วันเสาร์สบายๆวันนี้ไปเที่ยวอียิปต์กันต่อนะครับ วันนี้เราออกเที่ยววันแรกหลังจากที่บินยาวจากกรุงเทพฯมาเปลี่ยนเครื่องที่ดูไบ บินต่อไปลงที่สนามบินกรุงไคโร แล้วบินต่อไปลงที่ ลักซอร์ (Luxor) บินรวดเดียวสิบกว่าชั่วโมง ถึงลักซอร์ตอนเย็น เช็กอินเข้าโรงแรมฮิลตัน ริมฝั่งแม่นํ้าไนล์นอนพักหนึ่งคืนแล้วก็ออกเที่ยวกันเลยลักซอร์ เดิมคือ เมืองธีปส์ (Thebes) เมืองหลวงเก่าของอียิปต์โบราณ เป็นเมืองท่องเที่ยวสำคัญของอียิปต์บน แต่ตั้งอยู่ตอนใต้ของประเทศ เป็นอีกเรื่องแปลกของแดนไอยคุปต์ แม่นํ้าไนล์ ก็เช่นเดียวกัน ไหลจากใต้ขึ้นเหนือ ไปลงทะเลที่เมดิเตอร์เรเนียน ลักซอร์ เป็นที่ตั้งของโบราณสถานสำคัญหลายแห่ง อาทิ Temple of Karnak มหาวิหารอายุกว่า 3,600 ปี Luxor Temple วิหารอายุกว่า 3,400 ปี มีรูปแกะสลักของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 อันโด่งดัง และ ราชินีเนเฟอร์ตารี ที่ได้ชื่อว่าเป็นราชินีที่สวยที่สุดของอียิปต์ ตั้งตระหง่านอยู่ตรงประตูทางเข้า มีเสาหินที่จารึกอักษรอียิปต์โบราณที่ยังสมบูรณ์ และสุสานของฟาโรห์และราชินีกว่าร้อยพระองค์ใน Valley of the Kings และ Valley of the Queens สะท้อนถึงอารยธรรมอันยิ่งใหญ่ของอียิปต์โบราณได้เป็นอย่างดีวันนี้ไปเริ่มกันที่ มหาวิหาร Kamak กันก่อนนะครับ เป็นวิหารที่ใหญ่ที่สุด และสวยงามที่สุดในอียิปต์ เป็น open air museum วิหารแห่งนี้เชื่อกันว่าสร้างขึ้นมาเพื่อถวายแด่ เทพเจ้าอะมอนรา (Amon–Re) หรือ สุริยเทพ เทพเจ้าแห่งดวงอาทิตย์ ชาวอียิปต์โบราณเชื่อว่าความสำเร็จอันยิ่งใหญ่ในชัยชนะเหนือศัตรูทั้งหลายของเหล่าฟาโรห์ ล้วนมาจากเทพเจ้าอะมอนราทั้งสิ้น ความโดดเด่นของวิหารคาร์นัค คือ รูปปั้นสฟิงซ์ (Sphinx) หัวแกะ ที่หมอบนั่งเฝ้าอยู่หน้าวิหารเรียงยาวไปจนถึงด้านในด้านหน้าวิหารมี เสาโอเบลิสก์ (Obelisk) สัญลักษณ์แห่งสุริยเทพเดิมมี 2 ต้น แต่สมัย พระเจ้ามูฮัมหมัด ส่งไปเป็นของขวัญให้ฝรั่งเศส 1 ต้น ด้านหลังเสามีรูปสลักของ ฟาโรห์รามเสส (Ramses) ที่ 2 และมีสระน้ำศักดิ์สิทธิ์เพื่อใช้ประกอบพิธีบูชาเทพเจ้ามหาวิหารคาร์นัคมีพื้นที่กว้างขวางใหญ่โตมาก เดินกันเหนื่อยเลยทีเดียว แถมแดดยังร้อนเปรี้ยง แต่โชคดีเป็นปลายฤดูหนาว ทำให้มีลมเย็นพัดมาคลายร้อนได้บ้าง ผมเดินไปพักไป เสาหินในวิหารส่วนใหญ่ก็คล้ายคลึงกัน มีการสลักภาพของเทพเจ้าและฟาโรห์กับอักษรอียิปต์ช่วงบ่ายเราไปเที่ยวกันต่อที่ Luxor Temple วิหารหลักของเมืองลักซอร์อีกแห่ง สร้างโดย ฟาโรห์อเมโนฟิสที่ 3 และอีกหลายฟาโรห์จนถึง ฟาโรห์รามเสสที่ 2 ได้ต่อเติมปรับปรุงจนเป็นวิหารที่สวยงามให้เป็นบ้านหลังที่สองของ เทพเจ้าอะมอนรา หรือ สุริยเทพ หน้าวิหารมี เสาโอเบลิสก์ ตั้งโดดเด่นอยู่ 1 ต้น หมายถึงชีวิต ความสว่าง และความรุ่งโรจน์ ปกติจะมี 2 ต้น แต่ถูกส่งไปเป็นของขวัญแก่ฝรั่งเศส หนึ่งต้นตั้งอยู่ที่ ปลาซ เดอ ลา คองคอร์ต กลางกรุงปารีส ใครไปกรุงปารีสคงเคยเห็นแน่นอน ประตูทางเข้าวิหารมีรูปแกะสลักขนาดยักษ์ของ ฟาโรห์รามเสสที่ 2 กับ ราชินีเนเฟอร์ตารี ประทับบนพระที่นั่ง ตอนค่ำมีการเปิดไฟตามมุมต่างๆ ทำให้วิหารลักซอร์สวยงามไปอีกแบบ ด้านหน้าวิหารมีถนนยาว 2 กม.เชื่อมต่อกับมหาวิหารคาร์นัค สองข้างถนนประดับด้วยสฟิงซ์ตลอดทางรุ่งขึ้นเราไปเที่ยวชมมหาสุสานอันโด่งดังของฟาโรห์แห่งอียิปต์ Valley of the Kings หุบผาแห่งกษัตริย์ สถานที่ฝังพระศพฟาโรห์กว่า 60 พระองค์ และ Valley of the Queens หุบผาแห่งราชินี มีอายุกว่า 3 พันปี ตั้งอยู่ในหุบเขากลางทะเลทรายนอกเมืองอันร้อนอบอ้าวสุสานฟาโรห์ที่โด่งดังที่สุดคือ สุสานฟาโรห์ตุตันคามูน (Tutankhamun) ที่พบสมบัติมากมาย โดยเฉพาะ “หน้ากากทองคำ” ที่วางปิดพระพักตร์มัมมี่ของพระองค์ สมบัติฟาโรห์ตุตันคามูนยังตั้งให้ชมที่พิพิธภัณฑ์กรุงโคไร ปีหน้าจะย้ายไปยังพิพิธภัณฑสถานอียิปต์แห่งใหม่ที่ใหญ่โตมโหฬารกว่า 5 แสนตารางเมตร ใหญ่ที่สุดในโลก ยังไม่เปิดเป็นทางการ แต่ไกด์พาไปชมมาแล้ว ในอนาคตจะเป็นแหล่งทำเงินให้อียิปต์อย่างมหาศาลเลยทีเดียว.“ลม เปลี่ยนทิศ”