนให้ผู้ประกอบธุรกิจรายย่อย และประชาชนทั่วไปที่ขาดสภาพคล่องทางการเงิน ไม่สามารถเข้าถึงแหล่งทุนถูกกฎหมาย เรียกเก็บดอกเบี้ยอัตราที่สูงกว่ากฎหมายกำหนดถึงร้อยละ 340 ต่อปี ตรวจสอบเส้นทางการเงินพบมีเงินหมุนเวียนในบัญชีช่วงระยะเวลา 2 ปี มากกว่า 600 ล้านบาท อีกทั้งกลุ่มผู้กระทำความผิดโพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊กชักชวนผู้อื่นเข้าร่วมขบวนการอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมายพล.ต.อ.สุรเชษฐ์กล่าวตบท้ายว่า จากนี้จะสั่งการให้ตรวจสอบทรัพย์สินที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ตัดท่อน้ำเลี้ยงของกลุ่มผู้กระทำผิดให้สิ้นซาก หากพี่น้องประชาชนคนใดได้รับความเดือดร้อนจากแก๊งเงินกู้ หรือมีเบาะแสที่เป็นประโยชน์ สามารถแจ้งได้ที่ช่องทาง 1599 หรือสามารถแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ได้เช่นกัน ศูนย์ป้องกันปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับหนี้นอกระบบ สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ขอฝากเตือนภัยถึงประชาชนอย่าหลงเชื่อในการกู้เงินจากแหล่งเงินกู้นอกระบบซึ่งไม่มีความน่าเชื่อถือและไม่ได้รับอนุญาต รวมทั้งยังเรียกดอกเบี้ยเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด หากต้องการตรวจสอบ แหล่งเงินกู้ที่ถูกต้องตามกฎหมาย ตรวจสอบใบอนุญาตการปล่อยสินเชื่อได้
